วันจันทร์ที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2557

↯ผู้ชายจังไรขอแต้บไข่เพื่อเธอ (2) : chapter 5

JONGIN PART


ครืด ..


ได้ยินเหมือนเสียงเฮลิคอปเตอร์กำลังจะลงจอด แต่ผมไม่มีกะจิตกะใจจะมาเบิ่งดูว่ามันเกิดอะไรขึ้น ผมนอนคว่ำ ข่มตาให้หลับ แต่ดูเหมือนว่าเสียงนั่นกำลังจะรบกวนการนอนของผมไม่หยุด

“ฮัลเหล “

ไม่ใช่เสียงเฮลิคอปเตอร์หรือเสียงอิข้างห้องตำน้ำพริก อย่างที่คิดไว้แต่อย่างใด มันเป็นเพียงเสียงโทรศัพท์โง่ๆเครื่องหนึ่งที่กำลังมีสายโง่ๆสายหนึ่งโทรเข้ามาจากคนโง่ๆคนหนึ่ง

“(ดำ อยู่ไหนวะ มึงมาด่วน เค้าจะเทส นี่กูยังไม่รู้เรื่องเหี้ยไรเลย )“

เสียงปลายสายตะโกนกลับมาอย่างเบาจนแทบจะเรียกได้ว่ากระซิบ ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่านี่มันคือการตะโกนตรงไหน หลับตามึนๆพอจับใจความได้ก็รู้ว่าเป็นเสียงไอยอลเพื่อน(โง่ๆ)ของผมนั่นเองที่คอลมาขัดจังหวะฝันดีของกูในเช้าวันนี้  ผมเกาตูดพลางเคี้ยวลิ้นแจ่บๆอย่างง่วงหงาวหาวนอน ดำไหน เทสอะไร ?

“กูนอนอยู่ “

“(ไอสัดมึงลุกเซ่! วันนี้เปิดเทอมแล้วนะมึง ไอห่า มาให้กูลอกเดี๋ยวนี้ดำเดี๋ยวนี้ ไม่ได้มึงกูตายแน่ๆ เร็วๆเลย กูส่งตารางสอนไปทางควยถอกแล้วนะ มึงรีบมากูรออยู่ )”

“..คาทอล์กรึปะ .. “

ผมเงียบ สตั้นไปแปปนึง ไม่รู้อะไรคือควยถอกที่มันว่า แต่ให้เดาคงเป็นโซเชียลมีเดียอะไรสักอย่างที่วัยรุ่นเค้าเล่นกัน ได้ยินเสียงปลายสายตอบกลับมาอย่างร้อนรน มันคงจะเดือดร้อนจริงๆ

“(เออนั่นแหละๆๆๆๆ ดำมึงมาเร็วๆๆๆๆ )“

“เออๆ เดี๋ยวกูรีบไป“ ตอบเสียงยานคางก่อนที่ปลายสายจะถูกตัดไป ผมคงต้องรีบลุกแล้ว ..เพื่อนเดือดร้อน คิดได้ดังนั้นแล้วกูก็หลับต่อ


ง่วงจริงๆ ..




“อืม ..แจ่บๆ กี่โมงแล้ววะ  “

ตื่นขึ้นมาอีกทีในเช้าวันที่สดใส เงยหน้ามองนาฬิกาบนฝาผนังก็พบว่ามันไม่เช้าอีกต่อไปแล้ว ไอเหี้ย ก้อด เที่ยงครึ่ง!! และนี่คือสิ่งที่ทำให้ผู้ชายหน้าตาดีคนนี้ต้องถลึงตาด้วยความตกใจ ผมผงกหัวขึ้นจากหมอนแล้วรีบปลุกคนที่นอนข้างๆในทันที

“เซฮุน ตื่นเร็ว “

“อืม .. วันนี้กูไม่มีเรียน “

อีกคนตอบ ก่อนที่โทรศัพท์สับปะรังเคนั่นจะสั่นอีกครั้งอย่างบ้าคลั่ง บนหน้าจอปรากฏรูปหูบานๆของเพื่อนสนิทเด่นชัดอยู่เต็มจอพร้อมกับเบอร์ของมัน ถ้าถามว่าทำไมไม่เซฟเป็นรูปหน้ามันก็จะบอกว่าที่มันไม่พอจริงๆครับ แค่หูก็เต็มจอแล้ว

“ฮัลโหล! เออกูขับรถอยู่ ..จะถึงแล้วเนี่ยกูหาที่จอดอยู่เนี่ย “

โทรมาหนักๆเข้าก็ต้องยอมแพ้กดรับ เสียงไอยอลดูน่ารำคาญมากขึ้นว่าปกติประมาณสามสิบห้าเท่า ผมทิ้งตัวเอาหัวพุ่งหลาวทิ่มลงบนหมอย เอ้ยหมอน ด้วยความง่วงที่ยังคั่งค้าง แต่แล้วเสียงเนือยๆจากคนข้างๆก็แทรกขึ้นมา

“ขับรถเหี้ยอะไร มันยังนอนอืดเป็นศพสิบแปดวัดอยู่ข้างๆกูเนี่ย “

“ชู่ว! “ ผมหันไปบอกให้ไอฮุนเงียบ นอกจากไอตัวแสบจะไม่เงียบแล้ว มันยังแลบลิ้นยั่วโมโหผมอีกด้วย

“โอ้ยไอเหี้ย เออๆกูกำลังรีบไปไง “

ไอสัดยอลคงจะได้ยินที่คุณแฟนคนน่ารักของผมพูดทั้งหมด มันถึงได้แรปด่าผมรัวซะขนาดนี้ กูเองก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากเกร็งหูไว้แล้วรีบวางสายให้เร็วที่สุด

“แสบจริงนะครับคุณ “

“อื้อ! .. ไอสัด “

เอ่ยคาดโทษไว้เพียงเท่านั้นก่อนจะโน้มหน้าลงไปกดจูบกับริมฝีปากบางหนักๆจนเกิดเสียง แล้วรีบดันตัวลุกขึ้นมาก่อนที่ฝ่าเท้าสวยจะทันได้ประทับลงบนอกของตัวเอง ไอฮุนโวยวายเสียงดังพลางปาหมอย เอ้ย หมอนใส่ผมอย่างบ้าคลั่ง แหมเดี๋ยวนี้โตเป็นสาวละหัดรักนวลสงวนตัว ทีเมื่อคืนล่ะครางระงม (ฝัน)

“เก๊าอาบน้ำแปปนะตัวเอง คิดถึงก็เข้ามานะ ประตูไม่ได้ล็อค เสื้อผ้าไม่ได้ใส่  “

โผล่หัวออกไปกวนตีนมันอีกรอบพลางส่งยิ้มที่คิดว่าหล่อที่สุดในเกาหลีเหนือให้กับอีกคน ไอฮุนไม่ได้ตอบอะไร เพียงแค่ส่งมือเล็กชูนิ้วกลางให้ผมอย่างเป็นมิตร




ในช่วงบ่ายของวันที่อุดมไปด้วยฝุ่นควันและอากาศที่ร้อนอบอ้าว เหนียวรักแร้เหลือเกินด้วยเหตุที่ต้องโหนสองแถวมามอเองเพราะเจ้าของรถยังไม่ตื่น ไอห่า ให้กูยืมขับหน่อยก็ไม่ได้ ใจดำสุด! ดำกว่าสีผิวกูสามสิบห้าเท่า ผมกดกริ่งย้ำหลายๆรอบเป็นทำนองป็อปรว็อคจนปุ่มมันแทบจะพังคามือเพราะอิคนขับรถแม่งไม่ยอมจอด มันขับเลยไปสองป้ายเลยอะ เดินกระแทกฝ่าตีนลงมาจากรถด้วยความไม่พอใจขั้นรุนแรง แล้วยื่นเหรียญห้าไปให้มันหนึ่งเหรียญพร้อมกับสีหน้าที่ไม่เป็นมิตร คนขับมองหน้า

“น้อง เจ็ดบาท “

เศษหน้าถึงกับร่วงกราวลงพื้นอย่างพริ้วสไว ไม่เคยรู้สึกอับอายขนาดนี้มาก่อน ผมกำเหรียญห้าบาทในมือไว้แน่น ก้มลงมองความว่างเปล่าในกระเป๋าเสื้อของตัวเองอย่างชั่งใจ กูไม่มีเศษแล้วไอสั้ด มีห้าบาทสุดท้ายของชีวิต

“แต่พี่จอดเลยป้ายผมมาสองป้ายนะ “

“งั้นสิบบาท “

!!!!!!

ไอคนขับทรราชนี่ มันจะชักจะเก่งกล้าสามารถกำเริบเสิบสานมากไปเสียแล้ว บังอาจมาต่อล้อต่อเถียงกับคนตัวดำอย่างข้าได้อย่างไร หงิด หงิดมาก ผมกำเหรียญห้าแน่นขึ้นอีกจนมันแทบจะหลอมละลายไปรวมกับขี้ไคลในมือ กู .. ที่พูดนี่คือต้องการให้มึงลดราคาให้กูเหลือห้าบาทโว้ย ไม่ใช่ให้มาเรียกเก็บกูเพิ่มอีกสามบาท กูไม่มี ไม่มีทั้งนั้น บอกแล้วว่าห้าบาท ทั้งชีวิตที่เหลือเท่านี้!

“ก็ผมกดกริ่งแล้วพี่ไม่จอดอะ !

ผมกระทืบเท้าแล้วเบะปากอย่างน่ารักให้รู้ว่ากูกำลังจะโกรธแล้วนะ แต่อิคนขับที่มีใบหน้าคล้ายคลึงกับผู้ก่อการร้ายในแถบปาเลสไตน์ยังคงมองมาด้วยสายตาอาตอย่างต่อเนื่อง ผมเสตาหลบเล็กน้อยก่อนจะจ้องกลับไปอย่างไม่ยอมแพ้

“เอ่าน้อง หาเรื่องเบี้ยวไม่จ่ายตังหรอ “

อิคนขับหน้าโฉดเริ่มขยับตัวเอาแขนมาพาดกับเบาะข้างคนขับแล้วชะโงกหน้าออกมาอย่างหาเรื่อง ผมถอยไปตั้งหลักหนึ่งก้าว ก้มลงมองแบงก์พันใบสุดท้ายของชีวิตในกระเป๋าสตางค์ของตัวเองอย่างชั่งใจ

“ผมมีแบงก์พันนะพี่ พี่มีทอนหรา “

ควักแบงก์สีเทาอันมีค่ายิ่งออกมาโบกสะบัดพร้อมกับส่งสีหน้ากวนส้นตีนไปให้ลุงคนขับอย่างร่าเริง คือกะว่ามึงไม่มีทอนแน่ๆ ยังไงเสี๊ย มึงก็ต้องเอาห้าบาทของกูไปอย่างจำยอม! ฮร่า อิอิฮร่า

“ได้! แปป “

สตั๊นไปแปดวิกับน้ำเสียงอันเรียบละมุนนั้น พี่คนขับหน้าทมิฬกระตุกยิ้มมุมปากอย่างชั่วร้ายก่อนจะก้มๆเงยๆอยู่ตรงที่วางเท้าฝั่งที่นั่งข้างคนขับ ผมชะโงกหน้ามองตามด้วยความอยากรู้อยากเห็น รู้สึกถึงละอองพลังงานอันเลวร้ายบางอย่างที่กำลังจะเกิดขึ้นกับผม ฉับพลันกระป๋องนมผงเก่ากึ้กถูกกระชากขึ้นวางบนเบาะ  ผมกลืนน้ำลายอึกใหญ่ลงไปอย่างเฝื่อนคอพลางชะโงกหน้าไปดู .. ข้างในนั้นไม่ได้มีนมผงบรรจุอยู่


“... “






เหรียญ ..

เหรียญล้วนไม่มีแบงก์ผสม .. ไอ่สั้ช! ผมประคองกระเป๋าอันหนักอึ้งที่เต็มไปด้วยเศษเหรียญจำนวนเก้าร้อยเก้าสิบสามบาทเดินเลาะไปตามรั้วมหาลัยทั้งน้ำตา หนักมาก อิสัด เหรียญบาทล้วน เผลอๆมีเหรียญสลึงแพลมๆมาด้วยให้เจ็บลึกถึงทรวงในเล่นๆ นี่มันวันวิปโยคอะไรของกูเนี่ย นอกจากจะไปมอสายแล้ว กูยังต้องเดินย้อนกลับมาอีกสองป้ายรถเมล์พร้อมกับแบกอภิมหึมามหาเศษเหรียญโคตรพ่องวิจิตราอลังการตระการตาสตาร์โชว์นี่ไปให้หนักเล่นๆด้วย god

“กรรมอะไรของกูวะเนี่ย “

และในระหว่างที่กำลังเดินตัดผ่านสนามเด็กเล่นอยู่นั้นเอง กระเป๋าเจ้ากรรมก็เกิดอ่อนระทวยขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ สายสะพายขาดออกจากกันเพราะความหนักอึ้งของเศษเหรียญจำนวนมาก ผมปาดเหงื่อ เอื้อมมือไปคว้าสายสะพายอีกข้างไว้พลางเดินจ้ำเร็วๆอย่างเร่งรีบ อย่าขาดนะมึง อย่านะ T_T มร้าย

“แคว่ก!!!

ทันใดนั้นเอง เสียงไม่พึงประสงค์ก็ดังขึ้น แม่งขาดขึ้นมาตั้งแต่ตูดกระเป๋ายันสายสะพาย เหรียญจำนวนมากหล่นกรูลงใส่พื้นซีเมนต์จนเกิดเสียงกรุ้งกริ้งไพเราะน่าฟัง ผมทรุดตัวลงอย่างหมดแรง น้ำตาลูกผู้ชายไหลลงอาบสองข้างแก้มไม่หยุด หมดสิ้นแล้วอนาคตที่สดใส หมดสิ้นแล้วeverythings จิงเกอเบล

“ง้า พี่ตัวดำคนนั้นแจกตังด้วย !!

หันขวับไปทางซ้ายที่แปดนาฬิกา อิเด็กดอกที่นั่งเล่นอยู่ในกระบะทรายกำลังชี้มาทางนี้พร้อมกับพูดกับบรรดาเดอะแก๊งค์ของมันอีกสี่ห้าตัวด้วยเสียงอันเล็กแหลม ง้าพ่อง้าแม่มึง อิเด็กนั่นทิ้งของเล่นซะฉิบ ก่อนจะออกตัวล้อฟรีพุ่งเข้ามาทางนี้อย่างรวดเร็วประหนึ่งนักวิ่งดีกรีเหรียญทองโอลิมปิก ผมเหลือกตาจนแทบจะหลุดออกจากเบ้าแล้วรีบโกยเหรียญใส่กระเป๋าตัวเองให้ได้มากที่สุด

“เย้ พี่ตัวดำใจดีจังเยย “

มาแล้ว มาถึงแล้ว.. และมันไม่ได้มาแค่สี่ หรือห้า ไอสัด มากันทั้งสนามเด็กเล่น มึงลองหลับตานึกภาพเหล่าปลาดุกทั้งหลายในแม่น้ำข้างวัดที่กำลังรุมตอดขนมปังอย่างบ้าคลั่ง และผมคือขนมปังที่ว่านั่น

“อ้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก”





“ฉันกำลังขอร้องอ้อนวอนเธออย่าไป ทิ้งตัวลงคุกเข่ากอดขาเธอเอาไว้ “

ได้ยินเสียงทุ้มห้าวของเพื่อนเหี้ยดังแว่วมาแต่ไกล เสียงกีต้าร์คลอไปกับเสียงร้องดูไพเราะและมีสเน่ห์ ผมเดินพ้นหัวมุมตึกมาก็พบกับไอ้สัดชานยอลที่กำลังนั่งไขว่ห้างเล่นกีต้าร์อยู่ตรงม้าหินอ่อนใต้ตึกคณะ ส่งสายตาลวนลามบรรดาสาวๆที่นั่งรายล้อมฟังมันร้องเพลงอยู่อย่างสุดชีวิต ไม่มีการหันซ้ายหันขวาให้หูตัวเองไปฟาดหน้าใครหน้าไหนทั้งนั้น เจ้าตัวก้มดูคอร์ดแล้วเงยหน้าขึ้นเป็นพักๆ ท่าทางของมันตอนที่เล่นกีต้าร์นั้นดูเป็นคนปกติดีไม่เหมือนเวลาอยู่กับพวกเราชาวเดอะแก๊งค์ แหมไอห่า กูนึกว่ามึงลืมเนื้อเพลงจริงๆไปแล้ว ปกติร้องแต่เวอร์ชั่นจังไรตลอด

“สัดยอลแม่มึงมา!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

ด้วยความหมั่นไส้ล้วนไม่มีอิจฉาผสม ผมวางกระเป๋าที่บรรจุเศษเหรียญของตัวเองลงบนกลางโต๊ะก่อนจะตะโกนออกมาดั่งลั่นจนรู้สึกหนวกหูตัวเอง ไม่รู้กูจะตะโกนทำไม แต่นั่นก็เรียกความสนใจจากบรรดาสาวๆที่กำลังตั้งใจฟังอิหูบินร้องเพลงอยู่ได้ทั้งหมด

“แต่ถ้าตัวเธอยังร๊าก ยัง ห่วงใย และถ้าอดีตของเรา ยังพอมีความหมาย “

แต่มันก็ยังหน้าด้านร้องต่อ และ ณ ขณะนั้น ผู้ชายตัวดำที่หน้าตาดีก็กลายเป็นบุคคลโลกที่สามในทันใด สาวๆปรายตามองมาที่ผมเพียงเสี้ยววินาที ก่อนจะหันไปสนใจไอเพื่อนเหี้ยต่อ ส่งสายตาหวานเยิ้มชิ้งๆใส่กันไปมาอย่างน่าพะอืดพะอม กูละอยากจะถ่ายรูปส่งไปให้อิอ้วนมันดูเสียเดี๋ยวนั้น ถ้าไม่ติดว่ากูเป็นคนดี

“มึงไม่อยากรู้หรอว่าแม่ไหน “

ผมยืนถามมันอยู่ตรงนั้น ไอ้ยอลยังคงขยับปากร้องเพลงต่อไป เพียงแค่หันมาทางผมพร้อมกับเลิกคิ้วขึ้นเป็นเชิงถาม มึงจะรู้ตัวไหมเนี่ยว่าสะเบ้าหน้ามึงตอนนี้มันดูขี้ม่อมากขนาดไหน ไอสัด หูดำหมดแล้ว

“แม่แบคอะ มันมากะกูเมื่อกี้ และถ้ามึงยังไม่เลิกเล่น กูคาดว่าอาจจะต้องติดต่อหลวงพี่เฉินให้เค้าจองศาลาวัดให้มึงล่วงหน้า”

!!!!!

ได้ผลตามคาด ไอ้ยอลเหลือกตาขึ้นจนตาแทบจะถลนออกจากเบ้า มือมันยังคงเล่นกีต้าร์ค้างทั้งๆที่ปากของมันได้ชัทดาวน์ตัวเองเรียบร้อยแล้ว ผมยืนกอดอก ในขณะที่ไอ้ยอลเริ่มยกมือขึ้นมากัดเล็บอย่างโรคจิต กระทั่งสาวๆเห็นท่าไม่ดีจึงค่อยๆสลายโต๋กันกลับไปทีละนางสองนาง

“มึงพูดจริงปะเนี่ย “

“เปล่า กูล้อเล่น “ ผมตอบ ตวัดขาขึ้นนั่งบนเก้าอี้ม้าหินฝั่งตรงข้าม

“เหี้ย!

“ไม่ยักรู้เดี๋ยวนี้มึงเป็นคนแบบนี้หรอ “

เอ่ยถามอย่างไม่ใส่ใจเท่าไหร่นักพลางแย่งแก้วนมปั่นมันมาดูดจนหมดแก้ว ไอยอลไม่ตอบคำ มันถอนหายใจอย่างโล่งอกก่อนจะเอากีต้าร์มากอดไว้แล้วตะแคงหน้าลงกับโต๊ะ

“ไอฮุนอะ ?“

“อยู่ห้อง วันนี้มันไม่มีเรียน แล้วแม่มึงอะ “

“แม่ที่หน้า กูส่งมันเข้าตึกเมื่อเช้า บอกตอนเย็นค่อยมารับ”

“เย็นนี้สนุกแน่ละมึง”






เอ้าปีหนึ่งมารวมกันตรงนี้! ยืนทำมะเขือไรครับน้อง! นั่งลง!!! “


ตกเย็นมาก็เริ่มกิจกรรมที่ทุกคนลอยคอและรอคอย ปาร์คชานยอลตะโกนลั่นสนาม มือหนาถือโทรโข่งหนึ่งอันพร้อมกับชี้นิ้วสั่ง เสียงทุ้มห้าวตะคอกดังๆจนบางคนต้องปิดหูด้วยความปวดแสบ น้องๆเฟรชชี่ยี่สิบกว่าคนรีบกุลีกุจอมานั่งเป็นแถวอย่างว่องไวตามคำสั่ง เป็นอันรู้กันว่าพี่ว้ากคณะนิเทศของมหาลัยปีนี้โหดที่สุดอย่าบอกใคร


“ขำอะไร! เอาฟันชี้หน้าพี่ทำไมน้อง มึงหุบปากเดี๋ยวนี้! ไป!! แทงปลาไหลห้าสิบแล้วไปนั่งท้ายแถว! “


เอาโทรโข่งจ่อแล้วตะโกนอัดหู ตวาดอย่างดังจนคู่สนทนาเริ่มจะน้ำตาคลอเบ้า บางคนหัวเราะกันคิกคักด้วยความขำ รู้สึกเหมือนว่าพี่ว้ากคนนี้จะเป็นโรคจิตอ่อนๆ เพราะนอกจากจะทำให้ต้องกลั้นขำแบบเหงือกอักเสบแล้วยังโหดใช่เล่น พอใครขำขึ้นมาก็เสือกทำโทษซะงั้น

“แล้วไอน้องคนนั้นน่ะ หัวทองๆหน้าบ้านๆที่นั่งเสร่อเป็นเห็ดโคนอยู่ตรงนั้นอะ พ่อมึงเป็นฝรั่งหรอ พรุ่งนี้ไปย้อมกลับ รับทราบ?


ชี้ไปที่บยอนแบคฮยอน เฟรชชี่ปีหนึ่งที่ต้องโอนเกรดกลับมาสอบเข้ามหาวิทยาลัยใหม่หลังจากไปแลกเปลี่ยนที่แคนาดามาสองปีเต็ม คนตัวเล็กขบกรามแน่นอย่างเจ็บใจ ดูก็รู้ว่าไอ้หูบานนั่นแกล้งเขาชัดๆ ทีตอนนี้ล่ะมาทำเป็นโหด ทีตอนอยู่ในรถละอ้อนเขาจัง


แต่ถึงอย่างนั้นก็ต้องยอมจำใจก้มหน้าไม่เถียงอะไรออกไป เพราะเขาเป็นคนสร้างข้อตกลงไว้เองว่าไม่ให้บอกใครเรื่องที่เขากับชานยอลคบกัน จะให้ใครต่อใครมองว่าเด็กเฟรชชี่ปีหนึ่งคบกับพี่ว้ากแล้วได้สิทธิพิเศษเหนือคนอื่นๆคงไม่ดีแน่ แถมยังเป็นผู้ชายทั้งคู่ด้วยอีก แบบนั้นยิ่งไม่ดีใหญ่


“แล้วมึงใคร ทำไมสาย!!!!!!! “


“เอ่อผม ดะ.. โดคยองซู นิสิตปีหนึ่งคณะนิเทศศาสตร์ครับ “


คนตัวเล็กที่เพิ่งเดินเข้ามาในกลุ่มยืนเงอะๆงะๆอยู่อย่างนั้น กลัวจนแขนขาสั่นไปหมด ร่างเล็กโค้งเก้าสิบองศาให้รุ่นพี่ที่กำลังยืนกอดอกมองเขาอยู่ด้วยสายตาแปลกประหลาด แค่ถูกตะคอกก็แทบจะร้องไห้ออกมา


“วันแรกมึงก็สาย เห็นไหมทุกคนต้องมารอมึงคนเดียว มึงไม่สงสารเพื่อนๆตาดำๆที่โดนกูแกล้งหรือไง“


“ผะ .. ผมขอโทษครับ“


“ไหนใครเพื่อนมัน ออกมา โทษฐานที่ไม่รับผิดชอบเพื่อนตัวเอง ไปวิ่งกับมันเลยไป “


“คือผม .. “


คยองซูอ้ำอึ้ง เขายังไม่มีเพื่อนสักคนเลยด้วยซ้ำ .. ชานยอลกวาดสายตาไปตามกลุ่มนิสิตน้องใหม่ ไม่มีใครเสนอหน้าออกมาซักคน


“อะไร นี่ไม่มีใครเป็นเพื่อนกับเด็กนี่เลยหรือไง งั้นมึงก็ไปตายซะไป ไม่มีใครคบอยู่ไปก็รกโลก “


ชานยอลว่า ไม่ได้ตั้งใจจะว่าน้องแรงๆอย่างที่ทำอยู่ แต่เพราะว่าเขาเป็นพี่ว้ากจึงต้องทำไปแบบนั้น แถมวันนี้ไอ้ไคก็เสือกโดดไปหาไอ้ฮุนที่คณะวิศวะอีก ตอนนี้เลยต้องลุยเดี่ยวไปก่อน ถ้าไม่โหดแล้วใครจะกลัว เขาคนเดียวจะไปคุมเด็กตั้งสามสิบกว่าคนยังไงไหว


“ผมเอง “


แต่แล้วคนที่ลุกออกมาก็แทบจะทำให้พี่ว้ากเอ๋อแดกไปเลย เป็นแบคฮยอนนั่นเองที่ยอมลุกออกมา ให้ขุดให้ตายยังไงก็รู้ว่าแฟนเขาไม่ได้รู้จักกับไอ้เด็กอ่อนนี่มาก่อนอย่างแน่นอน แบคฮยอนเดินชนไหล่เขาไปด้วยสีหน้าและท่าทางที่ไม่ค่อยจะพอใจเท่าไหร่นัก ก่อนจะคว้ามือเล็กของนิสิตหน้าใหม่คนนั้นแล้วพากันออกไปวิ่งรอบคณะในทันที


ชานยอลลอบกลืนน้ำลายอึกใหญ่อย่างฝาดคอ ก่อนจะละสายตาออกมาจากทั้งคู่ ขมวดคิ้วมุ่นด้วยความไม่พอใจ เหมือนความหึงจะเข้าครอบงำจนแทบจะว้ากใส่น้องๆอีกรอบ คราวนี้ล่ะมึงได้ว้ากจริงแน่


โด คยองซู งั้นหลอ ?????????????????????

ได้ .. เดี๋ยวมึงเจอกู



วิ่งรอบตึกคณะได้รอบเดียวก็หอบแดก ปาร์คชานยอลยืนถือโทรโข่งเท้าเอวรออยู่ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด อันที่จริงอยากจะให้แม่งวิ่งซักสี่สิบห้ารอบ แต่ติดที่ว่าแฟนกูวิ่งด้วยนี่สิ แค่นี้ขามันก็ใหญ่พออยู่แล้ว อีกนิดนึงจะเท่าเอว ไม่รู้ว่านี่ขาคนหรือขาโต๊ะสนุ๊ก เขาจึงให้พอแค่นั้น ก่อนที่จะเป็นการเพิ่มกล้ามเนื้อขาให้คุณแฟนมาเตะก้านคอเขาได้โดยง่าย


เอ้ะ แต่ลืมไป มันเตะไม่ถึง


“ไป!! มึงไปนั่งท้ายแถว!!


กลับมาถึงก็ชี้นิ้วสั่ง ไม่รอให้คนที่เพิ่งวิ่งมาเหนื่อยๆได้หยุดพัก ไม่รู้จะตะโกนอัดทำไมให้หนวกหูเล่นทั้งๆที่ก็อยู่ใกล้กันแค่นี้ แต่มันคือวิถีของชาวร็อคที่เค้าทำสืบต่อกันมาหลายยุคหลายสมัย คยองซูก้มหัวโค้งให้รุ่นพี่ก่อนจะรีบเดินไปที่ท้ายแถวอย่างไว แบคฮยอนเดินตาม แต่แล้วคนตัวเล็กก็ต้องเซไปข้างหลังเพราะถูกชานยอลดึงคอเสื้อไว้


“ส่วนมึง กล้านัก มานั่งข้างกูนี่”


อิแบคหันมาทำตาขวางใส่ แต่มันไม่ได้น่ากลัวเลยสักนิด กลับกันเขารู้สึกขำซะมากกว่า เล่นเอารุ่นพี่หนุ่มถึงกับต้องกลั้นขำกันหน้ายับ คนตัวเล็กสะบัดตูดเดินกระทืบเท้ามานั่งที่พื้นข้างๆด้วยท่าทางไม่พอใจสุดชีวิต ก้นเล็กๆกระแทกพื้นซีเมนต์อย่างแรงดังบรั๊ก ดูก็รู้ว่ามันเจ็บ เจ้าของใบหน้าที่บึ้งตึงเป็นตูดหมานั่นคงพยายามเกร็งเหง้าหน้าเพื่อระงับความเจ็บปวดและรักษาเซลฟ์ของตัวเองไว้อย่างสุดความสามารถ แฟนใครไม่รู้ น่ารักจริงๆ


“และก่อนที่เราจะเริ่มกิจกรรมในวันนี้ ก่อนอื่นพี่บอกเลย คณะเรามีครู เราต้องไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำคณะก่อนที่จะเริ่มทำอะไรทั้งหลายแหล่ เรามีประเพณีที่ทำสืบทอดกันมารุ่นต่อรุ่น ดังนั้นพวกน้องๆต้องเชื่อฟัง และทำตามที่พี่บอก ทุกคนต้องผ่านการครอบครู ไม่งั้นจะถือว่ามึงไม่ได้เป็นเด็กคณะนี้ เข้าใจไหม”


ไม่รู้จะใช้คำว่ามึง หรือกู หรือพี่ หรือน้อง อันที่จริงอยากใช้คำว่าเค้ากะตะเองมาก มันดูน่ารัก เป็นกันเอง และเข้ากับหน้าตาอันบ้องแบ๊วของเขาที่สุดแล้ว แต่พวกเด็กๆคงจะไม่ฟัง อีกอย่างตอนนี้ไม่มีใครที่มีพาวเวอร์พอจะคุมน้องได้เลย ไอ้จงอินบอกว่าไปแค่ชั่วโมงเดียว แต่ตอนนี้มันก็ยังไม่กลับ และคนที่มีพาวมากสุดที่จะสามารถคุมน้องๆได้คือมันอะแหละ สายเถื่อน ส่วนกูมันสายแบ๊ว แค่แอ๊บสถุนเฉยๆ


“เอ่า .. เอ่าโง่ โง่อีก ครอบครูต้องใช้อะไร”


เห็นเด็กๆเงียบก็เลยแกล้งถามขึ้นมาอีก เสื้อนักศึกษาที่บัดนี้ถูกปลดกระดุมคอและถกแขนเสื้อขึ้นมาถึงศอกเปียกชุ่ม ร่างสูงโปร่งเท้าเอวพ้อยตีนมองหน้าน้องๆที่นั่งก้มหน้างุดๆด้วยความกลัว ท่าทางที่ดูหาเรื่องนั้นดูน่ากลัวมิใช่น้อย ใครๆก็คงไม่กล้าหือกับเขาแน่ๆ ยกเว้นเสียแต่บยอนแบคฮยอน นิสิตปีหนึ่งที่นั่งเบะปากใส่แฟน(ในความลับ)อยู่ข้างหน้า เขารู้ดีว่าบุคลิกโหดสัดรัสเซียที่ปาร์คชานยอลเป็นอยู่นี้มันเป็นการแสดงหลอกตาขึ้นมาเท่านั้น แท้จริงแล้วความปัญญาอ่อนยังไหลเวียนอยู่ในเส้นเลือดอย่างเข้มข้น


“เอ้า!! กูถามทำไมไม่พูด!!!! ครอบครูต้องใช้อะไร!!!





กวาดตามองไปยังกลุ่มน้องๆที่นั่งเรียงกันเป็นตับอยู่ ทุกคนพากันก้มหน้าไม่สบตา เล่นเอาปาร์คชานยอลต้องเอาลิ้นดันกระพุงแก้มด้วยความไม่สบอารมณ์ หารู้ไม่ว่ากำลังหัวเราะเหงือกสะท้านอยู่ในใจ ไม่ยักรู้ว่าแกล้งเด็กมันสนุกอะไรขนาดนี้


“มึงจะเงียบกันทำไม!!! หรือไม่ได้แปรงฟันมา ใบ้แดกกันให้หมด!! กลัวคนข้างๆเหม็นปากก็เอามือป้องไว้สิวะ พี่ถามว่าครอบครูต้องใช้อะไร!!


ล่อซะดังลั่นสนามจนเป็นเสียงเอคโค่สะท้อนกลับมา ฟิวเจอร์บอร์ดที่เอามาพับให้เป็นปึกใหญ่ๆฟาดเพี้ยะลงกับอัฒจันทร์จนรุ่นน้องสะดุ้งด้วยความตกใจ


“ยัง .. ยังให้กูพูดคนเดียวอี๊ก!! ..ไอ้แว่นมึงขำอะไร!! ลุกขึ้น”


แหกปากตะโกนดังจนเสียงหลง เด็กๆพากันหลุดขำเป็นแถบ นิ้วเรียวชี้กราดไปที่เด็กผู้ชายใส่แว่นที่นั่งอยู่ท้ายแถวแล้วสั่งให้ลุกขึ้นยืน ฟิวเจอร์บอร์ดสีส้มที่ถูกพับให้เป็นแท่งๆเลื่อนไปชี้หน้าอย่างถือวิสาสะ เจ้าตัวหน้าถอดสี


“คะ.. ครับ”


“กูถามว่าครอบครูต้องใช้อะไร!! ตอบ!!!


“มะ .. ไม่ทราบครับ”


“ใช้ฝาชีไงไอโง่!!! โรงเรียนเค้าปล่อยให้มึงจบมอหกมาได้ยังไง มึงเต้นเดี๋ยวนี้ ตรงนี้ ร้องเพลงแล้วเต้น ปฏิบัติ!!


อยากจะหัวเราะให้ลั่นสนามบอล แต่ติดอยู่ที่ว่าตอนนี้กำลังเก๊กขรึมอยู่ มุกกูมันช่างครีเอทอะไรเช่นนี้ ไม่หล่อนี่เล่นไม่ได้เลยนะนิ เด็กหนุ่มผู้เคราะห์ร้ายทำหน้าเหมือนจะร้องไห้แล้วค่อยๆวาดลวดลายเต้นแร้งเต้นกาอย่างกล้าๆกลัวๆ ดูเหมือนว่าเสียงร้องเพลงอันเบาหวิวเหมือนจะขาดใจนั้นทำให้ปาร์คชานยอลสะใจเป็นอย่างมาก


“มองอะไรไอ้เตี้ย!! ตา.. ตาอะขวางให้มันน้อยๆหน่อย ไม่พอใจ ? ไม่พอใจมึงก็ลาออกไป!!


ฟิวเจอร์บอร์ดอันยักษ์ถูกย้ายตำแหน่งจากไอ้เด็กหน้าแว่นมาเป็นเด็กหัวทองแถวหน้าสุดแทน บยอนแบคฮยอนขมวดคิ้วหน้าเป็นตูด มองตาขวางด้วยความไม่พอใจ ได้ทีมึงเอาใหญ่ เล่นซะเนียนเหมือนไม่เคยรู้จักมักจี่กันมาก่อนเลยนะ เดี๋ยวกลับห้องมึงรู้เรื่องเลย เดี๋ยวรู้ว่าใครเป็นใคร พ่อจะเอาให้แม่งต้องลงมาคุกเข่ากอดขาร้องไห้อ้อนวอนขอความรักจากกูเลย


“เตี้ยแล้วมันหนักหัวพี่หรอครับ”


“นาย อย่าเลย เดี๋ยวโดนซ่อม”


เกือบจะยืนขึ้นไฝว้(ด้วยความสูงอันน้อยนิด)อยู่แล้ว แต่ก็ถูกเด็กอ้วนคนข้างๆคว้าแขนไว้ให้ลงมานั่งที่เดิม ก้นที่อุดมไปด้วยไขมันกระแทกพื้นอย่างแรงแต่หาได้เจ็บไม่ ตอนนี้อารมณ์ชะนีตกมันเริ่มเข้าสิงเขาเข้าซะแล้ว และคนอย่างแบคฮยอนก็ไม่ใช่คนที่จะยอมใครง่ายๆด้วยสิ ตอนนี้อยากลุกขึ้นไปตบหัวมันให้หน้าลั่นแล้วตะโกนดังๆว่า มึงอยากจะเลิกกับกูมั้ย มากๆ


“เอ่า เอ่ารับน้องวันแรกมึงก็เปรี้ยวซะแล้ว ออกมาเลย มาเต้นเดี๋ยวนี้ รูดเสา!!





ถึงคนตัวเล็กจะไม่ได้พูดอะไรแต่ก็อ่านปากได้เต็มๆคำว่า เหี้ย เข้าหน้า ดวงตาเรียวรีเพ่งจ้องไปที่คนตัวสูงอย่างอาฆาตแค้น ริมฝีปากบางเม้มแน่นเป็นเส้นตรงอย่างพยายามจะสะกดกลั้นอารมณ์ที่คุกรุ่น ลุกขึ้นยืนปัดตูดเดินไปที่หน้าแถวอย่างไม่เต็มใจเท่าไหร่นัก ในขณะที่ปาร์คชานยอลหัวเราะคิกคักชอบอกชอบใจที่ได้แกล้งเขา


“อะไร .. มองหน้า หรืออยากวิ่งอีกรอบ ให้ไอ้เด็กตาเหลือกท้ายแถวไปวิ่งด้วยอีกมั้ย ? รุ่นพี่สั่งทำไมไม่เต้น!!


“ไม่มีเสาให้รูด!!


อ้อมแอ้มตอบกระแทกเสียง ก้มหน้าลงกับพื้นแล้วมองตีนตัวเองเหมือนคิดซะว่ามันเป็นหน้าของปาร์คชานยอลในตอนนี้ กะว่าถ้าเสร็จจากกิจกรรมนี้ไป ตีนเบอร์38ของเขาจะไดฤกษ์พุ่งหลาวไปประทับหน้ามันอย่างแน่นอน


“มารูดกูนี่ หมายถึงตัวนะ ไม่ใช่อย่างอื่น”


ทั้งกองเงียบกริบ ทุกคนต่างจับจ้องไปที่เด็กผู้ชายหน้าหวานที่ยืนฟึดฟัดฮึดฮัดอยู่หน้าแถว แก๊งค์ชะนีริมขวาต่างซุบซิบนินทากันอย่างออกรส ไม่ใช่ว่าปาร์คชานยอลไม่รู้ แต่จงใจให้มันเป็นอย่างนั้น ไม่ต้องจิ้นน้องไม่ต้องจิ้น กูผัวมันเอง


ไม่ต้องรอให้พูดว่าซาวด์มา เด็กๆสาวๆชะนีแก๊งค์ริมขวาก็เมคซาวด์ให้อย่างทันใจ เสียงเล็กแหลมพากันร้องแต่แด่แดแด๊ฟังดูเร้าใจพิลึก ร่างสูงโปร่งยืนกอดอก ก้มหน้ามองคนตัวเล็กด้วยสายตาดุๆ ในขนาดที่มือเล็กค่อยๆเอื้อมไปแตะไหล่กว้างนั้นเบาๆ ก้มหน้าก้มตาเต้นโยกย้ายส่ายสะโพกด้วยความอับอาย


“แอร๊ยยยยยยยยยย เกย์มากอะแกร!!


“นี่มันพี่ว้ากตัวร้ายกับนายแหนมป้าย่นชัดๆๆๆ”


“ชั้นล่ะอิจชี่ผู้ชายคนนั้นจริงๆ ได้ใกล้ชิดพี่ชานยอลด้วยอร๊า”


“โหดเว่อร์ เสียงกระโชกโฮกฮากได้ใจมากอะแกร๊!!! พี่เค้าเท่ห์สุดๆไปเรย”


“ชั้นล่ะอยากจะโดนพี่เค้าเอาหูตบชั้นสักครั้ง ฮุกT_T


“บร้า กริ๊ดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”


และอีกมากมายหลายประโยคที่พยายามจะแทะเล็มพระเอกหูกางของเราให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ เล่นเอาเด็กหนุ่มถึงกับขนตูดลุก จนกระทั่งเจ้าของเสียงทุ้มห้าวเอ่ยปากบอกให้พอถึงได้หยุดเต้น ร่างแหนมรีบเดินก้าวฉับๆพื้นสะเทือน(นี่ก็ล้อมันจัง ไม่ได้อ้วนขนาดนั้น)ไปนั่งข้างคยองซู เพื่อนใหม่ของเขาที่ท้ายแถวในทันที


 _____________________________________

ตรึ่งเปรี้ยะ !
หายไปนานมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ประมาณสิบแปดชาติเศษ
จนรีดเดอร์บางคนแต่งงานมีผัวมีลูกแล้ว วันนี้มาอัพแล้วนะ 5555
ไม่รู้ว่ายังรออยู่ไหม หรือลืมกันไปรึยัง จะพยายามอัพให้ถี่ๆ ขอโทษที่หายไปนะ
อย่าลืม #ผชจรขตขพธ นะโว้ย ยังรักทุกคนเหมือนเดิม เด้าๆ