วันอังคารที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2557

ผู้ชายจังไรขอแต้บไข่เพื่อเธอ #ผชจรขตขพธ SPECIAL ตอน amazing songkran สะท้านปฐพี

บุ๋นบี้ไทยแลนด์ภูมิใจและบังคับเสนอ
#ผชจรขตขพธ special (อีกแร้ว)
ตอน amazing songkran สะท้านปฐพี
ให้เสียงภาษาไทยโดย สุเมพ เมือกสุพรรณ
แกนนำหัวหน้าสมาคมคนรักกั้งทะเลแห่งชาติประจำปีพุทธศักราช 2557
ผู้เข้ารับฟังปราศรัยกรุณาเก็บนกหวีด ตีนตบไว้ในกระเป๋าของท่าน และอยู่ในความสงบ

________________________



“มึง! กูว้อนมากๆว่ะ มันอยู่ไม่ได้แล้ว!

นั่งคุยกันอยู่ในห้องนั่งเล่นที่บ้านของหนึ่งในสมาชิกของเดอะแก๊งค์ เฉินลุกพรวดขึ้นจากโซฟาหนังตุ่นก่อนจะหันมาพูดกับบรรดาเพื่อนๆที่เหลืออีกหกคนที่กำลังนั่งจกขนมดูทีวีกันอยู่อย่างเมามันส์ ไม่มีสัญญาณตอบรับจากหมายเลขที่คุณเรียก สมาชิกในเดอะแก๊งค์ยังคงให้ความสำคัญกับการกินมากกว่าเรื่องใหญ่ของเพื่อน เห็นแก่แดกสุดชีวิต

“อะไรวะ “

เป็นคริสคนเดียวที่ให้ความสนใจ แต่ถึงอย่างนั้นตาคมก็ไม่ได้มองไปที่ใบหน้าเหลี่ยมแหลมประหนึ่งไดโนเสาร์ของเพื่อนสนิทเลยแม้แต่น้อย ขายาวขยับออกจากโซฟา ยกตีนขึ้นมาดันสีข้างให้เฉินที่ยืนบังทีวีเขาอยู่ให้หลบออกไปจากรัศมี ยื่นรีโมทเปลี่ยนช่องไปมาไม่ยอมหยุด ไอสัด แม่งก็มีอยู่แค่สามสี่ช่อง มึงจะเลื่อนหาอะไร

“มึงกูอยากไปเล่นสงกรานต์ที่ไทยอะ กูพูดจริงๆ กูจะไป “

“สงกรานต์คือไรวะ “

ชานยอลเอ่ยถาม หูบานๆกระดกขึ้นลงยามเจ้าตัวเงยหน้า ก่อนจะเอื้อมไปจกป็อปคอร์นในถังใหญ่ที่อยู่บนตักของแบคฮยอนที่นั่งข้างๆกัน สองแก้มนิ่มของคนตัวเล็กเต็มไปด้วยเศษข้าวโพดคั่ว มองเผินๆแล้วเหมือนมึงไม่ได้ใช้มือหยิบ แต่เป็นการเอาหน้าจุ่มลงไปในถังเลยมากกว่า

“สงกรานต์คือเทศกาลหนึ่งของไทยอะ ที่แม่งจะสาดน้ำกันทั้งประเทศเลยเว้ย แล้วก็มีแบบ ไหว้ญาติผู้ใหญ่ไรงี้ แต่ที่สำคัญคือโคโยตี้ว่ะ นี่คือสิ่งที่กูตามหามาเนิ่นนานแล้ว กูอยากประแป้งสาวๆอะ“

“สัดเทามึงเลิกแดกสักแปปนึงได้มะ”

“เด็กๆชอบโคโยตี้ “

ว่าแล้วก็เปิดคลิปในยูทูปที่ตัวเองดูค้างไว้ให้ดู เป็นภาพสาวสวยหมวยเซ็กซ์เอ็กซ์แตกกำลังเต้นเหมือนหมาโดนน้ำร้อนลวกอยู่ท้ายรถกระบะ ภาพในคลิปแพลนไปโดยกว้าง คนจำนวนไม่น้อยเดินกันอยู่ตามถนน มีแป้งทาตัวทาหน้าเหมือนพม่าแถวศรีสามพราน ถือปีนฉีดน้ำอันเท่าควายกันคนละอันสองอัน สวมเสื้อผ้าลายดอก สีสันสดใสแสบลูกกะตา ทุกคนตัวเปียก หน้ากล้องเต็มไปด้วยหยดน้ำ และที่สำคัญ ใบหน้าของทุกคนเต็มไปด้วยรอยยิ้ม

“จริงๆนะมึง เราต้องไป “

“งั้น let’s go มึง เพื่อนม กูสู้!!!

ลุกพรวดขึ้นจากโซฟาด้วยอีกคนด้วยความมุ่งมั่นจนถังป็อปคอร์นที่แบคฮยอนเอามาฝากวางไว้บนตกหกกระจายลงบนพื้น ทั้งห้องนั่งเล่นเงียบกริบ ทุกคนมองหน้ากันเงียบๆ สื่อสารกันด้วยสายตาอย่างมีนัยสำคัญ ก่อนจะเบือนหน้าหนีกันไปคนละทาง ร่วมไว้อาลัยให้แก่ปาร์คชานยอล เพื่อนที่น่ารักและจังไรของเรา ขอให้วิญญาณไปสู่สุคติอย่างสงบ

“โอ้ย!!

ดวงตาฉายแววมุ่งมั่นที่สะท้อนเงาโคโยตี้ถึงกับกระตุกวูบ หลับตาปี๋ลงพร้อมกับกุมหัวตัวเองด้วยความเจ็บ ฝ่ามืออรหันต์ของแฟนตัวเตี้ยฟาดลงที่กลางกะบาลของเขาอีกครา หนังหัวสะท้านลั่นดังเพี้ยะฟังดูไพเราะ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าแบคฮยอนตบหัวเขาถึงได้ยังไง เงยหน้าดูก็เห็นแล้วว่าคนตัวเล็กกำลังยืนถกแขนเสื้อมองเขาด้วยสายตาพิฆาต ไม่รู้ว่าตกลงมันหึงหรือว่าเสียดายป็อปคอร์นที่หกกันแน่

“มันเสียดายของไหม! มึงเก็บขึ้นมาแดกให้หมดเลยนะ“

“ครับๆๆๆๆๆ”

ได้แต่ก้มหน้าก้มตาเก็บซากป็อปคอร์นที่หกกระจายอยู่ที่พื้นตามที่คุรแฟนสั่งอย่างเคร่งครัดไม่มีบิดพลิ้ว ถ้าให้จัดลำดับพระเอกที่โดนตบหัวบ่อยที่สุดที่หนึ่งคงไม่พ้นกูแน่ๆ พ่วงด้วยรางวัลเจ้าของหนังหัวที่มีความทนทานต่อแรงตบมากที่สุดในโลก ไดกิ้นชิดซ้าย ไซโจเดนกิชิดขวา พานาโซนิคนี่ยังสู้กูไม่ได้เลยนะนิ






welcome to Thailand

โดยสารเรือไททานิคมาเทียบท่าที่แม่น้ำบางปะกง บรรดาเดอะแก๊งค์ทั้งหลายๆค่อยๆย่างกรายลงจากกาบเรืออย่างทะมัดทะแมง อากาศประเทศไทยร้อนพ่อตายจนแทบจะอยากแก้ผ้ามันซะเดี๋ยวนั้น แต่ละคนใส่เสื้อแขนยาว ผ้าพันคอ หมวกไหมพรมมาครบ ดูแฟนตาซีเป็นที่สุด แฟนตาซีตั้งแต่มึงบอกว่ามันนั่งเรือมาแล้วไอเหี้ย! มาทางเครื่องบินสิวะ นั่งเรือแล้วชาตินี้มันจะถึงไหม มึงจะให้แปดคนช่วยกันแจวหรือไง ต้องจ้วงกี่ฝีพายกว่าจะข้ามมหาสมุทรอินเดียไปจากฟากนึงไปอีกฟากนึงได้ มันไม่ใช่เรื่องที่ต้องมานั่งถกเถียงกันทางวิชาการว่าจากเกาหลีมาไทยต้องข้ามมหาสมุทรอินเดียมารึเปล่า เพราะกูก็ไม่ได้ตั้งใจเรียนสังคมขนาดนั้น

“ทริปนี้สนับสนุนโดย เฉินฉี่ สปอนเซอร์หลักของเรา “

“ไอเหี้ยนี่บ้านมึงขายยาบ้ารึปะนิ “

คุยกันไปเรื่อยในระหว่างเดินออกจากเกท เฉินเป็นคนออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดในทริปนี้ นี่มึงอยากดูโคโยตี้อะไรขนาดนั้น มีความจำเป็นอะไรที่เขาจะต้องยอมจ่ายเพื่อแค่มาเล่นสงกรานต์ถึงที่นี่ คุณลองนึกสภาพเล่นอยู่ที่เกาหลีสิครับ อยู่ๆจ้วงน้ำใส่ขันไปสาดชาวบ้านเขา ทั้งๆที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ แถมคนเกาหลีก็มารยาทดีเหลือเกินราวกับสั่งสอนกันมาด้วยลำแข้งตั้งแต่เกิด มึงอาจจะโดนเค้าด่าพ่อแล้วรุมยำตีนได้โดยไม่รู้ตัว ลำพังแค่เดินชนกันยังแทบจะควักปืนยิงถ้าไม่ติดว่ามันไม่มีปืน แต่ไม่เป็นไรครับ เงินแค่นี้ไม่กระทบกระเทือนขนจมูกไอเฉินมันหรอก

“แม่งกริ๊ดอะไรกันวะ “

จงอินถาม พอเดินหลุดออกมาจากเกทได้แล้วก็หันไปมองกลุ่มเด็กผู้หญิงที่กำลังกริ๊ดอย่างเอาเป็นเอาตายเหมือนโดนบุหรี่จี้รังไข่อยู่แถวๆหน้าร้านกาแฟ หลายคนดิ้นเร่าๆเหมือนหมาโดนน้ำร้อนลวกไม่มีผิด เรียกให้ทุกคนที่อยู่ในระแวกนั้นต้องหันไปมองกันเป็นตาเดียว

“เค้ากริ๊ดเพราะกูหล่อมั้ง “

“มึงกลับจักรวาลมึงมั้ยคริส ไม่ต้องเล่นมันละสงกรานต์อะ นู้นกระจก”

“เค้าเรียกว่ากาแลคซี่มั้ง “

ลู่หานมองคริสหัวจรดเท้า เหวี่ยงกระเป๋าใส่ผู้เป็นน้องพลางชี้ไปที่กระจกเงาที่อยู่ตรงกำแพง อะไรทำให้มันคิดว่ามันหล่อวะ อะไรทำให้มึงมั่นใจขนาดนั้น แต่ถ้าเทียบดูกับแต่ก่อนแล้ว มันคงหล่อขึ้นมากจริงๆอะแหละ แต่หล่อก็ยังไม่สุด แต่ก่อนแม่งหน้าเหมือนโจรปล้นเครื่องบินไม่มีผิด

“โอปป้า!!!!!!

เอาแล้ว ชะนีจำนวนไม่น้อยกว่าสิบนางกำลังออกตัวล้อฟรีมาทางนี้ พร้อมกับเรียกพวกเขาด้วยภาษาบ้านเกิดอีกต่างหาก นี่มันไม่ธรรมดาแล้ว เทาเห็นท่าไม่ดีรีบวิ่งคนแรก ตามด้วยเฉิน ลู่หาน และคนที่เหลือวิ่งตามไปอีกงงๆ สภาพค่อนข้างทุลักทุเลพอสมควรเพราะต้องแบกกระเป๋าเดินทางด้วย

“เข้าไปเร็วๆๆๆๆ”

“ว้ากกกกกกกกกกกกกกกก”

เฉินวิ่งไปที่รถตู้ที่จ้างไว้ตั้งแต่ก่อนมา ทุกคนรีบเอากระเป๋าใส่ที่ด้านหลังแล้วเข้าไปในนั้น ประตูปิดลงได้ทันก่อนที่ชะนีน้อยนางหนึ่งจะเข้ามาเกาะกระจกรถ ใบหน้าบานๆแนบกระจกแล้วตะกุยรัวๆอย่างบ้าคลั่ง ชะนีตัวอื่นวิ่งตามมา เสียงทุบปึงปังและเสียงกรีดร้องดังขึ้นไม่หยุด ตอนนี้รถตู้ทั้งคันของพวกเขาโดนล้อมไว้หมดแล้ว ให้อารมณ์เหมือนแมลงวันหิวขี้ และพวกเขาคือขี้นั่นเอง(เข้าใจเปรียบ)

“โอปป๊า!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! เอ็กโซโอปป้า!!!!!!!!

“เอ็กโซไหนวะ”

“กูจะไปรู้ไหมไอเหี้ยกูก็วิ่งมากะมึงเนี่ย”

ชานยอลหันไปถามแบคฮยอนที่ตอนนี้นั่งหอบอยู่ข้างๆ ในชีวิตไม่เคยต้องวิ่งหนีอะไรขนาดนี้มาก่อน นึกสภาพไม่ออกเลยว่าถ้าพวกเขาเข้ามาในรถไม่ทันจะเกิดอะไรขึ้น บรรดาชะนีน้อยใหญ่คงฉีกทึ้งร่างพวกเขาเป็นชิ้นๆแล้วจับแดกอย่างเอร็ดอร่อยแน่ๆ

“อร๊ายยยยย แอร๊ยยยยยยยยยยยยย “

เป็นเซฮุนที่ยังกริ๊ดอัดกระจกล้อเลียนอิพวกชะนีที่อยู่ข้างนอก สองแขนกรีดกรายอย่างอารมณ์ดี ก่อนรถตู้จะฝ่าวงล้อมอันหนาแน่นของเหล่าบรรดาผู้หญิงร่างถึกเหล่านั้นออกไป โบกมือบ๊ายบายอย่างน่ารักพร้อมกับทำปุอิ๊งๆแถมด้วยอีกหนึ่ง เรียกให้เสียงกรีดร้องดังลั่นสนามบิน

“ไอเหี้ย ชะนีไทยนี่น่ากลัวชิบหาย”

“กูว่า เอ็กโซอาจจะเป็นชื่อของกินอะไรสักอย่างที่ขึ้นชื่อของที่นี่ก็ได้นะ หิวเลยว่ะ “






“สวัสดีครับชาวโซเชียลแคม วันนี้เราอยู่กันที่ ..”

“ชลรุบีครับผม!!!

“ชลบุรี =_=!!!

“เออนั่นแหละ”

มาถึงแล้วก็อัดโซเชียลแคมอวดซักหน่อยระหว่างที่รออาหารมาเสิร์ฟ พวกเขามาหาอะไรยัดใส่ท้องที่ร้านอาหารริมทะเลกันในช่วงเย็น เซฮุนถือโทรศัพท์ชูไว้ให้เห็นเพื่อนๆครบทุกคน ยกเว้นแบคฮยอนที่นั่งอยู่ตรงหัวโต๊ะ ชานยอลแทรกตัวเข้ามาแย่งซีนเหมือนทุกครั้ง นอกจากจะเสร่อแล้วยังเสือกจำผิดๆถูกๆอีกต่างหาก ไม่รู้ว่ามันเล่นมุกหรืออะไรกันแน่

“วันนี้เรามาทำอะไรกันครับดำ “

“เดี๋ยวกินข้าวแล้วเข้าที่พักกันครับ แล้วพรุ่งนี้เราจะไปเล่นสงกรานต์กัน “

หันกล้องไปทางขวาเล็กน้อยแล้วเอนตัวไปชิดกับจงอิน ซบหัวลงบนไหล่กว้างแล้วเอ่ยถาม คนตัวหนาโน้มตัวลงมาในเฟรม ทั้งคู่มองกล้อง ในขณะที่ทุกคนมองอิเพื่อนสองตัวกำลังสวีทวิ้ดวิ้วสำมะหลาห้าเห้กันอยู่

“เตี้ยกูอยากทำแบบนั่นมั่งง่า “

สะกิดศอกคนตัวเล็กยิกๆแต่ก็ไม่ได้รับความสนใจจากเจ้าตัวอีกต่อไป อาหารเป็นสิบๆจานยกลงมาเสิร์ฟที่โต๊ะ ดวงตาเรียวรีจับจ้องไปที่อาหารเหล่านั้น สองมือเล็กคว้าช้อนส้อมแล้วจ้วงทันทีที่จานแรกวางถึงโต๊ะในระยะที่เอื้อมถึง กุ้งชุบแป้งทอดชิ้นโตถูกยัดเข้าปากแล้วเคี้ยวตุ้ยๆอย่างเอร็ดอร่อย

“เอ่าคริสมึงไม่กินไง๊ “

เฉินเอ่ยถามคริสที่นั่งอยู่ข้างๆ ตอนนี้ทุกคนเริ่มลงมืกตักอาหารแดกกันคนละสองสามอย่างแล้ว เหลือแต่เพื่อนตัวสูงที่นั่งเอาเงิงค้ำโต๊ะอยู่ไม่ยอมกินอะไรสักอย่าง

“ของทอดมันไม่ใช่สไตล์กูอะ”

“แล้วสไตล์มึงแบบไหน เพ็ดดีกรีหรอ “

ลู่หานที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามเอ่ยแขวะ ไม่ใช่เขาคนเดียวที่หมั่นไส้ ทุกคนหันไปมองมันกันหมด แต่แล้วก็หายสงสัยเมื่อบริกรยกถาดอาหารมาเสิร์ฟ หน้าตาอาหารที่ไม่ค่อยคุ้นตาถูกวางลงตรงหน้าคริสที่นั่งอยู่ริมสุดของโต๊ะ ใบหน้าหล่อเหลา(ในความคิดของตัวเอง)หันมายักคิ้วให้คนที่เหลือพลางกระตุกยิ้มอย่างมีเลศนัย ก่อนจะตอบคำถามที่คาใจลู่หานอยู่ เรียกเสียงปรบมือรัวๆจากเดอะแก๊งค์

“หึ สไตล์กูมันต้องลาบ น้ำตก ซกเล็ก จัดว่าพราว“

good





whoa ที่พักแม่งเด็ดว่ะกูชอบจัง “

พุ่งหลาวลงเตียงนุ่มๆด้วยความเหนื่อยล้า หลังจากไปเดินช็อปปิ้งที่ถนนคนเดินกันมาอย่างสมบุกสมบันและก๊งเหล้ากันอย่างเมามันส์แล้ว พวกเขาพักกินที่บังกะโลเล็กๆริมทะเล เป็นห้องกระจกโดยรอบเกือบทั้งหมด ผ้าม่านสีครีมปิดมันไว้ป้องกันการมองเห็นจากภายนอก พลิกตัวนอนหงาย หลังคาที่เป็นกระจกใสทำให้เห็นท้องฟ้ายามค่ำยืนที่เต็มไปด้วยดาวเป็นพันๆล้านๆดวงระยิบระยับดูสวยงาม

“โรแมนติกสัด”

แบคฮยอนพูดลอยๆ แหวกผ้าม่านออกไปก็เห็นทะเลอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล คลื่นน้อยๆซัดมากระทบหาดอันเงียบสงบ ก่อนจะเดินไปที่โต๊ะวางของ ถอดเสื้อและถุงเท้าออก

“ถึงกับแก้ผ้าเลยหรอ มะ! กูพร้อมแล้ว”

“พร้อมเหี้ยไร “

เห็นชานยอลที่นอนตะแคงเอามือเท้าหัวตัวเองไว้อยู่กำลังมองมาทางนี้ด้วยสายตาหื่นกาม มือหนาตบเตียงปุๆ หรี่ตาลงเล็กน้อยพลางกัดริมฝีปากอย่างโรคจิตจนแบคฮยอนขนลุก มือเล็กปาถุงเท้าใส่หน้าเข้าให้ด้วยความหมั่นไส้

“โหอิแบคตีนมึงเหม็นมากอะ นี่ขนาดปาไม่โดนจมูกกูยังขมมาถึงคอ แล้วถ้าได้กลิ่นเต็มๆนี่กูไม่น็อคเลยมั้ง”

หยิบถุงเท้าแล้วโยนออกไปจากเตียง แบคฮยอนหันมาเบะปากใส่ก่อนจะคว้าผ้าเช็ดตัวเดินเข้าห้องน้ำไป ไม่รอช้า ชานยอลรีบพุ่งหลาวไปที่หน้าประตูแล้วเอาแขนไปง้างประตูไว้ในทันที

“ขอเก๊าอาบด้วยยยยยยยยยยยย “

“ไม่ให้โว้ย “

ต่อให้ไอตัวหูบินตรงหน้าจะทำหน้าบ้องแบ๊วน่ารักขนาดไหนก็ตามก็ไม่ได้ผล แบคฮยอนพยายามจะใช้แรงอันน้อยนิดของตัวเองดันประตูให้ปิดลง แต่มือหรือจะสู้แรงถึกของชานยอลได้ ไม่ทันแล้ว คนตัวสูงผลักเข้าไปอย่างแรงแล้วรีบแทรกตัวเข้าไปในนั้นได้ทันท่วงที

“ฮ่า!!!!!!!!! เสร็จโจร!

หัวเราะเยาะเย้ยอย่างแรงจนหน้าสั่น ตากลมๆเหลือกขึ้นจนหน้ากลัว ฉีกยิ้มกว้างไปถึงรูหูจนเห็นฟันครบสี่ร้อยหกสิบแปดซี่แล้วค่อยๆเดินต้อนเข้ามาจนแผ่นหลังบางชิดกับกำแพงห้องน้ำ ชานยอลถอดเสื้อยืดแล้วเหวี่ยงออกไปข้างหลัง เสียงหัวเราะในลำคอเรียกให้ขนลุกจากตูดไปถึงท้ายทอย

“จะหนีไปไหนน้องสาว แห๊ะๆๆๆๆๆๆๆๆ ฮ่าๆๆๆ ห๊า ฮ๊า!!!

ไม่เคยได้ยินใครหัวเราะได้ทุเรศเท่านี้มาก่อนในชีวิต ร่างสูงโปร่งเข้าประชิดตัวเขาแล้ว สองมือหนายื่นออกมาแล้วกุมใบหน้าของคนตัวเล็กไว้ ใบหน้าโรคจิตค่อยๆโน้มลงมา ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ

“ฟู่!!!!!!!! ซ่า !!!!!!

คว้าสายชำระที่อยู่ข้างๆชักโครกได้ก็เอาขึ้นมาฉีดอัดหน้าแฟนลามกในทันทีก่อนที่ริมฝีปากนั้นจะทันเข้ามาประกบ ชานยอลถอยผงะ น้ำที่อัดมาเต็มแรงเข้าทั้งปากและจมูกเต็มๆอย่างไม่ต้องสงสัย ถึงกับมึน รู้สึกอ้วกกำลังตีขึ้นมาจากกระบังลมเมื่อเห็นอาวุธในมือของแบคฮยอน

“ถ้ามึงไม่ออกไปกูจะไปนอนกับไอ้เฉินแล้วนะ “

ยื่นคำขาดแล้วเล็งสายชำระไปที่หน้าของชานยอลอีกครั้ง ชานยอลถึงกับสตั๊นเมื่อเห็นว่าตัวเองกำลังยืนอยู่ตรงจุดวิถีกระสุน นี่มันจะหยามกันมากไปแล้ว นอกจากจะไม่อนุญาตให้กูลวนลามแล้ว มึงยังเอาที่ฉีดตูดอันเป็นอุปกรณ์ที่ใกล้ชิดกับขี้มาฉีดหน้ากูอีกด้วย เข้าทั้งปากทั้งจมูก หอมหวนทั้งคืน อย่าบอกนะว่าสงกรานต์เขาเล่นกันแบบนี้ ถ้าเล่นกูจะกลับบ้านแม่งเดี๋ยวนี้เลย กูจะกลับไปตายที่ประเทศตัวเอง

“ออกไป นับหนึ่ง .. “

“กอดทีนึงก็ไม่ได้หรอ”

“ออกไป นับสอง “

“อิห่าใจร้ายกับแฟนตัวเองได้ลงcore

“ออกไป นับสาม .. ซ่า!!!!!!

“ว้ากกกกๆๆๆๆๆ ไปแล้วครับไปแล้วๆๆๆๆไปๆๆๆT_T

เปียกเกือบทั้งตัวด้วยสายชำระเพียงอันเดียว จนต้องรีบวิ่งหนีออกมาก่อนจะชุ่มไปด้วยน้ำละอองขี้ พร้อมกับปิดประตูห้องน้ำให้ด้วยเสร็จสรรพ ยกแขนดมๆรักแร้และคอเสื้อตัวเองก็รู้เรื่องเลย ถึงกับหน้าเบี้ยว รีบถอดเสื้อผ้าออกทันทีด้วยความขยะแขยง ไอสัด เหมือนกูอาบขี้ละลายน้ำเลยอะ nooooooooooo



Chanyeol part


“ตื้อดึ่ง ..”

นอนๆอยู่ดีๆไลน์ก็เด้งครับ ด้วยความที่เป็นคนติดโซเชียลพอสมควรผมจึงรีบคว้าโทรศัพท์ขึ้นมากดทันทีอย่างมีสไตล์ เป็นไอ้ไคที่อยู่บังกะโลหลังข้างๆที่ส่งไลน์มารบกวนกูในเวลานี้ นี่มันกี่โมงกี่ยามแล้วไอสัด


ไครวย : ทำรัย
ยอลลี่ ปี้รองเท้าแตะ : มั่ยบอก
ไครวย : พ่อมุงตาย
ยอลลี่ ปี้รองเท้าแตะ : รู้ได้งัย
ไครวย : แม่มึงบอกมา
ยอลลี่ ปี้รองเท้าแตะ : อย่าเล่นแม่จิ แม่กูยังอยู่
ไครวย : สถานการณ์ฝั่งนั้นเป็นไงบ้าง
ยอลลี่ ปี้รองเท้าแตะ : กูยังอยู่ดี นอนเล่นคุกกี้รัน อิอ้วนหลับแล้ว
ไครวย : ล้างตู้เย็นกันยั๊ง
ยอลลี่ ปี้รองเท้าแตะ : มันไม่ให้กูล้างงะ มึงอะ
ไครวย : got it already (สติ๊กเกอร์หมี)
ยอลลี่ ปี้รองเท้าแตะ : กี่น้ำ
ไครวย : ให้ทาย
ยอลลี่ ปี้รองเท้าแตะ : ไม่คุยกะมึงละไอสัด กวนส้นตีน
ไครวย : กับมะม่วงกวนงี้ป่าว
ยอลลี่ ปี้รองเท้าแตะ : มีถั่วมั้ย
ไครวย : read
ยอลลี่ ปี้รองเท้าแตะ : อ่านไม่ตอบจะงอนแร้วนะ
ไครวย : ยอลมึงไปหน้าหาดกันเหอะว่ะ อิฮุนหลับแล้ว
ยอลลี่ ปี้รองเท้าแตะ : เดี๋ยวมันตื่นแล้วงานงอกนะ
ไครวย : มันไม่ตื่นหร๊อก มันเมา เร็วๆลุก กูอยู่หน้าประตูห้องมึงเนี่ย


ไม่ได้พิมพ์อะไรตอบกลับไป ผมลุกฝ่าความมืดไปที่ประตูไปหาไอ้ไค ระหว่างทางเตะแง่งโต๊ะที่ยื่นออกมาไปซะหนึ่ง ถึงกับหน้าเบี้ยว อยากจะร้องดังๆแบบปาล์มมี่แต่ติดว่าร้องไม่ได้เพราะเดี๋ยวอิแบคตื่น ได้แต่สูดหายใจเข้าลึกๆแล้วยืดตัวตรง เดินกะเผลกไปเปิดประตูเพียงเท่านั้น

hello

พอเปิดประตูออกไปก็เจอเพื่อนยืนตัวดำอยู่หน้าประตูแบบที่มันบอก แทบจะมองไม่เห็นมันถ้าไม่ติดว่าไฟข้างนอกเปิดอยู่ เหง้าหน้าทะมึนสะท้อนแสงสีออนจากบนเพดานหน้าระเบียงห้อง ผมมองหน้ามันสลับกับคนที่นอนอยู่บนเตียงในห้องตัวเอง สมองกำลังประมวลผลความรู้สึกผิดชอบชั่วดี

“เร็วมึงเดี๋ยวอิอ้วนตื่นหรอก“

“มันจะดีอ่อวะ “

“แหม่มึง แค่ไปเดินเล่นเอง มันไม่ว่าหร๊อก “

“แล้วไมมึงต้องหลบๆซ่อนๆด้วยงะ “

เอ่ยถามไปแต่กูคว้ากระเป๋าตังกับกุญแจห้องเดินออกมาแล้ว พร้อมกับหันไปปิดประตูให้ซะเรียบร้อยด้วยเสียงอันเบา รู้สึกผิดผสมตื่นเต้นเล็กน้อย ค่อยๆเดินฝ่าความมืดออกไปกันสองคน

“ไอสัด จะไปไหน ไม่มีชวน“

เสียงหนึ่งดังขึ้นข้างหลัง เสียวสันหลังแว๊บๆยามหันไป ป๊ะเข้ากับหน้าไอ้เฉิน ไอ้เทา และพี่ลู่หานที่กำลังนั่งก๊งเหล้ากันอยู่ที่เดิมไม่ย้ายพระที่นั่งไปไหนเลยตั้งแต่หัวค่ำ เหี้ย มึงจะอึดกันไปไหนหรือ นี่จะตีหนึ่งแล้วนะโว้ย

สุดท้ายก็ต้องหิ้วสมาชิกทั้งสามไปด้วย แถมยังต้องช่วยมันเก็บวงเหล้าและรอไอ้เชี่ยเทาฉี่ก่อนถึงจะได้ออกมา เพราะมันขู่ว่าถ้าไม่เอามันไปด้วยมันจะตะโกนให้ลั่นพัทยาเลยว่าพวกกูจะไปตีหรี่กัน บร้า ตีหรี่อะไร๊ นี่ออกไปเดินเล่นหาอะไรกินเฉ้ยๆ

“ฮูวมึง ผับแถวนี้แม่งกากว่ะ มีแต่คนนมเล็ก ไม่เหมือนที่เกาเลย “

กว่าจะซื้อของกินได้เล่นเอากูต้องเปิดดิกคุยกะแม่ค้า อย่าคิดลึกไป กูเปิด dictionnary นะไม่ใช่ดิกแบบที่มึงคิด ขืนเปิดอย่างงั้นได้มีสวิงกิ้งกันกลางพัทยาอย่างแน่นอนครับ แบบว่ากูก็หน้าตาดีใช่เล่น ไม่ใช่หน้าเหลี่ยมแบบไอ้เฉิน ต่างดาวแบบไอ้เทา ตีนตาเยอะแบบพี่ลู่ หรือตัวดำแบบไอ้ไค ไม่รู้แม่ค้าแม่งมองเห็นเปล่าว่ากูมากันห้าคนไม่ใช่สี่ ตอนซื้อไส้กรอกนี่แม่งยื่นให้กูสี่อันทั้งๆที่บอกว่าเอาครบจำนวนคน วันหลังต้องเอาไฟฉายส่องกบติดหัวไอ้ไคมันไว้แล้ว จะได้เป็นตัวบอกพิกัดว่ามันอยู่ตรงไหน หมดปัญหา

 เดินแดกลูกชิ้นปิ้งชมนมตูดกันอย่างเพลิดเพลิน แต่แบบมันเล็กๆไม่เต็มตาไงไม่รู้ เหมือนเดินเล่นสวนสัตว์แผนกอนุบาลสัตว์น้ำ บางคนแม่งก็หน้าแปลกๆ เหมือนมึงเคยเป็นผู้ชายมาก่อนอะ ลูกกระเดือกมึงใหญ่กว่าไข่กูอีก ไม่รู้จิกูไม่กล้าไว้ใจเลย เห็นนมใหญ่กว่าหัวกูงี้แต่เบื้องล่างมึงอาจจะมีฮำก็เป็นได้ hello

เดินไปเรื่อยๆตามทาง เห็นแขกคนนึงกำลังต่อราคากับกระเทยหน้าเขียวคนนึงอยู่ ผมขนลุกเกรียว ไม่รู้จะสงสารกระเทยหรือแขกดี รีบสาวเท้าก้าวไปข้างหน้า เห็นสาวๆนั่งไขว่ห้างคุยกันอยู่หน้าผับ ไอ้เฉินกับพี่ลู่หานรีบเดินเข้าไปทำความรู้จักอย่างรวดเร็ว

“ว้าย หนุ่มๆ หล่อจังเลย”

“เหี้ยแล้วๆๆๆๆ “

ไอ้เฉินโดนคว้าคอเข้าไปแล้วจับหน้ามันซุกกับนมทันที แทบผวาเมื่อพวกนางเอ่ยปากพูดออกมา เสียงแม่งแมนกว่าพ่อกูอีก พี่ลู่หานรีบเบรกตัวเองไว้ได้ทันก่อนจะโดนคว้าไปอีกคน ทั้งผม ไอ้ไค ไอ้เทารีบวิ่งออกมาจากรัศมีตรงนั้นอย่างไวแล้วทิ้งเพื่อนไว้ตรงนั้น ขนยังลุกเกรียว

“พัทยาแม่งเมืองเถื่อนจริงๆ”




เช้าวันที่สดใส แสงแดดสาดส่องเข้ามาเนื่องจากอิคนที่ได้นอนเต็มอิ่มมันลุกไปเปิดม่าน ผมหยีตาขึ้นมองเล็กน้อยแล้วหลับต่อ จู่ๆก็รู้สึกจุกอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน รู้สึกเหมือนมีมวลมหาศาลของอะไรบางอย่างทับมาที่กลางท้องอย่างจังจนต้องร้องออกมาด้วยความจุก

“อั้ก!

wake up ชานยอล wake up!!!!!!!

ขย่มท้องกูอย่างสนุกสนานและเมามันส์ แต่กูไม่ได้มันส์กะมึงด้วยเลย ไส้กรอกที่กูแดกไปเมื่อวานแม่งจะพุ่งออกมาพร้อมกับน้ำย่อยแล้ว ผมคว้าหมับเข้าที่เอวเล็กแล้วเหวี่ยงมันลงกับพื้นเตียงข้างๆ ก่อนจะขึ้นคร่อมแล้วฟัดมันด้วยความมันเขี้ยว มึงอยากขย่มนักใช่ไหม เดี๋ยวกูจัดให้ พ่อจะล่อให้ร้องระงมลั่นบังกะโลเลย

“ฮ่าๆๆๆ ก๊ากๆๆๆๆๆ โอ้ยกูจั๊กจี้ อย่า 5555555555 “

อิแบคดิ้นแล้วถีบขาไปมาจนกูรู้สึกจุก สองมือเลื่อนจับข้อพับขามันไว้ กดให้แนบลงไปกับแผ่นอกเล็กๆนั่นพลางดันส่วนล่างเข้าไปเบียดกับสะโพกมนภายใต้กางเกงขาสั้นสีดำนั่น อิแบคหยุดดิ้นในทันที สองแก้มนิ่มแดงลามไปถึงใบหู

“ขย่มกูนักใช่ไหม แฮ่ะๆๆๆๆๆๆๆๆ..อั๊ก!!

เหลือกตาขึ้นแล้วหัวเราะอย่างโรคจิต แต่ติดที่ว่ากูไม่ทันระวังเลยโดนตีนมันถีบเข้าที่กลางท้องอย่างแรงจนต้องลงไปนอนกุมท้องด้วยความจุกอยู่ข้างๆ นี่มึงเล่นแรงไปรึปะนิ กูล้อเล่นนิดเดียวเองนะ T-T
“ละ..ลุกไปอาบน้ำเลยไอห่า ทุกคนรอมึงอยู่ “

พูดแค่นั้นแล้วมันก็คว้าปืนฉีดน้ำอันเท่าปืนใหญ่หน้ากระทรวงกะลาโหมแล้ววิ่งออกจากห้องไปเลย ทิ้งให้ผมนอนจุกอยู่ที่เดิมอย่างเปล่าเปลี่ยวเอกาและว้าเหว่ ใจร้ายจริงๆ


“ฮัลโหลไทยแลนด์ ข้ามาแร้ว “

เดินเรียงแปดหน้ากระดานประหนึ่งบอยแบนด์ แต่ละคนที่ถือปืนฉีดน้ำ แต่ละคนใส่เสื้อลายดอกสีสันเจ็บแสบไม่ซ้ำสี เสียงรองเท้าแตะกระทบพื้นปูนยามที่ก้าวเดินดังแป๊ะๆๆๆดูแล้วเท่ห์ปนน่ารำคาญไม่หยอก แต่แล้วก็ต้องบีบแถวแปดคนลงเหลือแถวละสองแล้วเดินเกาะกันเอา เพราะที่มันไม่พอ

“แสรด คนโคตรเยอะ “

ยังไม่ทันจะได้เดินไปไหน อิแบคกับฮุนแม่งเปียกกันแล้ว ต่างจากพวกผมที่ยืนงงถือปืนฉีดน้ำตัวแห้งสนิทกันอยู่สี่ห้าหน่อ ทั้งๆที่กูก็ยืนใกล้มันเลย ไอ้คริสโดนชะนีลากเข้าไปในกลุ่มนั้นแล้ว เห็นหัวมันโด่ออกมาจากวงล้อม นึกถึงภาพเมื่อวานแล้วก็ขนลุกเกรียว มิอาจทราบได้ว่าพวกชะนีที่รุมไอ้คริสอยู่นั้นเป็นของแท้หรือปลอม และถ้าปลอม ขอให้พระเจ้าอยู่เคียงข้างมึง อาเมน

“เหี้ย พวกมึงไม่ช่วยกูเลย “

กว่าจะหลุดออกมาจากวงล้อมชะนีอันหนาแน่นนั่นได้ก็ล่อไปหลายนาที พวกผมขำก๊ากอัดหน้ากันด้วยความโปกฮา ไอ้คริสจากที่หล่อๆอยู่ตอนแรกแทบไม่เหลือเค้าเดิม แม่งโดนปะแป้งเสยเข้ารูจมูกแล้ววนทั่วใบหน้า ตอนนี้เห็นแต่ตา ยังดีที่ผมมันไม่เลอะแป้งเพราะพวกนางคงเขย่งไม่ถึง

“ขอน้ำล้างหน่อย “

มันเดินไปหาพี่ลู่หานแล้วย่อตัวลง แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือการเมินเฉย พี่ลู่หานปฏิเสธที่จะให้น้ำมันล้างหน้าเพราะกลัวเปลือง ใจแคบสุดในสามโลก จนสุดท้ายเป็นกูเองที่ต้องเสียสละน้ำในกระบอกปืนให้มันล้างเบ้าตาเพราะความแสบ แอบเสียดายน้ำเหมือนกันนะนิ

“ไอเหี้ยมึงเห็นป้อมใหญ่ที่สิบเอ็ดนาฬิกาไหม “

ไอ้เฉินชี้ไปที่ป้อมใหญ่ที่ประกอบไปด้วยแมงดาหน้าปลาหมึกที่ยืนเต้นเย้วๆกันอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล ถือถังน้ำคอยสาดคนที่เดินผ่านบริเวณนั้น และที่สยองว่านั้นคือแม่งล่อแป้งมาเป็นถัง คิดสภาพไม่ออกเลยว่าถ้าเดินย่างกรายเข้าไปจะโดนมากขนาดไหน แค่มือเดียวก็บันเทิง จากที่เห็นตัวอย่างจากไอ้คริสมาแล้วไอ้ฮุนก็รีบเอ่ยดักขึ้นมา

oh I see  จะบอกว่ากูไม่อยากโดนแป้งอะ =_=

“เฮ้ยๆๆๆๆ “

มวลมหาประชาชนดันพวกเขามาเรื่อยๆแม้จะพยายามหลบมากแค่ไหน แต่ด้วยความที่คนเยอะพอสมควรทำให้เดอะแก๊งค์ทั้งแปดเดินเข้ามาในป้อมอย่างไม่รู้ตัว ก่อนที่เซนเซอร์จะดัง ไอหัวหน้าป้อมแม่งชี้มาทางนี้ ลูกน้องของมันเดินถือถังเล็กๆย่างกรายเข้ามาแล้ว กูเกาะไหล่อิแบคแน่นเลย

“น้องทอม พี่ขอประแป้งหน่อยนะจ๊ะ “

หน้ากูเหวอ ไม่รู้เหมือนกันว่าไอปลาดุกหน้าโจรนั่นพูดอะไรเพราะกูก็ฟังไทยไม่รู้เรื่อง มาถึงแม่งผลักอิแบคออกไปจากรัศมี วินาทีนั้นผมรู้เลยว่าแฟนกูโดนแน่ๆแล้ว จะเดินตามไปคว้าตัวมันไว้ กูต้องปกป้องแฟนให้ได้

“ฟอด!

แต่ผมคิดผิดไปนิด มือที่กูเอื้อมไปดึงตัวไอ้แบคกลับมากลับโดนกระชากด้วยมือสากต่อหน้าต่อตาจนกูเซไปด้านข้าง พี่หน้าแมงดาเขย่งขึ้นมาหอมแก้มกูดังฟอดเต็มๆเน้นๆไม่มีกั๊ก ตอหนวดแข็งๆทิ่มหน้ากูจนรู้สึกขนลุก กลิ่นเหล้าเหม็นเขียวหึ่งตลบอบอวลในความรู้สึกจนอยากจะอ้วกออกมา นี่แม่งคนไทยเขาทักทายกันแบบนี้หรอวะ

!!!!!!

บรรดาเดอะแก๊งค์ยืนอึ้งกิมกี่กันเป็นแทบ ไม่เว้นแม้กระทั่งอิแบคที่ตอนนี้ปลอดภัยดี ยืนมองกูด้วยท่าทางสตั๊นแข็งทื่อไร้ปฏิกริยาตอบโต้ใดๆ ผมส่งหน้าร้องไห้ไปให้มัน ไม่มีใครคิดจะช่วยกูเลย

และก่อนที่จะประสาทแดกไปกว่านั้น น้ำในถังสาดมาพร้อมกับน้ำแข็งก้อนใหญ่ที่กระแทกเข้ากลางเบ้าหน้ากูเต็มๆจนเบลอ พี่หน้าแมงดาล้วงเข้าไปในกระป๋องที่เพื่อนตัวเองถือมาก่อนจะจกแป้งขึ้นมาเป็นก้อนแล้วป้ายเสยหน้ากูเต็มๆ รู้สึกวินาทีนั้นกูเป็นกุ้งชุบแป้งโกกิที่รอเตรียมทอด แป้งแม่งเข้าจมูกเข้าตาจนมองอะไรไม่เห็น ผมเข่าอ่อน ทรุดลงบนพื้นในทันที

“เห้ยไอยอลๆๆ มึงไหวปะเนี่ย “

เป็นไอ้แบคที่เข้ามารวบตัวกูไว้ แต่มันคงแบกน้ำหนักกูคนเดียวไม่ไหวเลยล้มลงไปทั้งคู่ ผมหลับตาปี๋ด้วยความแสบตา มือเล็กที่ชุ่มด้วยน้ำเลื่อนมาลูบหน้าผมอย่างรีบร้อนแล้วช่วยเอาน้ำล้างออกให้ ไอสัด กูเกลียดสงกรานต์จัง ปืนฉีดน้ำที่ถืออยู่ในมือนี่ไม่ได้ช่วยอะไรกูเล๊ย

“แบค ..กู . ไม่ ไหว ... ฝากลูกเมียข้าด้วย .. โอ้ย“

ผมนอนอยู่บนตักอิแบค หายใจรวยรินปานจะขาดใจให้ได้ ฉับพลันนึกถึงหนังสงครามที่กูเคยดูบ่อยๆ ฉากที่พระเอกใกล้ตายแล้วฝากฝังนางเอกไว้กับเพื่อน ผมละล่ำละลักพูดออกไปด้วยความลำบาก ในปากอมแป้งอยู่อย่างไม่ได้ตั้งใจ อิแบคซัดอย่างแรงเข้าที่กลางกระบาลกู ก่อนจะผลักผมออกไปจากตัก

“เมียมึงก็กูเนี่ยไอสัด ลุก! เร็วๆกูหนัก “





หลังจากผ่านอิป้อมทรราชนั่นไปได้ก็สนุกสนานแล้วครับ ไม่ได้เหี้ยอย่างที่คิด ทุกคนเล่นน้ำกันด้วยความสุภาพ แม้จะมีสาดอัดหน้ากันบ้าง สำลักกันไปบ้าง แต่ก็ไม่จังไรเท่ากับอิพวกหน้าปลาไหลตรงป้อมเมื่อกี้ ทุกคนก็มีรอยยิ้มให้แก่กัน เพื่อนๆพร้อมหน้า พี่น้องพร้อมหมู่ ต่างมาดูรายการสุขสันต์ (พอ ไม่ใช่เจ้าขุนทอง =_=)

“ยอลกูปวดฉี่อะ “

ยืนเติมน้ำกันอยู่ดีๆอิแบคก็หันมาบอกพร้อมกับย่ำเท้าทั้งสองข้างไปมา ใบหน้าน่ารักจิ้มลิ้มนั่นเงยหน้ามองผม สองแก้มนิ่มเลอะแป้งเล็กน้อย ริมฝีปากเล็กเริ่มเขียวและสั่นพั่บๆด้วยความหนาว เนื่องจากเราก็เล่นกันมานานพอสมควรแล้ว

“ทนหน่อยเตี้ย แถวนี้ไม่มีห้องน้ำอะดิ”

ผมมองซ้ายมองขวาแล้วเกลี่ยแป้งที่ติดอยู่ที่มุมปากเล็กออกให้ ไม่มีวี่แววของห้องน้ำเลย ถ้าจะเข้าก็คงต้องไปเข้าในห้าง แต่มึงตัวเปียกเค้าก็คงไม่ให้มึงเข้าอยู่ดี อิแบคเริ่มเบะ สองเท้าย่ำเร็วขึ้น ท่าทางมันจะอั้นไม่ไหวแล้ว

“งั้นมึงฉี่แม่งตรงนี้เลย ตัวเปียกไม่มีใครรู้หรอก “

ผมบอกมันอย่างนั้น เพราะกูกำทำอย่างนั้นเหมือนกัน อย่างเทพ กูเดินไปฉี่ไปยังไม่มีใครรู้เลย ก็ถนนมันเปียก ตัวกูก็เปียกก็เลยจัดไปซะเต็มกระบอก อิแบคก้มหน้ายืนเฉยๆไม่ได้พูดอะไร ให้เดาตอนนี้มันคงฉี่อยู่ ผมก้มลงมอง มวลน้ำกำลังไหลผ่านขาลงสู่พื้นปูนอย่างช้าๆ

“ขำอะไรสัด “

“ฮ่าๆ .. เสร็จยัง “

ผมพยายามกลั้นขำ ถามอิแบคก่อนจะเอื้อมไปตักน้ำใส่ขันมาราดตัวมันให้ ท่าทางมันจะปวดมากจริงๆจนทนไม่ไหว เพราะปกติผมบอกให้มันทำอะไรแบบนี้แม่งคงด่าผมไปแล้ว น่ารักจริงๆ

“โล่งยัง “

“เงียบปากไปเลยไป “

มันทุบอั้กเข้าให้ที่แขนผมแรงๆหนึ่งทีแล้วสะบัดหน้าหนีงอนๆ ปากเขียวๆนั่นขัดกับแก้มที่กำลังแดงปลั่ง ให้เดามันคงเขิน ผมหัวเราะ หันไปกรอกน้ำใส่กระบอกฉีดน้ำให้เต็มทั้งสองกระบอก


“เด็กๆชอบโคโยตี้ “
เดินเล่นไปเรื่อยๆจนถึงเวทีเตี้ยๆที่มีบรรดาสาวน้อยใหญ่ขึ้นไปเต้นเร่าๆอยู่บนนั้นอย่างเมามันส์ ไอ้เฉินตาเป็นประกายก่อนจะวิ่งพรวดเข้าไปยืนเต้นเย้วๆอยู่ข้างล่างอย่างสนุกสนาน พี่ลู่หานก็เอากับเขาด้วย ไอ้คริสกับไอ้เทาเดินไปนั่งหลบมุมอยู่ตรงฟุตบาทด้วยความเหนื่อย ส่วนไอ้ไคกับไอ้ฮุนพากันเดินเข้าเซเว่นไปแล้ว

ซื้อข้าวไข่เจียวมานั่งแดกกันริมฟุตบาท ก่อนที่อิสองหน่อที่หายเข้าไปในเซเว่นจะตามมาสมทบ เครื่องดื่มหลากชนิดถูกแจกให้มือต่อมือ ทุกคนตัวสั่นปากเขียว เอาช้อนพลาสติกตักข้าวเข้าปากแล้วนั่งแดกเงียบๆด้วยความหิวโหย แค่เล่นน้ำสงกรานต์นี่แม่งดูดพลังกูมากเลย

“เดี๋ยวขากลับต้องกลับทางเดิมปะ“

อยู่ๆไอ้ฮุนก็พูดขึ้นมา เล่นเอาผมสำลักข้าวจนแทบคว้าน้ำมาแดกไม่ทัน นึกถึงอิป้อมเหี้ยนั่นแล้วก็หนาวขี้ คือแป้งยังคาจมูกกูอยู่เลย จะแงะก็แงะไม่ออกเดี๋ยวแม่งก็หาว่ากูแคะขี้มูกกันอีก ขากลับเดินอ้อมเอาได้มะกูรู้สึกไม่ปลอดภัยยังไงไม่รู้

“คนไทยแม่งทำไมเถื่อนกันจังวะ กูตกใจอะ นึกว่าจะเข้ามาหาอิแบค แต่เสือกปี้ไอยอลซะงั้น “

“รสนิยมแม่งเห่ยมากอะ “

“อ่าวๆๆๆๆทำไมพวกมึงพูดงี้ “

ทั้งไอ้เฉินและไอ้เทานั่งวิจารณ์กูกันใหญ่ ผมเอาช้อนพลาสติกชี้หน้ามันแล้วพูดจนข้าวในปากกระเด็นใส่หน้า ทำไม กูมันทำไม ออกจะหล่อซะขนาดนี้ หน้าตาไม่ดีเท่ากูอย่ามาพูดๆๆๆๆๆ

“เอ้ยมึงแต่หน้ามันสวยนะ ถึงรูปร่างท่าทางและน้ำเสียงจะไม่ให้อะ "

พี่ลู่หานที่นั่งเงียบอยู่นานเอ่ยขึ้นมาหลังจากกินเสร็จแล้ว ปิดกล้องโฟมแล้วเอาหนังยางรัดพลางยัดใส่ถุงพลาสติกสำหรับทิ้งขยะ ผมได้แต่มองหน้าพี่แกด้วยสายตาแปลกๆ จะเถียงก็ไม่กล้า เพราะกูไม่รู้ว่าเขามาอารมณ์ไหน

“มึงดูอย่างไอฮุนยังเอาอิดำนี่เลย เรื่องรสนิยมนี่คนเรามันไม่เหมือนกันเว้ย เค้าดูกันที่ใจ “

“เอ่าๆสัดคริส กูไปดำบนหัวนมพ่อมึงไง๊ แหม่ “

“เอ้ยๆๆๆๆหยุดๆๆๆๆ อย่าตีกัน “

ไอ้คริสกับไอ้ไคเถียงกันจนอิแบคต้องเอ่ยห้ามทัพก่อนจะมีการพ่นข้าวกันเกิดขึ้น อิพวกเหี้ยนี่แม่งยิ่งชอบเล่นอะไรพิเรนทร์ๆกันอยู่ด้วย ผมเปิดชาเขียวแดกแก้เซ็ง ก่อนจะกระดกอั้กๆเข้าไปรวดเดียวครึ่งขวด มองน้ำสีเหลืองๆที่เหลือในขวดแล้วมันก็ทำให้ผมนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้

“หึ .. “

“มึงจะทำอะไรวะ “

เป็นไอ้เทาที่เอ่ยถามขึ้นมาในขณะที่ผมลุกพรวดขึ้นพอดี ได้แต่ยิ้มโรคจิตอย่างมีเลศนัยไปให้พวกมันเท่านั้น ค่อยๆหมุนเปิดกระบอกปืนฉีดน้ำออกมา โป๊ะเช๊ะ! เหลือน้ำครึ่งนึงพอดี ประจวบเหมาะกับที่กูปวดyeahอยู่ด้วย คิดได้ดังนั้นก็จัดการหันหน้าเข้าแพงแล้วถกกางเกงลงเล็กน้อย จัดการเยี่ยวใส่กระบอกฉีดน้ำไปซะเต็มแม็กซ์ คือกะเอาเปรี้ยวทั้งกระบอก

“ไอยอลมึงทำไรอะ “

คุณแฟนตัวเล็กถามหวาดๆในขณะที่ผมรูดซิบกางเกงเรียบร้อยแล้ว ผมขำก๊ากออกมาด้วยความสะใจพลางหมุนกระบอกใส่ปืนฉีดน้ำเข้าไปอย่างเก่า ก่อนจะเขย่ามันอย่างแรง shakeๆอยู่อย่างเมามันส์ประหนึ่งบ๋อยที่ทำหน้าที่ชงเหล้าอยู่ในผับ คลุกเคล้าให้เข้ากัน เอาให้กลมกล่อม

“เดี๋ยวมึงเจอน้ำโอวัลตินกู “

เท่านั้นยังไม่พอ ก้มตักน้ำที่ขังอยู่ที่พื้นขึ้นใส่กระป๋อง มวลน้ำสีน้ำตาลเข้มข้นกระเฉาะไปมาตามแรงหัวเราะ ผมตักไปก็ขำไป ใส่น้ำแข็งให้หน่อยแล้วคนๆให้เข้ากัน ทั้งเศษดินและน้ำปนกันเป็นเนื้อเดียว

“ปะมึง ย้อนกลับทางเดิม กูพร้อมแล้ว “


บ่ายสามกว่าๆแล้ว คนเริ่มเยอะมากกว่าตอนขามาเป็นสองเท่า ตอนนี้มีแต่มนุษย์ตัวเปียกๆลื่นๆที่เดินเบียดเสียดกันมากมายประหนึ่งปลาดุกในคลองข้างวัด แม้ว่าจะโดนสาดน้ำมาเท่าไหร่ผมก็ไม่ตอบโต้ใดๆทั้งสิ้น เดินกอดปืนฉีดน้ำอันใหญ่ของตัวเองไว้แนบอก กะจะเก็บไว้เซอร์ไพรส์ให้พี่หน้าแมงดาสุดที่รักของผมคนเดียวเท่านั้น เดินไปก็เต้นไป เปิดเพลงโป๊ะตรึ่งๆกันลั่นหาด ทะเลโฟมเริ่มถูกปล่อยออกมาตามจุดต่างๆ จุดนี้คือพีคที่สุดแล้ว

“ไอยอล!

“อะไร “

อยู่ๆอิแบคที่เดินอยู่ข้างหน้าก็หันมาแหวใส่ผมเฉยเลย คิ้วเรียวขมวดแน่นพร้อมกับมองผมด้วยสายตาคาดโทษ ผมตอบมันกลับไปอย่างงงๆ นี่กูยังไม่ทันได้ทำอะไรเลยนะ

“สัด! อีกแล้วนะ กูไม่เล่น!!

“อะไรวะกูยังไม่ทันทำอะไรเลย “

เดินไปเรื่อยๆมันก็หันมาตวาดใส่ผมอีก คราวนี้กูงงเลย มันหันมาซัดที่แขนผมแรงๆด้วยหนึ่งทีจนต้องลูบแขนตัวเองป้อยๆด้วยความเจ็บ นอกจากกูจะไม่รู้เรื่องแล้วกูยังโดนมันตีด้วยนะเนี่ย

“ก็มึง!! .. “

“กูทำไม =_=

“ก็มึงบีบตูดกูทำไมอะ “

“เห้ย กูเปล่า!

อิแบคกระซิบให้เบาลงในประโยคหลัง เล่นเอากูเลือดขึ้นหน้าทันที เหลือกตากว้างด้วยความอาฆาตแค้นแล้วกวาดสายตาสแกนไปโดยรอบ ใครแม่งบังอาจบีบตูดแฟนกู นี่เดี๋ยวจะไม่ได้ตายดีซะแล้ว เดี๋ยวพ่อซัดด้วยกระบอกเยี่ยวกูเนี่ย เอาให้หลับ

“มึงบีบตูดแฟนกู!!!!!!!!

ในจังหวะที่โดนเหยียบตีนพอดี ผมก้มลงไปมองคนที่เหยียบ ไอหน้าเต้าหู้ยี้ที่เดินเบียดข้างๆผมมาตลอดนี่เองที่แม่งแอบบีบตูดแฟนกู หลักฐานคาตาเลยสัด มือมึงคาตูดแฟนกูเลย ผมตะโกนลั่นแล้วถีบมันจนล้มลงไปกับพื้น ผู้คนแตกฮือเป็นวงกว้างด้วยความตกใจ

“เฮ้ยไอยอลใจเย็นๆ”

ไอ้ไคเข้ามาห้ามในขณะที่ผมกำลังจะลงฝ่าตีนไปที่กลางท้องมันอีกครั้ง ให้ดูจากหน้าแล้วก็ไม่น่าจะเป็นคนไทย มันอาจจะเป็นคนจีนหรือไม่ก็คนเกาหลีเหมือนผมก็ได้ถึงได้ทำหน้าเหมือนฟังผมรู้เรื่องแบบนั้น ผมทั้งดิ้นทั้งถีบ เตะขามั่วๆจนไอ้ไคแทบจะเอาผมไม่อยู่ ไอ้คริสกับพี่ลู่หานช่วยเข้ามาห้ามผมอีกแรงในขนาดที่ทุกคนยืนล้อมไว้โดยรอบแล้วตะโกนเชียร์ นี่มันไทยมุงของแท้เลย

“เหี้ยไคปล่อยกู ถ้าเป็นไอ้ฮุนโดนมั่งมึงจะทำไง“

“มันไม่ทำไงหรอกสัด เมื่อกี้มันยังบีบตูดกูอยู่เลย“ ไอ้ฮุนเอ่ยเข้ามาในวงล้อม

“เหี้ย! กูเปล่า “ ไอ้ไคปล่อยแขนออกจากคอผม เอาแล้ว

“เอ่ามึงไม่ได้ทำหรอ “

“ก็มึงยืนอยู่ข้างหน้าไอ้แบค กูกับไอ้ยอลอยู่หลังกูจะไปบีบมึงได้ไง “

“เออว่ะ “

“.. งั้นก็แปลว่าไอ้หน้าตุ่นนี่ทำหรอ “

.......

เงียบกันไปพักใหญ่ๆ ไม่มีใครกล้าเอ่ยปากพูดอะไรทั้งนั้น จากที่ห้ามผมอยู่เมื่อกี้ กลับเป็นไอ้ไคเองที่พุ่งเข้าไปซัดหมัดลุ่นๆใส่ไอหน้าจืดนั่นแล้วกระทืบให้ลงไปนอนอีกรอบแบบไม่มีทางโงหัวขึ้นมาได้ ผมเข้าไปร่วมคลุกวงในด้วย ก่อนการตะลุมบอนจะเกิดขึ้น เสียงตุ้บตั๊บดังคลอกับเพลงลูกทุ่งฟังดูไพเราะเป็นที่สุด

sorryๆๆๆ “

สองแขนยกขึ้นปรามเป็นเชิงยอมแพ้ จนกระทั่งผมที่ได้สติก่อนดึงแขนไอ้ไคให้หยุดแล้วออกวิ่งไปด้วยกัน พวกไอเฉินที่ยืนอยู่ข้างหลังโกยแน่บตามมาเมื่อเห็นเหล่าตำรวจผู้พิทักษ์สันติราษฏ์กำลังฝ่าวงล้อมของฝูงชนมาทางนี้ เรื่องอะไรจะอยู่ให้พ่อมึงมาจับล่ะครับ วิ่งดิวิ่ง


“แฮ่ก!!

“อ้าว น้องทอม เจอกันอีกแล้ว”

กว่าจะฝ่าฝูงคนมาได้ก็เล่นเอาเหนื่อย หลุดกลุ่มคนมาก็เจออิป้อมทรราชที่ทำระยำกับผมไว้ในทันที อีพี่หน้าแมงดาเดินเข้ามาหาพร้อมกับอ้าแขนออกกว้างแล้วเอ่ยประโยคอะไรสักอย่างที่ผมเองก็ไม่เข้าใจ ผมยกกระบอกปืนฉีดน้ำขึ้น สูบลมเข้าไปเยอะๆแล้วอัดไปเต็มแรงในขณะที่พี่แกกำลังอ้าปากจะพูดทันที

“เอาไปแดกซะไอเหี้ย!!

“อ้าว ไม่ใช่คนไทยหรอ แล้วทำไมน้ำเค็มๆวะ .. “

ไม่รอให้แม่งสงสัยไปกว่านั้น ผมสาดน้ำโอวัลตินในกระป๋องที่เตรียมมาอัดหน้าพี่แกเข้าไปทันที เล่นเอาเสื้อขาวๆชุ่มไปด้วยน้ำโคลน ล่อแป้งเป็นถุงแล้วตามด้วยน้ำเพราะขี้เกียจจะผสมให้มันเข้ากัน

“มะ!

กวักมือเรียกเดอะแก๊งค์ให้ตามเข้ามาสมทบ นึกสภาพแปดคนรุมคนๆเดียว ทั้งแป้งทั้งโคลนทั้งน้ำแข็งมาครบ ก่อนที่ผมจะส่งสัญญาณให้ไอ้เฉิน เทา คริสยกตัวผมขึ้น นอนคว่ำอย่างเท่ห์ๆแล้วให้มันหามถอยหลัง เล็งปืนเหมือนทหารที่หมอบอยู่ตามพงหญ้ากลางสนามรบ ฉีดน้ำผสมสารเวน่อมที่กูเป็นคนมิกซ์เองกับมือ(เยี่ยวกูเอง)ใส่อิพวกหน้าปลาดุกในป้อมให้ตายทีละคน

“เฮ้ยน้อง ผสมชาเขียวหรอ หรือเซเว่นอัพวะ “

“กูฟังไม่รู้เรื่องฮะพี่ !!!!!!!

อิพวกหน้าโจรยืนงงอยู่ตรงนั้น ตะโกนถามผมที่ตอนนี้ถูกหามมาไกลเรื่อยๆแล้ว กูฟังไม่รู้เรื่อง หรือต่อให้ได้ยินกูก็จับใจความไม่ได้โว้ย ผมทำได้แค่ตะโกนตอบกลับไปเป็นภาษาเกาหลี ยักคิ้วให้แล้วส่งยิ้มละมุนเพียงเท่านั้น ฉับพลันที่พี่หน้าปลาชะโดผู้รับตำแหน่งเป็นหัวหน้าป้อมยกมือเปียกๆที่ชุ่มสารเวน่อมของผมขึ้นมาดม ชายฉกรรจ์หกเจ็ดคนลุกฮือถืออาวุธแล้วออกตัวล้อฟรีมาทางนี้ทันที

“ฉิบหาย!

เรามีแค่ปืนฉีดน้ำแต่ไอพวกนั้นแม่งมีปืนจริง ไอ้เฉินกับไอ้คริสทิ้งกูลงพื้นเลย ไอ้เทาคนเดียวจึงไม่สามารถยกตัวผมไว้ได้ ร่างกูกระแทกลงเต็มๆกับพื้นปูนดังบรั๊ก ป่านนี้ซี่โครงกูคงหักทิ่มปอดไปแล้ว ไม่มีเวลาให้ร้องโอดโอยใดๆ อิพวกเดอะแก๊งค์รักผมมากถึงขนาดวิ่งสี่คูณร้อยนำกูไปก่อนแล้วสิบห้าเมตร ไม่ต้องถามเลยว่าแฟนกูอยู่ใน แม่งวิ่งคนแรกอยู่หน้าขบวน ผมไม่รอช้า รีบลุกขึ้นแล้วโกยแน่บตามไปอย่างไว

“รอกูโด้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!

“อ้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก”


Happy songkran day .


THE END

ปล. เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า อย่าเล่นสงกรานต์ เพราะถ้าเล่นมันจะเปียก
555555555555555555555555555555555555555555555555
See you yesterday เจอปืนครับ bye