วันอาทิตย์ที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2557

(CUT) HOT SHOT ↯ kaihun - chapter 2


เตรียมตัวรับบทลงโทษบทที่สองได้เลย โอเซฮุน



ว่าแล้วก็จับหมับเข้าที่หัวไหล่มนก่อนจะกดมันลงบนฟูกเตียงอย่างแรง กายสูงโปร่งโน้มทับตามลงไปในทันที ริมฝีปากหยักตรงเข้าบดขยี้ริมฝีปากอิ่มจนบวมช้ำให้สาแก่ใจโดยไม่มีการรุกล้ำใดๆให้เสียเวลา ริมฝีปากร้อนรีบผละออกและไล่ลงมากดจูบแรงๆไปตามลำคอขาวที่ชื้นพราวไปด้วยเหงื่อ ฟันคมกดแรงดูดและขบกัดจนช้ำเลือด เซฮุนยังคงร้องและดิ้นไม่หยุด 



ปล่อย !



อุ้ก



มีหรือจะยอมให้โดนกระทำแค่ฝ่ายเดียว ฝ่ามือขาวกำแน่นแล้วซัดเข้าอย่างแรงที่กลางท้องจนคนด้านบนต้องร้องออกมาด้วยความจุก ริมฝีปากร้อนผละออกไปเพียงชั่วครู่ ก่อนร่างสูงโปร่งจะยืดตัวขึ้น จับรวบแขนทั้งสองข้างตรึงไว้กับเตียงและบีบมันแน่นจนข้อเอ็นขาวซีด จงอินแค่นยิ้ม คนๆนี้ต้องทรมานให้สมกับที่ทำเอาไว้ 



ชอบความรุนแรงก็ไม่บอก  



เอ่ยเย้าอย่างท้าทายพลางใช้เข่ากดร่างเล็กๆไว้ให้นอนราบลงไปกับพื้น แรงดิ้นมหาศาลทุเลาลงไปเพราะความหนัก จงอินยืดตัวขึ้นเพื่อถอดเสื้อแล้วโยนออกไปให้พ้นจากเตียง ปลดซิปกางเกงออกแล้วร่นมันลงเพียงนิดพอให้แก่นกายที่เริ่มจะตื่นตัวนั้นออกมาสู่ภายนอก .. เพียงเท่านั้นก็เรียกปฏิกริยาตื่นกลัวจากเซฮุนได้ไม่ยาก




อ๊ะ! อย่า  



เอ่ยร้องห้ามอย่างไม่รู้จะทำอย่างไร เมื่อใบหน้าคมเลื่อนลงมาหยุดที่แผ่นอกขาวเนียน ริมฝีปากหยักกดจูบลงบนยอดอกสีหวานตรงหน้าก่อนจะส่งมันเข้าไปในโพรงปากร้อนในทันที ปลายลิ้นชื้นตวัดเร็วๆลงไปจนแผ่นหลังบางต้องแอ่นขึ้นรับสัมผัสอย่างจำยอม ถึงแม้ว่าเขาเองจะต่อต้านมันก็ตาม แต่ร่างกายมันกลับตอบสนองไปเสียอย่างนั้น



ไอ้วิปริต !  



ด่าไปก็เท่านั้น เสียงหัวเราะอย่างมีสเน่ห์น้อมรับคำชม ถ้าเป็นปกติแล้วใครได้เห็นจงอินหัวเราะแบบนี้ก็คงหลงใหลอยู่ไม่น้อย แต่ผิดไปเสียหน่อยที่เวลานี้มันไม่ใช่อย่างนั้น ข้อเท้าเล็กถูกจับแยกกว้างออกจากกัน ส่วนต้นขาขาวอีกข้างถูกมือหนาดันขึ้นสูงจนแนบชิดกับแผ่นอกบาง เผยให้เห็นช่องทางสีชมพูเข้มที่ไม่เคยมีใครรุกล้ำมาก่อน 




ยะ .. อย่านะ !



ใจดวงน้อยกระตุกวูบเมื่อถูกจัดให้อยู่ในท่าที่ล่อแหลม ข้อเท้าเล็กยื้อออกจากมือหยาบ ในขณะที่กายบอบบางพยายามขยับหนีอย่างหวาดกลัว .. น่ากลัว ดวงตาคู่นั้นน่ากลัวเกินไป



ทำคนอื่นแล้วก็ลองดูบ้างเป็นไง เผื่อจะติดใจ  



ประโยคเสียดสีให้เจ็บใจเล่นดังขึ้นข้างใบหู เป็นอีกคำที่เขาไม่เข้าใจ แต่ถึงอย่างนั้นเซฮุนก็ไม่มีเวลาให้คิดทบทวนมากเท่าไหร่นัก เมื่อนิ้วยาวกดชำแรกเข้ามาในช่องทางที่ปิดสนิทช้าๆ ร่างโปร่งเกร็งตัวอย่างแรงด้วยความเจ็บ ริมฝีปากอิ่มถูกฟันคมของเจ้าตัวกัดไว้แน่น 



โอ้ย .. อึก ไม่! ..



ดูเหมือนยิ่งดิ้นจะยิ่งเสียเปรียบมากกว่าเดิม ขาเรียวถูกจับอ้ามากขึ้นอีกจนแทบจะเป็นเส้นตรง ร่างสูงโปร่งเมื่อเห็นอีกคนดิ้นจึงแทรกตัวเข้าไปคั่นระหว่างกลางในทันที จับขาเรียวเกี่ยวรอบเอวสอบแล้วขยับปลายนิ้วเข้าออกเพื่อเปิดทาง มันแน่นเสียจนเกือบจะเอานิ้วเข้าไปอีกไม่ได้ 



“..อะ ..อ๊า! 



เมื่อเห็นอีกคนยังคงดิ้นและร้องเสียงดัง มือหนาจึงส่งปลายนิ้วชี้แทรกเข้าไปอีกนิ้วในทันทีเพื่อตัดรำคาญ เร่งกระทุ้งอุ้งมือขยับเข้าออกรัวเร็วเพื่อขยายช่องทางให้พอรับเขาเข้าไปได้ จนกระทั่งร่างขาวสะดุ้งเฮือก ช่องทางร้อนบีบรัดวูบ เรียกรอยยิ้มร้ายจากคิมจงอินได้ไม่ยาก



จะทำอะไร!



ซักผ้ามั้ง ก็เห็นๆกันอยู่  



เมื่อก้านนิ้วยาวถูกถอนออกไป ขาเรียวถูกจับอ้าออกอีกครั้ง เซฮุนถอยครูดจนชิดหัวเตียงด้วยความตกใจ แต่ถึงอย่างนั้นเอวคอดก็ยังถูกอีกคนกระชากให้ลงไปนอนด้านใต้อยู่ดี คนด้านบนหันไปยุ่งง่วนอยู่กับกางเกงที่ยังถอดไม่เสร็จดีอีกครั้ง จับแก่นกายที่ขยายใหญ่พร้อมใช้งานขึ้นมารูดรั้งสองสามครั้งก่อนจะนำไปจ่อที่ปากทางเข้าแล้วกดลงไปช้าๆ 



โอ้ย! ฮึก .. เอาออกไป



ร้องลั่นแล้วดิ้นพล่านด้วยความเจ็บปวด แก่นกายใหญ่เข้ามาได้แค่เพียงส่วนหัวเท่านั้น แต่ก็ทำให้เซฮุนรู้สึกทรมานราวกับร่างกายจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ ร่างโปร่งเกร็งตัวจนช่องทางบีบรัดแน่นไม่เป็นจังหวะ จงอินซิ้ดปาก ดึงดันจะเข้าไปให้ได้ เรียวขาขาวถูกดันขึ้นสูงอีกแล้วกระแทกแก่นกายเข้าไปจนสุด



ฮ่ะ ..อ๊า!  



ไม่รอให้คนด้านใต้ได้ปรับตัว เจ้าของผิวสีน้ำผึ้งโน้มตัวลงไปแล้วขยับเอวสอบสอดกระแทกเข้าไปในทันที มือหนายึดเอวคอดไว้แน่นแล้วขยับเข้าออกรัวเร็วจนแทบลืมหายใจ ความอุ่นร้อนโอบล้อมและตอดรัดเขาไว้จนแทบจะเสร็จในคราเดียว ดวงตาคมปิดลง ใบหน้าหล่อเหลาเงยขึ้นด้านบน เสียงครางต่ำดังลอดออกมาจากริมฝีปากหยักอย่างสุขสม 



อ๊า! เจ็บ .. เอามันออกไป ฮึก  



แต่คนด้านใต้ไม่ได้รู้สึกดีไปด้วยเลย เซฮุนทั้งร้องครางและร้องไห้ออกมาในเวลาเดียวกัน ร่างขาวสั่นระริกไปทั้งร่าง แผ่นอกบางกระเพื่อมขึ้นลงตามแรงหายใจและแรงกระแทกที่ส่งมาจากคนด้านบน เริ่มรู้สึกถึงความเจ็บแสบจากช่องทางด้านหลังที่เหมือนจะฉีกขาด ทรมานจนอยากจะตายไปซะเดี๋ยวนั้น 




อา .. รู้สึกยังไง โดนแบบนี้บ้างแล้วรู้สึกยังไง



และถึงแม้จะรู้สึกดีมากเท่าไหร่ก็ตาม เขาไม่เคยลืมว่าจุดประสงค์ที่ทำเช่นนี้เพราะอะไร เสียงทุ้มเอ่ยเค้นข้างใบหูเล็กแล้วกัดมันเต็มแรงจนร่างด้านใต้ต้องร้องออกมาอย่างตกใจ เขาไม่ลืมว่าเซฮุนเคยทำอะไรไว้ และเขาจะต้องได้แก้แค้นอย่างสาสม



อะ ..ฮือ .. ปล่อย อ๊า!



ใบหน้าหวานส่ายไปมาอย่างไร้คำตอบ ม่านใสปิดแน่น ริมฝีปากอิ่มถูกขบเม้มจนช้ำเลือดเพื่อสะกดกลั้นความเจ็บปวดเอาไว้ เขาไม่รู้จริงๆว่าจงอินหมายถึงอะไร 



ซิ้ด .. อา .. แน่นชิบ



อึก อะ .. อ๊า .. พอแล้ว พอแล้ว  



ร่างขาวถูกพลิกให้หันหลังทั้งๆที่เอวสอบยังไม่หยุดขยับเข้าออก แผ่นหลังบางถูกมือหนากดมันลงราบกับฟูกเตียงในขณะที่สะโพกมนถูกรั้งขึ้นสูงแล้วส่งแรงกระแทกเข้ามาอย่างแรงจนจุก ฝ่ามือขาวจิกลงไปบนผ้าปูที่นอนจนมันยับยู่ ทำได้เพียงหลับตาปี๋อ้าปากร้องครางรับแรงกระทั้นที่ถี่กระชั้นขึ้นทุกที



ไหนเมื่อกี้เก่งนักนี่ หืม



อะ อ๊า  



คำพูดดูถูกกดกระซิบอยู่ที่ข้างหู มือหนาถูกส่งไปบดขยี้ที่ปลายยอดอกแรงๆจนร่างสวยต้องบิดเร้าด้วยความทรมาน ความรู้สึกเจ็บปวดและเสียวซ่านตีกันมั่วไปหมดจนเริ่มจะสับสน เรียวขาขาวเริ่มสั่นจนจะพยุงตัวเองไว้ไม่อยู่ แต่ก็ติดที่มือหยาบยังคงประคองสะโพกของเขาไว้ เซฮุนได้แต่ภาวนา .. ขอให้ความทรมานในครั้งนี้จบลงไวๆ



ฮะ .. อึ้ก!



จนที่สุดของความปรารถนาเดินทางมาถึง สายธารอุ่นร้อนถูกฉีดพ่นเข้าไปในช่องทางคับแน่นพร้อมกับสองร่างที่กระตุกไปพร้อมๆกัน แก่นกายคับใหญ่ถูกถอนออกไปในทันที แล้วผลักร่างอีกคนให้ลงไปนอนอย่างหมดแรงบนฟูกเตียง ร่างโปร่งหอบหายใจถี่รัวอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ก่อนที่สติจะดับวูบลงอีกครั้ง 

วันอาทิตย์ที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2557

[SF] CHANHUN KAIHUN - Grey [CUT#2]



“ผมแค่ไม่อยากเห็นคุณต้องเจ็บอีกแล้ว”


“ไม่ต้องพูดแล้ว”


สิ้นสุดประโยคนั้น ริมฝีปากที่พร่ำพูดก็ถูกปิดทับด้วยอวัยวะเดียวกันจากคนตัวสูงกว่า ริมฝีปากหยักบดเบียดจูบซับเอาความรู้สึกหวาดกลัวและเสียใจออกไปจากคนตัวเล็กจนหมด เหลือเพียงความอบอุ่นที่มอบให้ ลอยวนอยู่ทั่วในความรู้สึก ลิ้นร้อนกวาดไล้กลีบปากนิ่มเป็นการขออนุญาต และริมฝีปากเล็กก็ยอมเปิดทางให้เรียวลิ้นนั้นเข้าไปลิ้มรสหวานภายในแต่โดยดี


ใบหน้าคมเอียงเล็กน้อยเพื่อปรับองศา นิ้วเรียวสอดเข้าที่กลุ่มผมนุ่มและท้ายทอยรั้งให้รสจูบนั้นแนบแน่นยิ่งขึ้นไปอีก สองมือบางกำแน่นอยู่ที่ขอบกางเกงของจงอิน รู้สึกวาบหวามจนแทบจะยืนไม่อยู่เมื่อฝ่ามือซุกซนเริ่มจะโอบไล้ไปทั่วทุกส่วนของร่างกาย


ประคองคนตัวเล็กให้นอนเอนหลังลงบนโซฟาตัวใหญ่ ก่อนเลื่อนตัวขึ้นไปทาบทับอย่างแผ่วเบา เท้าศอกไว้ไม่ให้กดน้ำหนักลงไปกับคนด้านล่างมากจนเกินไป ริมฝีปากหยักป้อนจูบอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ไม่ใช่การจูบเพื่อปลอบประโลม หากแต่เป็นการจูบเพื่อแสดงความรัก นุ่มนวลจนแทบจะหลอมละลาย


เสียงเครื่องปรับอากาศทำงานเงียบๆ กระดุมเสื้อเม็ดเล็กถูกริดออกไปจนหมดตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ริมฝีปากร้อนไล่จูบซับตั้งแต่ลำคอลงมาถึงแผ่นอก ไม่มีการขบเม้มใดๆให้เด็กหนุ่มรู้สึกเจ็บปวด อบอุ่นทุกครั้งที่ริมฝีปากคู่นั้นลากผ่าน


“อื้อ ..


และแล้วคนด้านล่างก็ต้องหลุดครางเสียงสั่นออกมาด้วยความไม่เคย เมื่อริมฝีปากคู่เดิมเลื่อนมาหยุดอยู่ที่แผ่นอกขาว ส่งลิ้นร้อนตวัดเลียยอดอกสีอ่อนที่ชูชันล่อสายตา ขบดูดจนแผ่นอกบางแอ่นเชิดขึ้นอย่างไม่รู้ตัว เซฮุนหลับตาปี๋ ยกมือขึ้นปิดปากกลั้นเสียงน่าอายของตัวเอง


ท่อนเนื้อซุกซนไล้เลียลากไปถึงหน้าท้องแบนราบ เย้าแหย่แอ่งสะดือสวยจนเซฮุนรู้สึกเสียววาบไปทั้งกาย จงอินยืดตัวขึ้นมาจูบเขาอีกครั้ง ส่งมือหนาลงมาเกี่ยวเอาขอบกางเกงถอดออกไปจากเรียวขาขาว


“ฮื่อ”


สองขายาวหนีบเข้าหากันแน่นด้วยความเขินอาย หากแต่ก็ต้องอ้าออกอย่างเก่าเมื่อคนด้านบนจับมันให้เกี่ยวไว้กับเอวสอบ สองมือยกขึ้นปิดหน้าเมื่อใบหน้าคมคายค่อยๆก้มต่ำลง จุมพิตแผ่วเบาที่จุดอ่อนไหวที่สั่นระริกด้านหน้า ก่อนใช้ริมฝีปากครอบครองมันลงไปจนสุด ความอุ่นร้อนโอบล้อมกายเล็ก ห่อริมฝีปากขยับรูดขึ้นลงให้เด็กน้อยของเขารู้สึกดี เซฮุนครางฮือ สองขานุ่มแทบจะหนีบใบหน้าอีกคนไว้หากมือหน้าไม่คอยจับมันแยกออก


รู้สึกกลัวอยู่ไม่น้อยเมื่อความอุ่นร้อนนั้นผละออกไป ใบหน้าหล่อเหลาเลื่อนต่ำลงไปอีกจนใจดวงน้อยกระตุกวูบ ริมฝีปากอบอุ่นคู่เดิมบรรจงจูบแผ่วเบาลงบนช่องทางที่ปิดแน่น นั่นยิ่งทำให้เซฮุนรู้สึกอายยิ่งขึ้นไปใหญ่


“อ๊า..


สะโพกมนลอยหวือ เมื่อเจ้าชิ้นเนื้อซุกซนที่เปียกชื้นแตะเลียตรงส่วนนั้น และพยายามดันเข้ามาเพื่อเปิดทาง เขาไม่อยากทำแล้ว รู้สึกกลัวแล้วก็อายไปหมด เขินจนไม่รู้จะหันหน้าไปทางไหน แม้แต่มือตัวเองก็รู้สึกว่ามันเกะกะไปหมด ได้แต่จิกลงบนโซฟาด้วยความเกร็ง


จนกระทั่งรู้สึกว่ามันชุ่มฉ่ำพอที่จะให้อะไรบางอย่างสอดเข้าไปได้แล้ว ใบหน้าคมผละออกจากส่วนนั้นแล้วส่งยิ้มอ่อนโยนกลับมาให้ ไม่ใช่ยิ้มที่ดูเหมือนล้อเลียนให้เขาอายยิ่งขึ้นไปอีก หากแต่เป็นรอยยิ้มที่เพิ่มความมั่นใจให้กับคนด้านล่าง


นิ้วเรียวแตะเบาๆที่ช่องทางอ่อนนุ่ม ค่อยๆสอดลึกเข้าไปช้าๆอย่างใจเย็น เขารู้ดีว่าเซฮุนต้องเจ็บ และคิมจงอินก็ไม่ได้ใจร้อนอะไร ขยับเล็กน้อยก่อนจะสอดนิ้วเข้าไปเพิ่ม เด็กน้อยของเขาร้องเสียงหลงเมื่อปลายนิ้วยาวแตะสัมผัสเข้าถูกจุด


“จะ ..จงอินครับ”


คว้าต้นแขนแกร่งแล้วบีบแน่นด้วยความกังวล เมื่อก้านนิ้วยาวถูกถอนออกไป ความรู้สึกโหวงแปลกๆเข้ามาแทนที่ กระทั่งรู้สึกถึงส่วนปลายของแก่นกายร้อนที่ถูไถอยู่ที่ปากทาง เซฮุนเริ่มจะไม่มั่นใจแล้วว่าแบบนี้มันจะดีสำหรับเขาทั้งคู่


ชายหนุ่มไม่ได้พูดอะไร เพียงแต่โน้มใบหน้าลงไปมอบจูบแผ่วเบาที่หน้าผากมน จับฝ่ามือขาวที่ชื้นเหงื่อนั้นประสานกันไว้อย่างให้กำลังใจ ก่อนจะค่อยๆสอดกายเข้าไปช้าๆ


“ฮื้อ ..


เด็กน้อยของเขาร้องไห้ซะแล้ว จะบอกว่าร้องไห้ก็คงไม่เชิง หยาดน้ำใสคลอหน่วยและร่วงลงมาตามแก้มขาว ฟันคมกัดริมฝีปากตัวเองเพื่อสะกดกลั้นความเจ็บ โผเข้ากอดอีกคนแน่น


“ชู่ว .. เด็กดี”


สอดแขนเข้าช้อนแผ่นหลังบางแล้วรั้งมากอดไว้ทั้งตัว แก่นกายใหญ่ดันเข้าไปได้ในที่สุด ความอุ่นร้อนและคับแน่นโอบรัดเขาอย่างเต็มรัก รู้สึกเสียววาบจนแทบจะเสร็จเสียให้ได้ จงอินขบกรามแน่น ค่อยๆขยับเข้าออกทีละนิดเพื่อให้อีกคนได้ปรับตัว


“ฮะ .. อ๊า”


เสียงหวานครางสั่น เสียวสะท้านไปทั่วร่างเมื่อคนด้านบนขยับกระแทกเข้ามาเร็วขึ้น แทบหลอมละลายเมื่อสายตาคู่คมจับจ้องมายังเขา ใบหน้าน้อยเอียงหลบ ไม่กล้าสู้กับสายตาร้อนแรงคู่นั้น


กระทั่งช่วงจังหวะสุดท้ายมาถึง สะโพกสอบขยับเข้าออกถี่รัว เด็กหนุ่มได้แต่ครางลั่นไม่เป็นภาษา ปลายเท้าจิกเกร็งและลอยเคว้ง ริมฝีปากบางอ้าค้าง กายเล็กผวาเฮือกก่อนจะปลดปล่อยน้ำนมขาวขุ่นสีบริสุทธิ์ออกมา เช่นกันกับของเหลวอุ่นร้อนจากคนด้านบนที่ฉีดพุ่งเข้าไปในร่างของตน


“ฉันรักเธอ”

วันจันทร์ที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2557

[CUT] CHANHUN THE SERIRES - 01 BLACK (NC17)



"พี่ครับ ..ไม่เอา"
 

 
"ขอแค่ครั้งสุดท้ายนะเซฮุน .. "

 
 
        เสียงทุ้มเอ่ยแทรกก่อนริมฝีปากหยักจะกดทับลงมาอีกครั้ง แผ่นหลังบางถูกฝ่ามือหนาช้อนเอาไว้ก่อนจะประคองให้เอนตัวลงบนเตียงกว้าง เซฮุนขมวดคิ้วอย่างนึกสงสัย .. 
 


 
          แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรไปมากกว่านั้นเมื่อสติถูกกระชากออกไป ฝ่ามือหนาสอดเข้าเสื้อเชิ้ตตัวบางพลางลูบไล้สะเปะสะปะไปทั่ว ปลายนิ้วเรียวสะกิดเข้ากับยอดอกเล็กจนเซฮุนต้องแอ่นตัวขึ้นรับอย่างเสียไม่ได้ เสียงหายใจติดขัดดังแทรกเสียงบดจูบท่ามกลางความเงียบและมืดสนิท เรียวลิ้นร้อนถูกสอดผ่านโพรงปากนุ่มเข้าไปเกี่ยวกระหวัดกับลิ้นเล็ก ริมฝีปากหยักขบเม้มดูดดึงกลีบปากอิ่มอยู่เนิ่นนานจนพอใจ 
 

 
"อือ .. "
 
 
          ครางฮือประท้วงในลำคอแผ่วเบา รู้สึกหนักเมื่ออีกคนทิ้งตัวลงมาทาบทับโดยไม่ผ่อนแรง ฝ่ามือขาวยกขึ้นดันแผ่นอกแกร่งออกไปให้พ้นจากตัว ถึงอย่างนั้นข้อมือเล็กก็ถูกรวบขึ้นเหนือหัวด้วยมือหยาบเพียงข้างเดียว ขาเรียวอ้าออกพลางชันเข่าขึ้นตามแรงดุนดันจากหน้าขาแกร่ง .. มือทั้งสองที่ถูกปล่อยให้เป็นอิสระเข้้าโอบล้อมลำคอของคนด้านบนเอาไว้หลวมๆ เงยหน้าพลางเอียงคอรับสัมผัสร้อนบริเวณซอกคอ รู้สึกดีขึ้นเยอะหลังจากอีกคนผ่อนแรงกดของน้ำหนักตัวลงบ้าง 
 
 
 
 
 
"พี่รักเธอ รู้ไหม .. " 
 
 
 
 
        เสียงทุ้มนุ่มกระซิบแผ่วเบาที่ข้างใบหูสวยก่อนจะขบเม้มเบาๆ ฟันคมกัดติ่งหูนิ่มแล้วจูบซับไล่ลงมาคนถึงแผ่นอกขาวเนียน กรอบปากหยักครอบลงกับยอดอกสวย ตวัดปลายลิ้นร้อนละเลงไปทั่ว ฝ่ามืออีกข้างลูบไล้ฟ่อนเฟ้นไปตามสัดส่วนโค้งเว้าบนเรือนร่างของอีกคนอย่างชอบใจ
 
 
 
"อ่ะ .. อือ "
 
 
 
 
         เสียงหอบหายใจติดขัดดังขึ้นอีกครา เมื่อริมฝีปากร้อนไล่ต่ำลงไปกว่าเดิม หน้าท้องแบนราบหดเกร็งยามริมฝีปากนั้นลากผ่าน มือเล็กบีบไหล่ของคนด้านบนไว้แน่น ใบหน้าแดงก่ำเมื่อรู้สึกได้ถึงอากาศเย็นวาบที่สัมผัสกับช่วงล่าง .. ถึงแม้ทั้งห้องจะมืดจนแทบจะมองไม่เห็นอะไรเลยก็ตาม 
 
 
 
 
"ฮะ .. "
 

 
 
           เม้มปากแน่นเมื่อรู้สึกถึงสัมผัสอุ่นร้อนที่โอบล้อมกาย ใบหน้าสวยเชิดขึ้นพลางหรี่ตาลง รู้สึกเสียววาบจนต้องกำกลุ่มผมนุ่มของอีกคนไว้แน่นเมื่อลิ้นร้อนตวัดลากผ่านปลายมน ขาเรียวตั้งชันขึ้นพลางหนีบเข้าหากันอย่างเสียไม่ได้ โพรงปากอุ่นและลิ้นชื้นทำหน้าที่ของมันได้ดีอย่างไม่บกพร่อง 
 
 
 
 
"อ่ะ .. อ๊า มะ .. ไม่เอานะครับ "
 
 
 
 
         ชันข้อศอกไว้กับเตียงพลางยันตัวขึ้นเมื่อขาเรียวข้างหนึ่งของตัวเองถูกดันขึ้นให้พาดไว้กับไหล่กว้าง คิ้วสวยขมวดมุ่นในความมืด  ถึงอย่างไรเขาก็มองไม่เห็นอยู่ดี .. ริมฝีปากหยักถูกถอนออกไปแล้ว ปลายจมูกโด่งกดลงกับขาอ่อนด้านในจนทำให้ขนอ่อนลุกชันไปทั้งตัว ลิ้นชื้นไล้เลียปากทางเข้าที่ปิดสนิท .. มันร้อน และเต้นตุ้บอย่างเชิญชวน
 
 
 
 
"ฮ่ะ .. อ๊า  อ๊า อย่า" 
 
 
 
 
 
           กระถดสะโพกหนีสัมผัสวาบหวามนั้น แต่ก็ถูกมือหนายึดเอวบางเอาไว้เสียก่อน เรียวขาสวยหนีบเข้าหากันอีกครั้งเมื่อลิ้นร้อนตวัดฉกไปที่ผิวเนื้ออ่อนนั้นอย่างเร็วรัวเกินกว่าที่ควรจะเป็น เรือนร่างบอบบางบิดเกร็ง สะโพกมนพยายามขยับหนีสัมผัสจาบจ้วงนั้นแต่ก็ไม่เป็นผล ปลายนิ้วเรียวถูกส่งมาบดคลึงที่ปากทางเข้าอย่างแช่มช้า ก่อนจะค่อยๆกดจมลึกลงไปในช่องทางสีเข้ม
 
 
 
"อึก .. " 
 
 

         นิ้วเรียวขยับหาจุดทันทีที่สอดเข้าไปได้จนสุดความยาว ก่อนจะตามด้วยนิ้วที่สอง ขยับก้านนิ้วกระตุ้นผนังอ่อนด้านในกระชากเอาสติของร่างด้านใต้ให้แตกกระเจิง เรียวปากบางอ้าค้างพลางกระตุกสั่น เมื่อปลายนิ้วเรียวสะกิดโดนจุดจุดหนึ่งเข้า ลมหายใจร้อนขาดห้วง รู้สึกโหวงแปลกๆเมื่อนิ้วเรียวถูกถอนออกไป
 
 

"ไม่เกร็งนะครับคนดี สุดท้ายแล้ว " 


         ยังไม่ทันจะได้เอ่ยปากถามอะไร ความเจ็บพลันแทรกเข้ามาระลอกใหญ่ ท่อนเนื้อร้อนกดแทรกเข้ามาในช่องทางสีเข้มช้าๆ สองแขนแกร่งสอดผ่านแผ่นหลังบางพลางรั้งให้ร่างขาวแอ่นตัวขึ้นมาแนบชิดกับอกกว้าง ก่อนใบหน้านวลจะซุกอยู่กับแผ่นอกนั้นเมื่อคนด้านบนเริ่มขยับ แขนเล็กข้างหนึ่งสอดใต้ไหล่หนา กดปลายนิ้วลงกับแผ่นหลังเพื่อบรรเทาความเจ็บ ฝ่ามือสวยอีกข้างสอดเข้ากับกลุ่มผมนุ่มของคนด้านบนอย่างหาที่พึ่งพลางดึงทึ้งมันเต็มแรง 


"ฮะ .. อ๊า .. "

          ใบหน้ามนเริ่ดขึ้นปล่อยให้ปลายจมูกคมได้ซุกไซร้อยู่กับซอกคอของเขาจนพอใจ ริมฝีปากอิ่มที่เม้มแน่นกลับต้้องเผยอออกเพื่อส่งเสียงครางเมื่อคนด้านบนส่งแรงกระแทกเข้ามาหนักๆ ปลายเท้าจิกเ้กร็งแน่น น่าแปลกที่ร่างสูงไม่ไม่ได้ว่าอะไรเลยสักนิดที่เขาทั้งจิกทั้งทึ้งเจ้าตัวแรงขนาดนี้ ทั้งๆที่ปกติแล้วเขาควรจะโดนดุไปแล้วด้วยซ้ำ 

"อ๊า .. อ่ะ อื้อ " 

           ไม่มีแม้แต่เสียงครางต่ำในลำคอ โอเซฮุนได้ยินเพียงเสียงหอบหายใจแรงๆกับลมหายใจอุ่นร้อนที่เป่ารดใบหูเพียงเท่านั้น ดวงตากลมปิดแน่น ทิ้งน้ำใสที่คลอหน่วยไหลลงอาบข้างแก้ม ทั้งเจ็บเสียดและเสียวกระสันตีกันมั่วกันไปหมด แรงกระแทกจากคนด้านบนถี่กระชั้นและรุนแรงขึ้นทุกที แกนกายแข็งขืนเสียดสีกับผนังด้านในช่องทางร้อนอย่างแรงเรียกเสียงครางระงมให้ดังก้องไปทั่วห้อง


"รักนะครับ .. รัก .. รัก " 


           เสียงกระซิบแหบพร่าระคนกับเสียงหอบหายใจดังอยู่ข้างหู คนตัวเล็กร้องเสียงหลงเพราะจังหวะการสอดใส่ที่ถี่กระชั้นเร็วขึ้นกว่าเดิม แก่นกายเล็กปวดหนึบ ใกล้ถึงจุดเต็มที ..


         แก่นกายร้อนถูกถอนออกไปแล้วสอดใส่เข้ามาอีกครั้งอย่างแรง ก่อนจะส่งแรงกระแทกซ้ำๆ เรือนร่างบอบบางทั้งร่างก็กระตุกวูบ รู้สึกได้ถึงสัมผัสอุ่นวาบที่ฉีดพ่นเข้ามาในกายพร้อมกับอะไรบางอย่างที่ถูกปลดปล่อยออกไป 

"อือ .. "


        เซฮุนครางอือเมื่อกายร้อนถูกถอนออกไป อ้อมแขนแกร่งคว้าตัวเขาเข้ามากอดไว้ ใบหน้าสวยซุกลงกับแผ่นอกกว้างพลางหลับตาลงอย่างเหนื่อยอ่อน สองแขนเล็กเอื้อมกอดอีกคนไว้เพื่อหาไออุ่น ถึงอย่างนั้นก็ยังรู้สึกเย็นวาบที่สันหลัง ขนแขนลุกเกรียว รู้สึกเย็นแปลกๆ บางทีอากาศวันนี้อาจจะหนาวจนเกินไป


วันอาทิตย์ที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2557

[CUT] GREY - CHANHUN KAIHUN


ขอเหล้าให้ผม อึก ..’

อยู่ๆผ้าขนหนูที่ผูกเอวไว้ก็ถูกมือเล็กกระตุกอย่างแรง ปมหลวมๆคลายออกและหลุดร่วงไปกองที่พื้น ม่านคมเบิกกว้างด้วยความตกใจ แต่ยังไม่ทันไรร่างของเขาก็ถูกเด็กตัวขาวโถมเข้าใส่ทั้งตัวจนต้องล้มลงไปนอนกับพื้นพรม ร่างสูงโปร่งพยายามจะพยุงตัวลุกขึ้น แต่ก็ถูกฝ่ามือบางผลักอกให้ลงไปนอนที่เดิม หน้าท้องแกร่งถูกร่างเล็กๆนั้นคร่อมไว้อย่างสมบูรณ์ ทิ้งสะโพกเสียดสี ยั่วยวนไปตามอารมณ์ที่พุ่งสูงอย่างไม่รู้ตัว ดวงตากลมปรือปรอยและฉ่ำเยิ้ม ไร้ซึ่งสติ ไร้ซึ่งการรับรู้

ฮื้อออ .. อึก

ด้วยความที่สวมแค่เสื้อเชิ้ตเพียงตัวเดียวเท่านั้น สะโพกมนยกขึ้นเล็กน้อย จับคว้าแก่นกายใหญ่อย่างไร้สติ ก่อนจะค่อยๆทิ้งตัวกดทับลงมาช้าๆ มันฝืดและแน่นจนเข้าไปไม่ได้ แต่โอเซฮุนก็ยังพยายามจะดึงดันให้มันเข้าไป มือน้อยจิกกำแขนแกร่งอย่างแรง ริมฝีปากอิ่มเม้มแน่น หยดน้ำตาไหลเป็นสายอาบสองข้างแก้ม เจ็บแน่นและเสียววูบไปทั่วท้องน้อย ความกระสันอยากมันมีมากจนแทบจะขาดใจตาย ยาที่ถูกฉีดให้กลับมาทำงานอีกครั้งเมื่อผสมกับฤทธิ์เหล้า

เข้าไปได้แค่เพียงครึ่ง ดูเหมือนว่าข้างในจะฉีกขาดไปแล้วเรียบร้อย เลือดสีเข้มไหลย้อนออกมาจนเริ่มจะขยับได้สะดวก มันเจ็บ แต่ก็สุขเหลือเกิน วินาทีนั้นเด็กหนุ่มไม่รับรู้อะไรอีกต่อไป ใบหน้าขาวเนียนเชิดขึ้นด้านบน ขย่มกระแทกกระทั้นรุนแรงหวังจะให้มันรีบจบสิ้น

ความเสียวซ่านแล่นปราดขึ้นมาถึงขั้วสันหลังเมื่อร่างสูงโปร่งที่นอนอยู่เริ่มให้ความร่วมมือ สะโพกสอบสวนกระแทกขึ้นไปอย่างแรงจนเด็กหนุ่มครางระงม มือหนาเลื่อนขึ้นไปประคองเอวคอดไว้หลวมๆ ปล่อยให้เซฮุนได้ทำตามใจชอบ เขาแค่ช่วยสนองก็เท่านั้น

ฮะ .. ฮั่ก .. อ๊า

กายบอบบางบิดเร้าด้วยความกระสันสุดขีด เสียวซ่านเกินจะรับไหว ทิ้งกายลงซบแผ่นอกกว้างอย่างหมดแรง เสียงหวานครางลั่นอยู่ข้างใบหู กระทั่งห้วงอารมณ์สุดท้ายมาถึง ร่างทั้งร่างกระตุกสั่น แก่นกายเล็กฉีดของเหลวขุ่นร้อนออกมาอย่างแรง เปลือกตาบางค่อยๆปิดลงช้าๆด้วยความเหนื่อยอ่อน

จากลมหายใจหอบเหนื่อยกลับเข้าสู่สภาวะปกติ ปาร์คชานยอลนอนนิ่งๆอยู่นานจนนึกเอะใจ พลิกตัวจับร่างเล็กๆให้นอนอยู่ใต้ร่าง กระทั่งเห็นใบหน้าน่ารักที่กำลังหลับพริ้ม แก่นกายใหญ่ถูกถอนออกพร้อมกับหยิบผ้าเช็ดตัวขึ้นมาคาดเอวไว้ลวกๆ ร่างสูงโปร่งยืนเกาหัวแกรกๆ มองคนที่นอนหมดสภาพอยู่ตรงหน้าอย่างไม่รู้จะทำยังไง .. เป็นครั้งแรกเลยที่เขาเจออะไรแบบนี้ ทำตัวไม่ถูก

ค่อยๆก้มลงช้อนร่างไร้สตินั้นขึ้นมาวางไว้บนโซฟา เดินไปหยิบผ้าห่มผืนใหญ่มาคลุมร่างนั้นไว้ กว่าสิบนาทีแล้วที่เขาได้แต่ยืนจ้องอีกคนอยู่อย่างนั้น ก่อนจะหลุดจากภวังค์เมื่อโทรศัพท์ดังขึ้น เขากดรับ คุยอยู่ไม่กี่ประโยคก็วางสาย บางทีเขาควรไปนอน


ม่านคมหลุบลงต่ำ ฝ่ามือหนาปาดคราบขาวที่เปรอะหน้าท้องของตัวเองขึ้นมาพิจารณา ชี้หน้าไอ้เด็กตัวขาวที่นอนหลับไม่รู้เรื่องรู้ราวอย่างคาดโทษก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำอีกรอบ

วันจันทร์ที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2557

↯ผู้ชายจังไรขอแต้บไข่เพื่อเธอ (2) : chapter 5

JONGIN PART


ครืด ..


ได้ยินเหมือนเสียงเฮลิคอปเตอร์กำลังจะลงจอด แต่ผมไม่มีกะจิตกะใจจะมาเบิ่งดูว่ามันเกิดอะไรขึ้น ผมนอนคว่ำ ข่มตาให้หลับ แต่ดูเหมือนว่าเสียงนั่นกำลังจะรบกวนการนอนของผมไม่หยุด

“ฮัลเหล “

ไม่ใช่เสียงเฮลิคอปเตอร์หรือเสียงอิข้างห้องตำน้ำพริก อย่างที่คิดไว้แต่อย่างใด มันเป็นเพียงเสียงโทรศัพท์โง่ๆเครื่องหนึ่งที่กำลังมีสายโง่ๆสายหนึ่งโทรเข้ามาจากคนโง่ๆคนหนึ่ง

“(ดำ อยู่ไหนวะ มึงมาด่วน เค้าจะเทส นี่กูยังไม่รู้เรื่องเหี้ยไรเลย )“

เสียงปลายสายตะโกนกลับมาอย่างเบาจนแทบจะเรียกได้ว่ากระซิบ ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่านี่มันคือการตะโกนตรงไหน หลับตามึนๆพอจับใจความได้ก็รู้ว่าเป็นเสียงไอยอลเพื่อน(โง่ๆ)ของผมนั่นเองที่คอลมาขัดจังหวะฝันดีของกูในเช้าวันนี้  ผมเกาตูดพลางเคี้ยวลิ้นแจ่บๆอย่างง่วงหงาวหาวนอน ดำไหน เทสอะไร ?

“กูนอนอยู่ “

“(ไอสัดมึงลุกเซ่! วันนี้เปิดเทอมแล้วนะมึง ไอห่า มาให้กูลอกเดี๋ยวนี้ดำเดี๋ยวนี้ ไม่ได้มึงกูตายแน่ๆ เร็วๆเลย กูส่งตารางสอนไปทางควยถอกแล้วนะ มึงรีบมากูรออยู่ )”

“..คาทอล์กรึปะ .. “

ผมเงียบ สตั้นไปแปปนึง ไม่รู้อะไรคือควยถอกที่มันว่า แต่ให้เดาคงเป็นโซเชียลมีเดียอะไรสักอย่างที่วัยรุ่นเค้าเล่นกัน ได้ยินเสียงปลายสายตอบกลับมาอย่างร้อนรน มันคงจะเดือดร้อนจริงๆ

“(เออนั่นแหละๆๆๆๆ ดำมึงมาเร็วๆๆๆๆ )“

“เออๆ เดี๋ยวกูรีบไป“ ตอบเสียงยานคางก่อนที่ปลายสายจะถูกตัดไป ผมคงต้องรีบลุกแล้ว ..เพื่อนเดือดร้อน คิดได้ดังนั้นแล้วกูก็หลับต่อ


ง่วงจริงๆ ..




“อืม ..แจ่บๆ กี่โมงแล้ววะ  “

ตื่นขึ้นมาอีกทีในเช้าวันที่สดใส เงยหน้ามองนาฬิกาบนฝาผนังก็พบว่ามันไม่เช้าอีกต่อไปแล้ว ไอเหี้ย ก้อด เที่ยงครึ่ง!! และนี่คือสิ่งที่ทำให้ผู้ชายหน้าตาดีคนนี้ต้องถลึงตาด้วยความตกใจ ผมผงกหัวขึ้นจากหมอนแล้วรีบปลุกคนที่นอนข้างๆในทันที

“เซฮุน ตื่นเร็ว “

“อืม .. วันนี้กูไม่มีเรียน “

อีกคนตอบ ก่อนที่โทรศัพท์สับปะรังเคนั่นจะสั่นอีกครั้งอย่างบ้าคลั่ง บนหน้าจอปรากฏรูปหูบานๆของเพื่อนสนิทเด่นชัดอยู่เต็มจอพร้อมกับเบอร์ของมัน ถ้าถามว่าทำไมไม่เซฟเป็นรูปหน้ามันก็จะบอกว่าที่มันไม่พอจริงๆครับ แค่หูก็เต็มจอแล้ว

“ฮัลโหล! เออกูขับรถอยู่ ..จะถึงแล้วเนี่ยกูหาที่จอดอยู่เนี่ย “

โทรมาหนักๆเข้าก็ต้องยอมแพ้กดรับ เสียงไอยอลดูน่ารำคาญมากขึ้นว่าปกติประมาณสามสิบห้าเท่า ผมทิ้งตัวเอาหัวพุ่งหลาวทิ่มลงบนหมอย เอ้ยหมอน ด้วยความง่วงที่ยังคั่งค้าง แต่แล้วเสียงเนือยๆจากคนข้างๆก็แทรกขึ้นมา

“ขับรถเหี้ยอะไร มันยังนอนอืดเป็นศพสิบแปดวัดอยู่ข้างๆกูเนี่ย “

“ชู่ว! “ ผมหันไปบอกให้ไอฮุนเงียบ นอกจากไอตัวแสบจะไม่เงียบแล้ว มันยังแลบลิ้นยั่วโมโหผมอีกด้วย

“โอ้ยไอเหี้ย เออๆกูกำลังรีบไปไง “

ไอสัดยอลคงจะได้ยินที่คุณแฟนคนน่ารักของผมพูดทั้งหมด มันถึงได้แรปด่าผมรัวซะขนาดนี้ กูเองก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากเกร็งหูไว้แล้วรีบวางสายให้เร็วที่สุด

“แสบจริงนะครับคุณ “

“อื้อ! .. ไอสัด “

เอ่ยคาดโทษไว้เพียงเท่านั้นก่อนจะโน้มหน้าลงไปกดจูบกับริมฝีปากบางหนักๆจนเกิดเสียง แล้วรีบดันตัวลุกขึ้นมาก่อนที่ฝ่าเท้าสวยจะทันได้ประทับลงบนอกของตัวเอง ไอฮุนโวยวายเสียงดังพลางปาหมอย เอ้ย หมอนใส่ผมอย่างบ้าคลั่ง แหมเดี๋ยวนี้โตเป็นสาวละหัดรักนวลสงวนตัว ทีเมื่อคืนล่ะครางระงม (ฝัน)

“เก๊าอาบน้ำแปปนะตัวเอง คิดถึงก็เข้ามานะ ประตูไม่ได้ล็อค เสื้อผ้าไม่ได้ใส่  “

โผล่หัวออกไปกวนตีนมันอีกรอบพลางส่งยิ้มที่คิดว่าหล่อที่สุดในเกาหลีเหนือให้กับอีกคน ไอฮุนไม่ได้ตอบอะไร เพียงแค่ส่งมือเล็กชูนิ้วกลางให้ผมอย่างเป็นมิตร




ในช่วงบ่ายของวันที่อุดมไปด้วยฝุ่นควันและอากาศที่ร้อนอบอ้าว เหนียวรักแร้เหลือเกินด้วยเหตุที่ต้องโหนสองแถวมามอเองเพราะเจ้าของรถยังไม่ตื่น ไอห่า ให้กูยืมขับหน่อยก็ไม่ได้ ใจดำสุด! ดำกว่าสีผิวกูสามสิบห้าเท่า ผมกดกริ่งย้ำหลายๆรอบเป็นทำนองป็อปรว็อคจนปุ่มมันแทบจะพังคามือเพราะอิคนขับรถแม่งไม่ยอมจอด มันขับเลยไปสองป้ายเลยอะ เดินกระแทกฝ่าตีนลงมาจากรถด้วยความไม่พอใจขั้นรุนแรง แล้วยื่นเหรียญห้าไปให้มันหนึ่งเหรียญพร้อมกับสีหน้าที่ไม่เป็นมิตร คนขับมองหน้า

“น้อง เจ็ดบาท “

เศษหน้าถึงกับร่วงกราวลงพื้นอย่างพริ้วสไว ไม่เคยรู้สึกอับอายขนาดนี้มาก่อน ผมกำเหรียญห้าบาทในมือไว้แน่น ก้มลงมองความว่างเปล่าในกระเป๋าเสื้อของตัวเองอย่างชั่งใจ กูไม่มีเศษแล้วไอสั้ด มีห้าบาทสุดท้ายของชีวิต

“แต่พี่จอดเลยป้ายผมมาสองป้ายนะ “

“งั้นสิบบาท “

!!!!!!

ไอคนขับทรราชนี่ มันจะชักจะเก่งกล้าสามารถกำเริบเสิบสานมากไปเสียแล้ว บังอาจมาต่อล้อต่อเถียงกับคนตัวดำอย่างข้าได้อย่างไร หงิด หงิดมาก ผมกำเหรียญห้าแน่นขึ้นอีกจนมันแทบจะหลอมละลายไปรวมกับขี้ไคลในมือ กู .. ที่พูดนี่คือต้องการให้มึงลดราคาให้กูเหลือห้าบาทโว้ย ไม่ใช่ให้มาเรียกเก็บกูเพิ่มอีกสามบาท กูไม่มี ไม่มีทั้งนั้น บอกแล้วว่าห้าบาท ทั้งชีวิตที่เหลือเท่านี้!

“ก็ผมกดกริ่งแล้วพี่ไม่จอดอะ !

ผมกระทืบเท้าแล้วเบะปากอย่างน่ารักให้รู้ว่ากูกำลังจะโกรธแล้วนะ แต่อิคนขับที่มีใบหน้าคล้ายคลึงกับผู้ก่อการร้ายในแถบปาเลสไตน์ยังคงมองมาด้วยสายตาอาตอย่างต่อเนื่อง ผมเสตาหลบเล็กน้อยก่อนจะจ้องกลับไปอย่างไม่ยอมแพ้

“เอ่าน้อง หาเรื่องเบี้ยวไม่จ่ายตังหรอ “

อิคนขับหน้าโฉดเริ่มขยับตัวเอาแขนมาพาดกับเบาะข้างคนขับแล้วชะโงกหน้าออกมาอย่างหาเรื่อง ผมถอยไปตั้งหลักหนึ่งก้าว ก้มลงมองแบงก์พันใบสุดท้ายของชีวิตในกระเป๋าสตางค์ของตัวเองอย่างชั่งใจ

“ผมมีแบงก์พันนะพี่ พี่มีทอนหรา “

ควักแบงก์สีเทาอันมีค่ายิ่งออกมาโบกสะบัดพร้อมกับส่งสีหน้ากวนส้นตีนไปให้ลุงคนขับอย่างร่าเริง คือกะว่ามึงไม่มีทอนแน่ๆ ยังไงเสี๊ย มึงก็ต้องเอาห้าบาทของกูไปอย่างจำยอม! ฮร่า อิอิฮร่า

“ได้! แปป “

สตั๊นไปแปดวิกับน้ำเสียงอันเรียบละมุนนั้น พี่คนขับหน้าทมิฬกระตุกยิ้มมุมปากอย่างชั่วร้ายก่อนจะก้มๆเงยๆอยู่ตรงที่วางเท้าฝั่งที่นั่งข้างคนขับ ผมชะโงกหน้ามองตามด้วยความอยากรู้อยากเห็น รู้สึกถึงละอองพลังงานอันเลวร้ายบางอย่างที่กำลังจะเกิดขึ้นกับผม ฉับพลันกระป๋องนมผงเก่ากึ้กถูกกระชากขึ้นวางบนเบาะ  ผมกลืนน้ำลายอึกใหญ่ลงไปอย่างเฝื่อนคอพลางชะโงกหน้าไปดู .. ข้างในนั้นไม่ได้มีนมผงบรรจุอยู่


“... “






เหรียญ ..

เหรียญล้วนไม่มีแบงก์ผสม .. ไอ่สั้ช! ผมประคองกระเป๋าอันหนักอึ้งที่เต็มไปด้วยเศษเหรียญจำนวนเก้าร้อยเก้าสิบสามบาทเดินเลาะไปตามรั้วมหาลัยทั้งน้ำตา หนักมาก อิสัด เหรียญบาทล้วน เผลอๆมีเหรียญสลึงแพลมๆมาด้วยให้เจ็บลึกถึงทรวงในเล่นๆ นี่มันวันวิปโยคอะไรของกูเนี่ย นอกจากจะไปมอสายแล้ว กูยังต้องเดินย้อนกลับมาอีกสองป้ายรถเมล์พร้อมกับแบกอภิมหึมามหาเศษเหรียญโคตรพ่องวิจิตราอลังการตระการตาสตาร์โชว์นี่ไปให้หนักเล่นๆด้วย god

“กรรมอะไรของกูวะเนี่ย “

และในระหว่างที่กำลังเดินตัดผ่านสนามเด็กเล่นอยู่นั้นเอง กระเป๋าเจ้ากรรมก็เกิดอ่อนระทวยขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ สายสะพายขาดออกจากกันเพราะความหนักอึ้งของเศษเหรียญจำนวนมาก ผมปาดเหงื่อ เอื้อมมือไปคว้าสายสะพายอีกข้างไว้พลางเดินจ้ำเร็วๆอย่างเร่งรีบ อย่าขาดนะมึง อย่านะ T_T มร้าย

“แคว่ก!!!

ทันใดนั้นเอง เสียงไม่พึงประสงค์ก็ดังขึ้น แม่งขาดขึ้นมาตั้งแต่ตูดกระเป๋ายันสายสะพาย เหรียญจำนวนมากหล่นกรูลงใส่พื้นซีเมนต์จนเกิดเสียงกรุ้งกริ้งไพเราะน่าฟัง ผมทรุดตัวลงอย่างหมดแรง น้ำตาลูกผู้ชายไหลลงอาบสองข้างแก้มไม่หยุด หมดสิ้นแล้วอนาคตที่สดใส หมดสิ้นแล้วeverythings จิงเกอเบล

“ง้า พี่ตัวดำคนนั้นแจกตังด้วย !!

หันขวับไปทางซ้ายที่แปดนาฬิกา อิเด็กดอกที่นั่งเล่นอยู่ในกระบะทรายกำลังชี้มาทางนี้พร้อมกับพูดกับบรรดาเดอะแก๊งค์ของมันอีกสี่ห้าตัวด้วยเสียงอันเล็กแหลม ง้าพ่อง้าแม่มึง อิเด็กนั่นทิ้งของเล่นซะฉิบ ก่อนจะออกตัวล้อฟรีพุ่งเข้ามาทางนี้อย่างรวดเร็วประหนึ่งนักวิ่งดีกรีเหรียญทองโอลิมปิก ผมเหลือกตาจนแทบจะหลุดออกจากเบ้าแล้วรีบโกยเหรียญใส่กระเป๋าตัวเองให้ได้มากที่สุด

“เย้ พี่ตัวดำใจดีจังเยย “

มาแล้ว มาถึงแล้ว.. และมันไม่ได้มาแค่สี่ หรือห้า ไอสัด มากันทั้งสนามเด็กเล่น มึงลองหลับตานึกภาพเหล่าปลาดุกทั้งหลายในแม่น้ำข้างวัดที่กำลังรุมตอดขนมปังอย่างบ้าคลั่ง และผมคือขนมปังที่ว่านั่น

“อ้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก”





“ฉันกำลังขอร้องอ้อนวอนเธออย่าไป ทิ้งตัวลงคุกเข่ากอดขาเธอเอาไว้ “

ได้ยินเสียงทุ้มห้าวของเพื่อนเหี้ยดังแว่วมาแต่ไกล เสียงกีต้าร์คลอไปกับเสียงร้องดูไพเราะและมีสเน่ห์ ผมเดินพ้นหัวมุมตึกมาก็พบกับไอ้สัดชานยอลที่กำลังนั่งไขว่ห้างเล่นกีต้าร์อยู่ตรงม้าหินอ่อนใต้ตึกคณะ ส่งสายตาลวนลามบรรดาสาวๆที่นั่งรายล้อมฟังมันร้องเพลงอยู่อย่างสุดชีวิต ไม่มีการหันซ้ายหันขวาให้หูตัวเองไปฟาดหน้าใครหน้าไหนทั้งนั้น เจ้าตัวก้มดูคอร์ดแล้วเงยหน้าขึ้นเป็นพักๆ ท่าทางของมันตอนที่เล่นกีต้าร์นั้นดูเป็นคนปกติดีไม่เหมือนเวลาอยู่กับพวกเราชาวเดอะแก๊งค์ แหมไอห่า กูนึกว่ามึงลืมเนื้อเพลงจริงๆไปแล้ว ปกติร้องแต่เวอร์ชั่นจังไรตลอด

“สัดยอลแม่มึงมา!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

ด้วยความหมั่นไส้ล้วนไม่มีอิจฉาผสม ผมวางกระเป๋าที่บรรจุเศษเหรียญของตัวเองลงบนกลางโต๊ะก่อนจะตะโกนออกมาดั่งลั่นจนรู้สึกหนวกหูตัวเอง ไม่รู้กูจะตะโกนทำไม แต่นั่นก็เรียกความสนใจจากบรรดาสาวๆที่กำลังตั้งใจฟังอิหูบินร้องเพลงอยู่ได้ทั้งหมด

“แต่ถ้าตัวเธอยังร๊าก ยัง ห่วงใย และถ้าอดีตของเรา ยังพอมีความหมาย “

แต่มันก็ยังหน้าด้านร้องต่อ และ ณ ขณะนั้น ผู้ชายตัวดำที่หน้าตาดีก็กลายเป็นบุคคลโลกที่สามในทันใด สาวๆปรายตามองมาที่ผมเพียงเสี้ยววินาที ก่อนจะหันไปสนใจไอเพื่อนเหี้ยต่อ ส่งสายตาหวานเยิ้มชิ้งๆใส่กันไปมาอย่างน่าพะอืดพะอม กูละอยากจะถ่ายรูปส่งไปให้อิอ้วนมันดูเสียเดี๋ยวนั้น ถ้าไม่ติดว่ากูเป็นคนดี

“มึงไม่อยากรู้หรอว่าแม่ไหน “

ผมยืนถามมันอยู่ตรงนั้น ไอ้ยอลยังคงขยับปากร้องเพลงต่อไป เพียงแค่หันมาทางผมพร้อมกับเลิกคิ้วขึ้นเป็นเชิงถาม มึงจะรู้ตัวไหมเนี่ยว่าสะเบ้าหน้ามึงตอนนี้มันดูขี้ม่อมากขนาดไหน ไอสัด หูดำหมดแล้ว

“แม่แบคอะ มันมากะกูเมื่อกี้ และถ้ามึงยังไม่เลิกเล่น กูคาดว่าอาจจะต้องติดต่อหลวงพี่เฉินให้เค้าจองศาลาวัดให้มึงล่วงหน้า”

!!!!!

ได้ผลตามคาด ไอ้ยอลเหลือกตาขึ้นจนตาแทบจะถลนออกจากเบ้า มือมันยังคงเล่นกีต้าร์ค้างทั้งๆที่ปากของมันได้ชัทดาวน์ตัวเองเรียบร้อยแล้ว ผมยืนกอดอก ในขณะที่ไอ้ยอลเริ่มยกมือขึ้นมากัดเล็บอย่างโรคจิต กระทั่งสาวๆเห็นท่าไม่ดีจึงค่อยๆสลายโต๋กันกลับไปทีละนางสองนาง

“มึงพูดจริงปะเนี่ย “

“เปล่า กูล้อเล่น “ ผมตอบ ตวัดขาขึ้นนั่งบนเก้าอี้ม้าหินฝั่งตรงข้าม

“เหี้ย!

“ไม่ยักรู้เดี๋ยวนี้มึงเป็นคนแบบนี้หรอ “

เอ่ยถามอย่างไม่ใส่ใจเท่าไหร่นักพลางแย่งแก้วนมปั่นมันมาดูดจนหมดแก้ว ไอยอลไม่ตอบคำ มันถอนหายใจอย่างโล่งอกก่อนจะเอากีต้าร์มากอดไว้แล้วตะแคงหน้าลงกับโต๊ะ

“ไอฮุนอะ ?“

“อยู่ห้อง วันนี้มันไม่มีเรียน แล้วแม่มึงอะ “

“แม่ที่หน้า กูส่งมันเข้าตึกเมื่อเช้า บอกตอนเย็นค่อยมารับ”

“เย็นนี้สนุกแน่ละมึง”






เอ้าปีหนึ่งมารวมกันตรงนี้! ยืนทำมะเขือไรครับน้อง! นั่งลง!!! “


ตกเย็นมาก็เริ่มกิจกรรมที่ทุกคนลอยคอและรอคอย ปาร์คชานยอลตะโกนลั่นสนาม มือหนาถือโทรโข่งหนึ่งอันพร้อมกับชี้นิ้วสั่ง เสียงทุ้มห้าวตะคอกดังๆจนบางคนต้องปิดหูด้วยความปวดแสบ น้องๆเฟรชชี่ยี่สิบกว่าคนรีบกุลีกุจอมานั่งเป็นแถวอย่างว่องไวตามคำสั่ง เป็นอันรู้กันว่าพี่ว้ากคณะนิเทศของมหาลัยปีนี้โหดที่สุดอย่าบอกใคร


“ขำอะไร! เอาฟันชี้หน้าพี่ทำไมน้อง มึงหุบปากเดี๋ยวนี้! ไป!! แทงปลาไหลห้าสิบแล้วไปนั่งท้ายแถว! “


เอาโทรโข่งจ่อแล้วตะโกนอัดหู ตวาดอย่างดังจนคู่สนทนาเริ่มจะน้ำตาคลอเบ้า บางคนหัวเราะกันคิกคักด้วยความขำ รู้สึกเหมือนว่าพี่ว้ากคนนี้จะเป็นโรคจิตอ่อนๆ เพราะนอกจากจะทำให้ต้องกลั้นขำแบบเหงือกอักเสบแล้วยังโหดใช่เล่น พอใครขำขึ้นมาก็เสือกทำโทษซะงั้น

“แล้วไอน้องคนนั้นน่ะ หัวทองๆหน้าบ้านๆที่นั่งเสร่อเป็นเห็ดโคนอยู่ตรงนั้นอะ พ่อมึงเป็นฝรั่งหรอ พรุ่งนี้ไปย้อมกลับ รับทราบ?


ชี้ไปที่บยอนแบคฮยอน เฟรชชี่ปีหนึ่งที่ต้องโอนเกรดกลับมาสอบเข้ามหาวิทยาลัยใหม่หลังจากไปแลกเปลี่ยนที่แคนาดามาสองปีเต็ม คนตัวเล็กขบกรามแน่นอย่างเจ็บใจ ดูก็รู้ว่าไอ้หูบานนั่นแกล้งเขาชัดๆ ทีตอนนี้ล่ะมาทำเป็นโหด ทีตอนอยู่ในรถละอ้อนเขาจัง


แต่ถึงอย่างนั้นก็ต้องยอมจำใจก้มหน้าไม่เถียงอะไรออกไป เพราะเขาเป็นคนสร้างข้อตกลงไว้เองว่าไม่ให้บอกใครเรื่องที่เขากับชานยอลคบกัน จะให้ใครต่อใครมองว่าเด็กเฟรชชี่ปีหนึ่งคบกับพี่ว้ากแล้วได้สิทธิพิเศษเหนือคนอื่นๆคงไม่ดีแน่ แถมยังเป็นผู้ชายทั้งคู่ด้วยอีก แบบนั้นยิ่งไม่ดีใหญ่


“แล้วมึงใคร ทำไมสาย!!!!!!! “


“เอ่อผม ดะ.. โดคยองซู นิสิตปีหนึ่งคณะนิเทศศาสตร์ครับ “


คนตัวเล็กที่เพิ่งเดินเข้ามาในกลุ่มยืนเงอะๆงะๆอยู่อย่างนั้น กลัวจนแขนขาสั่นไปหมด ร่างเล็กโค้งเก้าสิบองศาให้รุ่นพี่ที่กำลังยืนกอดอกมองเขาอยู่ด้วยสายตาแปลกประหลาด แค่ถูกตะคอกก็แทบจะร้องไห้ออกมา


“วันแรกมึงก็สาย เห็นไหมทุกคนต้องมารอมึงคนเดียว มึงไม่สงสารเพื่อนๆตาดำๆที่โดนกูแกล้งหรือไง“


“ผะ .. ผมขอโทษครับ“


“ไหนใครเพื่อนมัน ออกมา โทษฐานที่ไม่รับผิดชอบเพื่อนตัวเอง ไปวิ่งกับมันเลยไป “


“คือผม .. “


คยองซูอ้ำอึ้ง เขายังไม่มีเพื่อนสักคนเลยด้วยซ้ำ .. ชานยอลกวาดสายตาไปตามกลุ่มนิสิตน้องใหม่ ไม่มีใครเสนอหน้าออกมาซักคน


“อะไร นี่ไม่มีใครเป็นเพื่อนกับเด็กนี่เลยหรือไง งั้นมึงก็ไปตายซะไป ไม่มีใครคบอยู่ไปก็รกโลก “


ชานยอลว่า ไม่ได้ตั้งใจจะว่าน้องแรงๆอย่างที่ทำอยู่ แต่เพราะว่าเขาเป็นพี่ว้ากจึงต้องทำไปแบบนั้น แถมวันนี้ไอ้ไคก็เสือกโดดไปหาไอ้ฮุนที่คณะวิศวะอีก ตอนนี้เลยต้องลุยเดี่ยวไปก่อน ถ้าไม่โหดแล้วใครจะกลัว เขาคนเดียวจะไปคุมเด็กตั้งสามสิบกว่าคนยังไงไหว


“ผมเอง “


แต่แล้วคนที่ลุกออกมาก็แทบจะทำให้พี่ว้ากเอ๋อแดกไปเลย เป็นแบคฮยอนนั่นเองที่ยอมลุกออกมา ให้ขุดให้ตายยังไงก็รู้ว่าแฟนเขาไม่ได้รู้จักกับไอ้เด็กอ่อนนี่มาก่อนอย่างแน่นอน แบคฮยอนเดินชนไหล่เขาไปด้วยสีหน้าและท่าทางที่ไม่ค่อยจะพอใจเท่าไหร่นัก ก่อนจะคว้ามือเล็กของนิสิตหน้าใหม่คนนั้นแล้วพากันออกไปวิ่งรอบคณะในทันที


ชานยอลลอบกลืนน้ำลายอึกใหญ่อย่างฝาดคอ ก่อนจะละสายตาออกมาจากทั้งคู่ ขมวดคิ้วมุ่นด้วยความไม่พอใจ เหมือนความหึงจะเข้าครอบงำจนแทบจะว้ากใส่น้องๆอีกรอบ คราวนี้ล่ะมึงได้ว้ากจริงแน่


โด คยองซู งั้นหลอ ?????????????????????

ได้ .. เดี๋ยวมึงเจอกู



วิ่งรอบตึกคณะได้รอบเดียวก็หอบแดก ปาร์คชานยอลยืนถือโทรโข่งเท้าเอวรออยู่ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด อันที่จริงอยากจะให้แม่งวิ่งซักสี่สิบห้ารอบ แต่ติดที่ว่าแฟนกูวิ่งด้วยนี่สิ แค่นี้ขามันก็ใหญ่พออยู่แล้ว อีกนิดนึงจะเท่าเอว ไม่รู้ว่านี่ขาคนหรือขาโต๊ะสนุ๊ก เขาจึงให้พอแค่นั้น ก่อนที่จะเป็นการเพิ่มกล้ามเนื้อขาให้คุณแฟนมาเตะก้านคอเขาได้โดยง่าย


เอ้ะ แต่ลืมไป มันเตะไม่ถึง


“ไป!! มึงไปนั่งท้ายแถว!!


กลับมาถึงก็ชี้นิ้วสั่ง ไม่รอให้คนที่เพิ่งวิ่งมาเหนื่อยๆได้หยุดพัก ไม่รู้จะตะโกนอัดทำไมให้หนวกหูเล่นทั้งๆที่ก็อยู่ใกล้กันแค่นี้ แต่มันคือวิถีของชาวร็อคที่เค้าทำสืบต่อกันมาหลายยุคหลายสมัย คยองซูก้มหัวโค้งให้รุ่นพี่ก่อนจะรีบเดินไปที่ท้ายแถวอย่างไว แบคฮยอนเดินตาม แต่แล้วคนตัวเล็กก็ต้องเซไปข้างหลังเพราะถูกชานยอลดึงคอเสื้อไว้


“ส่วนมึง กล้านัก มานั่งข้างกูนี่”


อิแบคหันมาทำตาขวางใส่ แต่มันไม่ได้น่ากลัวเลยสักนิด กลับกันเขารู้สึกขำซะมากกว่า เล่นเอารุ่นพี่หนุ่มถึงกับต้องกลั้นขำกันหน้ายับ คนตัวเล็กสะบัดตูดเดินกระทืบเท้ามานั่งที่พื้นข้างๆด้วยท่าทางไม่พอใจสุดชีวิต ก้นเล็กๆกระแทกพื้นซีเมนต์อย่างแรงดังบรั๊ก ดูก็รู้ว่ามันเจ็บ เจ้าของใบหน้าที่บึ้งตึงเป็นตูดหมานั่นคงพยายามเกร็งเหง้าหน้าเพื่อระงับความเจ็บปวดและรักษาเซลฟ์ของตัวเองไว้อย่างสุดความสามารถ แฟนใครไม่รู้ น่ารักจริงๆ


“และก่อนที่เราจะเริ่มกิจกรรมในวันนี้ ก่อนอื่นพี่บอกเลย คณะเรามีครู เราต้องไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำคณะก่อนที่จะเริ่มทำอะไรทั้งหลายแหล่ เรามีประเพณีที่ทำสืบทอดกันมารุ่นต่อรุ่น ดังนั้นพวกน้องๆต้องเชื่อฟัง และทำตามที่พี่บอก ทุกคนต้องผ่านการครอบครู ไม่งั้นจะถือว่ามึงไม่ได้เป็นเด็กคณะนี้ เข้าใจไหม”


ไม่รู้จะใช้คำว่ามึง หรือกู หรือพี่ หรือน้อง อันที่จริงอยากใช้คำว่าเค้ากะตะเองมาก มันดูน่ารัก เป็นกันเอง และเข้ากับหน้าตาอันบ้องแบ๊วของเขาที่สุดแล้ว แต่พวกเด็กๆคงจะไม่ฟัง อีกอย่างตอนนี้ไม่มีใครที่มีพาวเวอร์พอจะคุมน้องได้เลย ไอ้จงอินบอกว่าไปแค่ชั่วโมงเดียว แต่ตอนนี้มันก็ยังไม่กลับ และคนที่มีพาวมากสุดที่จะสามารถคุมน้องๆได้คือมันอะแหละ สายเถื่อน ส่วนกูมันสายแบ๊ว แค่แอ๊บสถุนเฉยๆ


“เอ่า .. เอ่าโง่ โง่อีก ครอบครูต้องใช้อะไร”


เห็นเด็กๆเงียบก็เลยแกล้งถามขึ้นมาอีก เสื้อนักศึกษาที่บัดนี้ถูกปลดกระดุมคอและถกแขนเสื้อขึ้นมาถึงศอกเปียกชุ่ม ร่างสูงโปร่งเท้าเอวพ้อยตีนมองหน้าน้องๆที่นั่งก้มหน้างุดๆด้วยความกลัว ท่าทางที่ดูหาเรื่องนั้นดูน่ากลัวมิใช่น้อย ใครๆก็คงไม่กล้าหือกับเขาแน่ๆ ยกเว้นเสียแต่บยอนแบคฮยอน นิสิตปีหนึ่งที่นั่งเบะปากใส่แฟน(ในความลับ)อยู่ข้างหน้า เขารู้ดีว่าบุคลิกโหดสัดรัสเซียที่ปาร์คชานยอลเป็นอยู่นี้มันเป็นการแสดงหลอกตาขึ้นมาเท่านั้น แท้จริงแล้วความปัญญาอ่อนยังไหลเวียนอยู่ในเส้นเลือดอย่างเข้มข้น


“เอ้า!! กูถามทำไมไม่พูด!!!! ครอบครูต้องใช้อะไร!!!





กวาดตามองไปยังกลุ่มน้องๆที่นั่งเรียงกันเป็นตับอยู่ ทุกคนพากันก้มหน้าไม่สบตา เล่นเอาปาร์คชานยอลต้องเอาลิ้นดันกระพุงแก้มด้วยความไม่สบอารมณ์ หารู้ไม่ว่ากำลังหัวเราะเหงือกสะท้านอยู่ในใจ ไม่ยักรู้ว่าแกล้งเด็กมันสนุกอะไรขนาดนี้


“มึงจะเงียบกันทำไม!!! หรือไม่ได้แปรงฟันมา ใบ้แดกกันให้หมด!! กลัวคนข้างๆเหม็นปากก็เอามือป้องไว้สิวะ พี่ถามว่าครอบครูต้องใช้อะไร!!


ล่อซะดังลั่นสนามจนเป็นเสียงเอคโค่สะท้อนกลับมา ฟิวเจอร์บอร์ดที่เอามาพับให้เป็นปึกใหญ่ๆฟาดเพี้ยะลงกับอัฒจันทร์จนรุ่นน้องสะดุ้งด้วยความตกใจ


“ยัง .. ยังให้กูพูดคนเดียวอี๊ก!! ..ไอ้แว่นมึงขำอะไร!! ลุกขึ้น”


แหกปากตะโกนดังจนเสียงหลง เด็กๆพากันหลุดขำเป็นแถบ นิ้วเรียวชี้กราดไปที่เด็กผู้ชายใส่แว่นที่นั่งอยู่ท้ายแถวแล้วสั่งให้ลุกขึ้นยืน ฟิวเจอร์บอร์ดสีส้มที่ถูกพับให้เป็นแท่งๆเลื่อนไปชี้หน้าอย่างถือวิสาสะ เจ้าตัวหน้าถอดสี


“คะ.. ครับ”


“กูถามว่าครอบครูต้องใช้อะไร!! ตอบ!!!


“มะ .. ไม่ทราบครับ”


“ใช้ฝาชีไงไอโง่!!! โรงเรียนเค้าปล่อยให้มึงจบมอหกมาได้ยังไง มึงเต้นเดี๋ยวนี้ ตรงนี้ ร้องเพลงแล้วเต้น ปฏิบัติ!!


อยากจะหัวเราะให้ลั่นสนามบอล แต่ติดอยู่ที่ว่าตอนนี้กำลังเก๊กขรึมอยู่ มุกกูมันช่างครีเอทอะไรเช่นนี้ ไม่หล่อนี่เล่นไม่ได้เลยนะนิ เด็กหนุ่มผู้เคราะห์ร้ายทำหน้าเหมือนจะร้องไห้แล้วค่อยๆวาดลวดลายเต้นแร้งเต้นกาอย่างกล้าๆกลัวๆ ดูเหมือนว่าเสียงร้องเพลงอันเบาหวิวเหมือนจะขาดใจนั้นทำให้ปาร์คชานยอลสะใจเป็นอย่างมาก


“มองอะไรไอ้เตี้ย!! ตา.. ตาอะขวางให้มันน้อยๆหน่อย ไม่พอใจ ? ไม่พอใจมึงก็ลาออกไป!!


ฟิวเจอร์บอร์ดอันยักษ์ถูกย้ายตำแหน่งจากไอ้เด็กหน้าแว่นมาเป็นเด็กหัวทองแถวหน้าสุดแทน บยอนแบคฮยอนขมวดคิ้วหน้าเป็นตูด มองตาขวางด้วยความไม่พอใจ ได้ทีมึงเอาใหญ่ เล่นซะเนียนเหมือนไม่เคยรู้จักมักจี่กันมาก่อนเลยนะ เดี๋ยวกลับห้องมึงรู้เรื่องเลย เดี๋ยวรู้ว่าใครเป็นใคร พ่อจะเอาให้แม่งต้องลงมาคุกเข่ากอดขาร้องไห้อ้อนวอนขอความรักจากกูเลย


“เตี้ยแล้วมันหนักหัวพี่หรอครับ”


“นาย อย่าเลย เดี๋ยวโดนซ่อม”


เกือบจะยืนขึ้นไฝว้(ด้วยความสูงอันน้อยนิด)อยู่แล้ว แต่ก็ถูกเด็กอ้วนคนข้างๆคว้าแขนไว้ให้ลงมานั่งที่เดิม ก้นที่อุดมไปด้วยไขมันกระแทกพื้นอย่างแรงแต่หาได้เจ็บไม่ ตอนนี้อารมณ์ชะนีตกมันเริ่มเข้าสิงเขาเข้าซะแล้ว และคนอย่างแบคฮยอนก็ไม่ใช่คนที่จะยอมใครง่ายๆด้วยสิ ตอนนี้อยากลุกขึ้นไปตบหัวมันให้หน้าลั่นแล้วตะโกนดังๆว่า มึงอยากจะเลิกกับกูมั้ย มากๆ


“เอ่า เอ่ารับน้องวันแรกมึงก็เปรี้ยวซะแล้ว ออกมาเลย มาเต้นเดี๋ยวนี้ รูดเสา!!





ถึงคนตัวเล็กจะไม่ได้พูดอะไรแต่ก็อ่านปากได้เต็มๆคำว่า เหี้ย เข้าหน้า ดวงตาเรียวรีเพ่งจ้องไปที่คนตัวสูงอย่างอาฆาตแค้น ริมฝีปากบางเม้มแน่นเป็นเส้นตรงอย่างพยายามจะสะกดกลั้นอารมณ์ที่คุกรุ่น ลุกขึ้นยืนปัดตูดเดินไปที่หน้าแถวอย่างไม่เต็มใจเท่าไหร่นัก ในขณะที่ปาร์คชานยอลหัวเราะคิกคักชอบอกชอบใจที่ได้แกล้งเขา


“อะไร .. มองหน้า หรืออยากวิ่งอีกรอบ ให้ไอ้เด็กตาเหลือกท้ายแถวไปวิ่งด้วยอีกมั้ย ? รุ่นพี่สั่งทำไมไม่เต้น!!


“ไม่มีเสาให้รูด!!


อ้อมแอ้มตอบกระแทกเสียง ก้มหน้าลงกับพื้นแล้วมองตีนตัวเองเหมือนคิดซะว่ามันเป็นหน้าของปาร์คชานยอลในตอนนี้ กะว่าถ้าเสร็จจากกิจกรรมนี้ไป ตีนเบอร์38ของเขาจะไดฤกษ์พุ่งหลาวไปประทับหน้ามันอย่างแน่นอน


“มารูดกูนี่ หมายถึงตัวนะ ไม่ใช่อย่างอื่น”


ทั้งกองเงียบกริบ ทุกคนต่างจับจ้องไปที่เด็กผู้ชายหน้าหวานที่ยืนฟึดฟัดฮึดฮัดอยู่หน้าแถว แก๊งค์ชะนีริมขวาต่างซุบซิบนินทากันอย่างออกรส ไม่ใช่ว่าปาร์คชานยอลไม่รู้ แต่จงใจให้มันเป็นอย่างนั้น ไม่ต้องจิ้นน้องไม่ต้องจิ้น กูผัวมันเอง


ไม่ต้องรอให้พูดว่าซาวด์มา เด็กๆสาวๆชะนีแก๊งค์ริมขวาก็เมคซาวด์ให้อย่างทันใจ เสียงเล็กแหลมพากันร้องแต่แด่แดแด๊ฟังดูเร้าใจพิลึก ร่างสูงโปร่งยืนกอดอก ก้มหน้ามองคนตัวเล็กด้วยสายตาดุๆ ในขนาดที่มือเล็กค่อยๆเอื้อมไปแตะไหล่กว้างนั้นเบาๆ ก้มหน้าก้มตาเต้นโยกย้ายส่ายสะโพกด้วยความอับอาย


“แอร๊ยยยยยยยยยย เกย์มากอะแกร!!


“นี่มันพี่ว้ากตัวร้ายกับนายแหนมป้าย่นชัดๆๆๆ”


“ชั้นล่ะอิจชี่ผู้ชายคนนั้นจริงๆ ได้ใกล้ชิดพี่ชานยอลด้วยอร๊า”


“โหดเว่อร์ เสียงกระโชกโฮกฮากได้ใจมากอะแกร๊!!! พี่เค้าเท่ห์สุดๆไปเรย”


“ชั้นล่ะอยากจะโดนพี่เค้าเอาหูตบชั้นสักครั้ง ฮุกT_T


“บร้า กริ๊ดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”


และอีกมากมายหลายประโยคที่พยายามจะแทะเล็มพระเอกหูกางของเราให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ เล่นเอาเด็กหนุ่มถึงกับขนตูดลุก จนกระทั่งเจ้าของเสียงทุ้มห้าวเอ่ยปากบอกให้พอถึงได้หยุดเต้น ร่างแหนมรีบเดินก้าวฉับๆพื้นสะเทือน(นี่ก็ล้อมันจัง ไม่ได้อ้วนขนาดนั้น)ไปนั่งข้างคยองซู เพื่อนใหม่ของเขาที่ท้ายแถวในทันที


 _____________________________________

ตรึ่งเปรี้ยะ !
หายไปนานมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ประมาณสิบแปดชาติเศษ
จนรีดเดอร์บางคนแต่งงานมีผัวมีลูกแล้ว วันนี้มาอัพแล้วนะ 5555
ไม่รู้ว่ายังรออยู่ไหม หรือลืมกันไปรึยัง จะพยายามอัพให้ถี่ๆ ขอโทษที่หายไปนะ
อย่าลืม #ผชจรขตขพธ นะโว้ย ยังรักทุกคนเหมือนเดิม เด้าๆ