วันพุธที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2556

ผู้ชายจังไรขอแต้บไข่เพื่อเธอ #ผชจรขตขพธ Special part ตอน คริสมาสต์งานหยาบ

บุ๋นบี้ไทยแลนด์ภูมิใจและบังคับเสนอ



ผู้ชายจังไรขอแต้บไข่เพื่อเธอ #ผชจรขตขพธ
Special part ตอน คริสมาสต์งานหยาบ
ให้เสียงภาษาไทยโดย google translation
ผู้รับชมกรุณาสวมแว่นสามมิติ ปิดประตู ปิดไฟ
และเปิดใจของท่านเข้าสู่ฟิคจังไรน้อยๆเรื่องนี้ด้วยเถิด สาธุ







หวี่วิ้ชหยูอ๊ะเมรี่ขริสมาส หวี่วิ้ชยูอ๊ะเมรี่ขริสม่าส
หวี่วิ้ชหยู้อ๊ะเมรี่ขริสม๊าส แอนด์ดาแฮปปี้นิวเยียร์yeah





“ของมันจะมา “



เอ่ยเปรยๆพลางนั่งหันหลังให้เดอะแก๊งค์อยู่ตรงริมหน้าต่าง ขาโก่งยื่นพาดขอบหน้าต่างออกไปวางบนคอมเพรเซอร์แอร์อย่างหมื่นเหม่ ดวงตากลมมองออกไปข้างนอก หิมะเริ่มตกโปรยปรายลงมาอย่างสาหัส ทุกคนพร้อมใจกันใส่เสื้อผ้าที่หนาที่สุดเท่าที่ในชีวิตเคยใส่มานั่งล้อมวงปิ้งไก่กันอยู่หน้าเตาผิง ต่างจากปาร์คชานยอล พระเอกของเรื่องหนึ่งเดียวตลอดกาลที่ใส่เสื้อกล้ามโชว์ขนรักแร้กับผ้าขาวม้าหนึ่งผืนนั่งโกรกลมเย็นอยู่ข้างหน้าต่าง บนหัวสวมหมวกซานต้าคลอสสีแดงหนึ่งใบ มองแล้วค่อนข้างทุเรศลูกกะตา



“ของอะไรวะไอยอล “



ไอ้เฉิน เจ้าของบ้านที่เปิดห้องให้เดอะแก๊งค์มาปาร์ตี้คริสมาสในวันนี้เป็นคนเอ่ย ในขณะที่มือเหี่ยวกำลังถือไม้เสียบมาชเมลโล่วอยู่ที่หน้าสุดของเตาผิง ไฟลุกโชนจนอุ่นวาบ ได้ยินเสียงไม้ฟืนกำลังดีดเพราะความร้อน ผมหันไปเลิกคิ้วใส่มัน นี่ถ้าไฟไหม้บ้านนี่มึงไม่ต้องสงสัยเลย



“กูก็ไม่รู้ “



ตอบไปเท่านั้นก่อนจะเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างอีกครั้งประหนึ่งพระเอกเอ็มวี ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมผมต้องทำตัวอย่างงี้ แต่ทุกครั้งที่ได้บทมา ผมมักจะไม่เต็มเสมอ ถึงแม้ว่าผมจะพยายามทำตัวให้หล่อแค่ไหนก็ตาม



“ทำไมต้องแต่งตัวแบบนี้ด้วยวะ “



“ซานต้าคลอสจะได้เห็นกูแต่ไกลๆไง “



“แม่งบ้า”



“มึงไม่หนาวหรอวะไอสัด ปิดหน้าต่างเหอะ อิเตี้ยมันสั่นเป็นเจ้าเข้าแล้ว “



ไอ้ไคถาม ชี้ไม้ปิ้งไก่มาทางนี้ อยากจะยื่นหน้าเข้าไปแดกเหลือเกินถ้าไม่ติดว่าหน้าต่างมันไกลกับเตาผิงพอสมควร ผมทำได้แค่มองไม้เสียบไก่นั้นด้วยหางตา มันคงจะปลอดภัยกว่าถ้านั่งอยู่เฉยๆ มิเช่นนั้นผมอาจจะลงไปนอนจูบพรมอย่างสวยงามแล้วก็ได้



“หนาว.. แต่ของมันจะมา “



“ของเหี้ยไรวะ มึงแต่พูดคำนี้มาตั้งแต่เช้าละนะ =_=



“มึงไม่รู้ก็หุบฟันไปไอ้คริส มึงไม่เข้าใจกูหรอก “



ผมหันไปตอบมันเท่านั้น ก่อนจะหันออกนอกหน้าต่างอีกเป็นครั้งที่ล้าน หิมะเริ่มกระเซ็นเข้ามาในห้อง(นี่หิมะหรืออะไร=_=) รุขุมขนผมเปิดออกจากทุกสารทิศ หนาวสุดขั้วไปถึงรูตูด แต่ของมันจะมา .. ยังไงมันก็ต้องมา



“ปล่อยแม่งแฟนตาซีไปคนเดียวเหอะ เฉินมึงเปิดฮีตเตอร์ได้ไหมวะ กูไม่ไหวจริงๆ บ้านก็ออกจะรวยทำไมต้องมานั่งก่อไฟในห้องด้วยวะเนี่ย “



แบคฮยอนบอก ร่างเล็กๆนั่งยองๆอยู่ในหลืบที่ลึกที่สุดของห้อง สวมเสื้อผ้าหนาที่สุดประหนึ่งแหนมดอนเมืองมาเอง ผ้าพันคอถูกพันไว้รอบเหนียงจนไม่เหลือที่ให้หายใจ มือเล็กที่สวมถุงมือลายมิกกี้เม้าส์พยายามจะยื่นออกไปหาไอความร้อนจากหน้าเตาผิง แต่ก็ไม่ได้สัมผัส เพราะตูดของเพื่อนชาวจีนสำเนียงชิงเต่านั้นบังจนมิด



“เทามึงเขยิบตูดมึงออกไปหน่อย กูหนาว “



“ มึงก็บอกให้ไอ้คริสเขยิบดิ ดูแม่งเอาฟันมาค้ำเตาผิงไว้แล้วกูจะได้ผิงไหม “ ไอ้เทาหันมาแหว เดี๋ยวนี้การพูดการจาพัฒนาขึ้นเยอะ



“กูรอพี่ลู่อยู่ เขาบอกให้กูยืนรอตรงนี้ “



ไอ้คริสหันมาบอก นับตั้งแต่สิบนาทีที่แล้วที่พี่ลู่หานเดินออกไปเอาของว่างและน้ำ ไอ้คริสก็ยืนอยู่ที่เดิมและท่าเดิมตามที่เขาบอก เอาจริงๆแค่บอกให้มึงรอตรงนี้ ไม่ใช่ให้มึงห้ามขยับ นี่ก็ซื่อบื้อจริงๆควายเอ้ย



“เฉินมึงอะอุ่นอยู่คนเดียว เป็นเจ้าบ้านต้องเสียสละสิวะ “



“ทุกคนหลบให้ตุ้ดยืนหน่อยค่ะไม่ไหว ตรงนี้ก็หนาวมากจริงๆ “ ไอ้ฮุนแทรกเข้ามา ผลักไอ้คริสกับไอ้เทาที่ยืนอออยู่ตรงนั้นจนเซ



“พวกมึงอะแหละหลบไปให้หมด ไก่กูไหม้แล้วเห็นไหม “ ไอ้ไคแทรกเข้ามาอีก กลายเป็นว่าตอนนี้มีผู้ชายตัวควายๆสี่ห้าคนกำลังยืนรุมเตาผิงกันอย่างจริงจัง เสียงโหวกเหวกดังไปทั่วห้อง



“โอ้ยพวกมึง shut up สักทีได้แมะ กูบอกว่าของมันจะมา เงียบๆ ! ชู่ว .. “



ผมหันไปตวาดพวกมันอีกรอบ เดอะแก๊งค์เงียบค้างกลางอากาศ จะว่าไปแล้วเราก็ดูมีอิทธิพลเหมือนกันนะเนี่ย ฮิๆ



“ชานยอล มึงจะเลิกทำตัวต่างดาวแล้วปิดหน้าต่าง กลับมานั่งนิ่งๆตรงนี้ หรือมึงจะเลิกกับกู ให้เลือก “



 จนกระทั่งอิแบคหมดความอดทน เป็นฝ่ายพูดออกมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง ใบหน้าเคร่งเครียดที่ดูไม่เข้ากับที่คาดผมเขากวางที่มันใส่กำลังมองมาที่ผม ผมได้แต่เงียบ ทำหน้าเศร้าเตรียมจะเบะ มองออกไปนอกหน้าต่างสลับกับใบหน้าน่ารักปนโฉดของคุณแฟน ..มันจำเป็นต้องเลือก



“ตะ .. แต่ว่าของมันจะมานะ “



“ของจะไม่มีการมาอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้นถ้ากูไม่ได้สั่ง มึงจะเอาไง “



เอาแล้ว ไอ้แบคยืนขึ้นแล้ว มันเดินขาสั่นตรงมาทางนี้ ให้เดาว่าแม่งต้องเดินมาตบผัวมันแน่ๆเลย ด้วยความที่กูเองนี่แหละผัวมัน แล้วผมก็ไม่อยากเจอฝ่ามืออรหันต์ของคุณแฟนตัวดีด้วย จิตใต้สำนึกสั่งให้ผมโดดลงจากหน้าต่าง



แต่เหมือนจะโดดลงผิดฝั่ง ..




“อึ้ย!








“ไอ้ยอล!!!!



ร่วงตุ้บลงไปข้างล่าง ได้ยินเสียงหลังตัวเองกระแทกกับพื้นดังบรั้ก ยังดีที่มีหิมะรองรับ ไม่งั้นพี่ปาร์คคง is gone แน่แท้อย่างไม่ต้องสงสัย ได้ยินเสียงโหวกเหวกโวยวายลอดหน้าต่างชั้นสองออกมา ผมร้องโอดโอยด้วยความปวด ยังดีที่หลังไม่หัก ไม่มีแรงจะลุก หิมะเริ่มกัดผิวผมจนบวมแดง เย็นจัดจนต้องร้องว้ากออกมา



“อ้ากกกกกกกกกกกก อ้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก กูเจ็บ กูเย็น อ้ากกกกกกกกกก ”



“ไอ้ยอล!



ได้ยินเสียงตุ้บตั้บอยู่ข้างบน ให้เดาว่าเดอะแก๊งค์คงสติแตกกันอยู่ในห้อง แทนที่พวกมึงจะเลิกโวยวายแล้วลงมาหามเพื่อนขึ้นไป ไม่มีอะไอสัด กรีดร้องกันประหนึ่งวัวหาย กูหนาวจะตายห่าอยู่แล้ว สักพักก็ได้ยินเสียงมนุษย์ผู้ชายตัวควายๆสี่ห้าคนพากันกุลีกุจอวิ่งลงบันไดมาอย่างทุลักทุเล



“ผ่าง!!!



ประตูเปิดผางออกพร้อมกับไอ้คริส ไอ้เทา ไอ้ไค และไอ้ฮุนพุ่งพรวดกระโจนออกมาจับตัวผมไว้ ทั้งแขนทั้งขาถูกหามสี่ทิศเข้าบ้านอย่างไวด้วยความหนาว ไม่มีใครใจกล้าพอที่จะเดินตีนเปล่าออกมาสักคน ต่างจากผมซึ่งทั้งเนื้อทั้งตัวมีแค่เสื้อกล้ามกับผ้าขาวม้า พวกมึงดูรักเพื่อนกันจัง อิสิบนาทีที่เงียบไปนี่คือกำลังใส่รองเท้าบู้ทกันอยู่ใช่ไหม ห่าเอ้ย



“หลังกูหัก ... หลังกูจะหักไหม “



ทุกอย่างดูชุลมุนวุ่นวายไปหมด ผมโดนหามเข้ามาไว้ในบ้านก่อนจะถูกโยนลงบนโต๊ะกินข้าวที่ถูกไอ้เฉินกวาดของทุกอย่างหล่นลงไปจนเกลี้ยง วินาทีนี้ทุกคนสติแตกจนไม่เป็นอันทำอะไร ผมเอื้อมมือไปจับหลังตัวเองพลางร้องโอดโอย ตกลงมาไม่เป็นไรเท่าไหร่หรอก แต่กูจะตายเพราะพวกมึงทุ่มกูใส่โต๊ะเนี่ยแหละไอสั้ด!



“แม่!!!!!!!! แม่เรียกรถพยาบาล แม่!!!!!!!!



“เฉิน แม่มึงไปบวชชีที่วัดตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้วแล้วนะ “ ไอ้เทาหันมาตอบ



“พ่อ!!!!!!!!!!!!! พ่อเรียกรถพยาบาลเร็ว ไอยอลจะตายแล้ว “



“พ่อมึงไปเป็นเจ้าภาพทอดผ้าป่าวันนี้นี่ ไม่อยู่บ้าน “



“ไอเหี้ยยยยยยย ครอบครัวกูหายไปไหนหมด “



“กูไม่รู้ “



“พวกมึงเงียบๆหน่อย มันไม่ได้เป็นอะไรหรอกหน่า แค่เคล็ด “ไอ้ฮุนแหวกกลุ่มเดอะแก๊งค์เข้ามาพร้อมกับจับที่แขนผมแล้วบีบเบาๆ ไอสั้ดเจ็บ ผมว้ากลั่นบ้าน



“อ้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก อ้ากกกกกกกกก “



“อยู่นิ่งๆสิวะ กูดูให้อยู่นี่ไง “



“ออกไป๊! อย่ามาจับแขนกู มึงเรียนวิศวะ ไม่ใช่หมอ กริ๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!!!!



ผมหันไปมองอย่างหวาดระแวง สะบัดแขนตัวเองออกจากการจับกุมอย่างสุดชีวิต ดิ้นพล่านเป็นหมาโดนน้ำร้อนลวกอยู่บนโต๊ะกินข้าว พวกไอ้ไคจับผมล็อกแล้วขึงเอาไว้กับโต๊ะ ในขณะที่ไอ้ฮุนกำลังจะจับแขนผมบิดกลับคืนที่เดิม มันเจ็บมากๆเลย ผมจะเชื่อได้ไงว่ามันจะไม่ทำแขนผมหัก พากูไปโรงบาลเซ่ !



“ออกไป๊!!!!! แบคช่วยกูด้วย ปล่อยกู! ปล๊อยยยยยยยยยยยยยยย”



“กรึ๊บ ..“



ทันใดนั้นก็ได้ยินเหมือนเสียงกระดูกลั่นไปทั่วทั้งแขน ผมนิ่ง หยัดตัวขึ้นมามองแขนตัวเองที่เริ่มจะเขียวคล้ำ พยายามกระดิกนิ้วเท่าไหร่มันก็ไม่ยอมขยับ .. หรือว่าแขนผมจะหักแล้วจริงๆ



“แขนกูทำไมไม่กระดิกเลย ไอ้ฮุน! เพราะมึง แขนกูขาดแล้ว แขนกูกำลังเน่า ฮึก .. มันเน่าจนเปลี่ยนเป็นสีดำแล้ว “



แขนของผมคล้ำขึ้นเรื่อยๆ น้ำตาลูกผู้ชายไหลลงอาบแก้มทั้งสองข้างไม่หยุด ไอ้ฮุนทำหน้าสลดจนหดเหลือสองนิ้ว กูบอกแล้วมึงเป็นวิศวะไม่ใช่หมอ อิสัด แขนกูไม่ใช่เหล็กนะโว้ย



“สัดชานยอล แขนมึงอยู่นี่ นั่นแขนไอ้ไค ..=_=



ผมเงยหน้าขึ้นมองทั้งน้ำตา ไอ้แบคกำลังชูแขนของผมขึ้น ลองกระดิกนิ้วดู มันขยับได้นี่หว่า ก็ว่าทำไมแขนกูเน่าเร็วจังอะ ละเสือกเป็นสีเขียวๆคล้ำๆ กูก็นึกว่าเนื้อมันตายจิ ที่ไหนได้แขนไอ้ไค แล้วนี่กูร้องไห้เพื่ออะไรวะเนี่ย



“อ่าว .. “



“ไอ้เหี้ยยอล มึงว่าแขนกูดำหรอ “



“กูเปล่านะ “



“มึงด่าแขนกูดำ!!!!!!!!!! “ ไอ้ไคพุ่งเข้ามากระชากคอเสื้อผม ใบหน้าดำขึ้นสีตะโกนลั่นจนน้ำลายแตกฝอย



“กูเปล่าT_T มึงไม่ได้ดำแค่แขน มึงดำทั้งตัว “



“ตายซะมึง!!



“เด็กๆ พวกมึงเล่นอะไรกันเนี่ย ไร้สาระจริงๆ ดูซิพี่เจออะไร “



แต่แล้วเสียงสวรรค์ของพี่ลู่หานก็ดังขึ้น ทุกคนแบนความสนใจไปยังเจ้าของเสียง พี่ลู่หานถือถาดขนมเข้ามาพร้อมกับกระดานน้ำเต้าปูปลาอันใหญ่ที่เกรอะไปด้วยฝุ่น ใบหน้าเคยเหี่ยวที่ผ่านการฉีดโบท็อกจนตึงแล้วยิ้มกริ่มที่มุมปาก ผมสะบัดตัวเองให้หลุดจากการจับกุมของไอ้ไค จะไม่มีการเล่นการพนันใดๆเกิดขึ้นอีกชั่วชีวิตของผู้ชายที่ชื่อปาร์คชานยอล


.








“ไอเชี่ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย แดกเรียบ “



“ไหนมึงบอกว่าจะแทงไก่ไง “



“สัดเอ้ย “



ผมโกยเงินเข้าหน้าตักตัวเองหมดพลางหัวเราะคิกคักตอแหลด้วยความสะใจ ไหนมึงบอกจะไม่เล่นไง นี่ล่อเป็นเจ้ามือเลยอิเหี้ย ของมันจะมา บอกแล้ว สามร้อยแดกเรียบไม่มีเหลือ



“กูไม่เล่นแม่งมันละไอสัด!



ยังไม่ทันจะได้พูดอะไร จู่ๆไอ้ฮุนก็ช้อนใต้กระดานแล้วงัดมันขึ้นจนเงินและลูกเต๋ากระจายกันไปคนละทิศคนละทาง วงแตกกระเจิงกันไป ผมรีบยัดตังใส่กระเป๋ากางเกง(กลับมาใส่เสื้อผ้าดีๆแล้ว ไม่อยากเลิกกะแฟนT_T ) ไอห่านี่แพ้แล้วพาลจริงๆ



“ไอเหี้ยมึงอย่าพาลดิวะ “



“ไม่หนุกเลยเกมเหี้ยไรวะ มีแต่เสียอย่างเดียว “



“โหคนจะแพ้แม่งก็แถไปเรื่อย “



“เออๆไม่เล่นก็ไม่เล่น มาจับของขวัญกันดีกว่ามา “



พี่ลู่หานปราม ก่อนเสนอทางออกที่ดีกว่าก่อนจะมีการต่อยปากกันเกิดขึ้น เด็กๆทุกคนดูจะตื่นเต้นกับการจับฉลากของขวัญที่จะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้านี้ และน้องยอลวัย 23ขวบก็ชักจะตื่นเต้นเหมือนกันซะแล้วสิ (เด็กมากเลยไอสัด ได้ข่าวว่าแก่ที่สุดแล้ว)




กล่องของขวัญทั้งหมดแปดกล่องถูกนำมาวางรวมๆกันไว้ตรงกลาง ไม่ต้องเดาเลยว่ากล่องที่ห่อมาเบี้ยวๆดูทุเรศที่สุดนั้นเป็นของใคร ของกูเอง 555555 ทุกคนนั่งล้อมวงกัน ฉลากที่เพิ่งเขียนเองสดๆเมื่อกี้ถูกใส่ลงในโถใบใหญ่ เวียนกันจับจนครบทั้งแปดคน



“เริ่มจากไอ้เฉินละกันเจ้าของบ้าน มึงได้ของใคร “



“กูได้ของไค “



“เอ่าสั้ด ก็ถามอยู่ว่าได้ของใคร มึงก็บอกมาเซ่ !



“กูอะ ได้ของไค “



“เฉินอย่ากวนตีน มึงกำลังจะทำให้ทุกคนเสียเวลานะ “ ไอ้คริสถอนหายใจ ตบหัวเพื่อนไปหนึ่งที



“กูได้ของไคจริงๆ =_=



“ของ ? .. “



“ของไค”



“ของใครละวะ “ ผมเงยหน้าขึ้นจากฉลากในมือแล้วชะโงกหน้าไปถาม



“กูได้ของจงอิน -_-



“เออ ก็แค่เนี้ย ลีลาอยู่ได้.. วู้ว แกะเลยๆ  “



ทุกคนเชียร์ให้แกะ ไอ้ไคหัวเราะก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบกล่องของขวัญสีฟ้าที่กลางวงมายื่นให้ไอ้เฉิน ไอ้เฉินรับมาก่อนจะเขย่าเจ้ากล่องใบเล็กนั้นเบาๆแล้วค่อยๆแกะริบบิ้นออก ผมกลั้นหายใจ กล่องเล็ก ข้างในจะต้องเป็นของดีแน่ๆ ไม่นาฬิกาข้อมือก็คงเป็นแหวน หรืออะไรสักอย่าง อิจชี่ไอ้เฉินมากๆ



“ก๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก”



“เหี้ย!!!!!  “



ทันทีที่ของขวัญกล่องเล็กถูกแกะออกทุกคนก็ปล่อยก๊ากออกมาด้วยความฮา กูขำจนนมตั้งเต้า ต้องกุมท้องด้วยความปวดเกร็งแล้วลงไปนอนกับพื้น ไอ้ฮุนที่นั่งข้างๆทุบพื้นรัวๆ ต่างจากไอ้เฉินที่ตอนนี้เหม่อลอยเหมือนวิญญาณหลุดออกจากร่าง สัด ขำไม่ไหวแล้ว 55555555555555555555555



“น้ำแข็ง ..“



“ก๊ากกกกกกกกกก เอามาทำเหี้ยไรวะ 55555555 “



“เอ้า ก็บ้านกูขายน้ำแข็ง “ ไอ้ไคตอบหน้าตาย



“สัดกัมจงมึงออกจากบ้านกูไปเลยนะ “



“ไอ้เหี้ยไค 5555555555555555 มึงไม่ลงทุนเลยอะ 555555555555 โอ้ย 555555555 “



ผมหยิบกล่องของขวัญมาจากมือไอ้เฉินแล้วเสนอหน้าเข้าไปดู น้ำแข็งหลอดก้อนเล็กๆกำลังนอนอย่างสงบนิ่งอยู่ในกล่อง ดวงตากลมโต(ของน้ำแข็ง) มองมาด้วยความสิเน่ห์หา ถ้ามันพูดได้คงส่งเสียงhello ออกมาจากกล่องแล้ว เออดีแม่งไม่ละลาย ไอสัดเอ้ย สงสารอะ 555555555555555555555555555 กูขัม



“อะมึงเอาไปอมเล่น 5555555555555555“



ไอ้ฮุนจกน้ำแข็งก้อนน่ารักจากกล่องในมือผมแล้วเอายัดใส่ปากไอ้เฉินที่กำลังนั่งนิ่งอย่างสุขุมก่อนจะหันมาขำหน้ายับใส่ผมอีกครา ไม่ไหวแล้ว สงสาร โอ้ย 55555555555555555555555555555555 สงสารมึงจริงๆ



“น้ำแข็งบ้านมึงเค็มดีนะ ใช้ซอลต์ล่ะสิ ถุ้ย“



“เปล่า เค็มขี้มือแฟนกูเองแหละ “



หันไปยีหัวเด็กซนที่นั่งข้างๆหนึ่งทีด้วยความหมั่นเขี้ยว ทั้งวงพร้อมใจกันหยุดหัวเราะแล้วบิ๊วท์อ้วกกันอย่างสุดชีวิต ผมห่อลิ้นพลางบีบคอตัวเอง อี๋ อยากจะอ้วกออกมาเป็นโดเรม่อน



การแกะกล่องของขวัญดำเนินต่อไปเรื่อยๆหลังจากนั้น ไอ้ฮุนได้น้ำหอมของพี่ลู่หาน พี่ลู่หานได้นาฬิกาข้อมือจากไอ้แบค ไอ้ไคได้หมวกจากไอ้เทา ไอ้เทาได้เคสโทรศัพท์(ซึ่งใส่กับโทรศัพท์มันไม่ได้)จากไอ้ฮุน ไม่รู้จะเอาไปทำส้นตีนไร 5555555 ไอ้แบคได้กระทะจากไอ้เฉิน และผมได้กางเกงในลายแบ๊วจากไอ้คริส สัด สปอนจ์บ๊อบมาเอง ไม่อยากจะบอกว่ากูมีเป็นคอลเลคชั่น แต่ตัวนี้มันเล็กเกินที่คนไข่ใหญ่อย่างผมจะพอใส่ได้จริงๆ



“งั้นกูก็ได้ของมึงสินะ “



yeah



ผมเอื้อมไปหยิบอิก้อนของขวัญที่ห่อทุเรศๆนั่นมาให้ไอ้คริส ซึ่งเท่ากับว่าผมกับมันแลกของขวัญกันเอง โถ่ กูกะอยู่แล้วว่าไอ้แบคคงไม่ได้ของกูไปแน่ๆ ดีนะที่เตรียมของขวัญพิเศษมาไว้ กูบอกแล้ว ของมันจะมา



“ไหนดูซิ น้องชานยอลซื้ออะไรมา “



“เปล่า กูไม่ได้ซื้อ “



ผมหันไปยักคิ้วใส่ไอ้คริสกำลังยิ้มเงิงค้างกลางอากาศ รอยยิ้มชั่วร้ายของผมทำให้มันต้องหุบฟันของตัวเองไปโดยปริยาย ใบหน้าไอ้คริสเริ่มหลอนขึ้นทุกทีในขณะที่แกะกล่องของขวัญของผม อย่าเรียกว่ากล่องเลย ใช้สรรพนามเป็นก้อนจะดีกว่า อันที่จริงกูพยายามห่อให้มันสวยที่สุดในชีวิตแล้วนะ แต่มันได้เท่านี้จริงๆ ผ้าขี้ริ้วห้อขี้



“อะไรวะ “ พี่ลู่ถาม



“เหมือนหน่อไม้ดอง “



“กลิ่นก็คล้ายๆหน่อไม้ดองนะกูว่า “



มุงกันใหญ่ด้วยความอยากรู้อยากเห็น เดอะแก๊งค์ต่างออกความคิดเห็นกันอย่างจริงจังประหนึ่งทำการอภิปรายไม่ไว้วางใจกันในสภา จนในที่สุดสิ่งของในกล่องก็ปรากฏแก่สายตา ทุกคนทำหน้ามึนงงพลางทำหน้าโง่ใส่กันอย่างไม่ปิดบัง ผมอมยิ้ม มองไอ้คริสที่กำลังหยิบสิ่งนั้นออกจากห่อผ้าขึ้นพิจารณา



“ไรวะ “



“สายสะดือกูเอง “



“หะ .. “



“อ้วกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก “



“อี๋ “



“เชี่ย!



ทันทีที่พูดจบ ทุกคนก็กระจายกันไปคนละทิศคนละทาง กล่องของขวัญของผมลอยหวือขึ้นไปบนอากาศ ก่อนจะตกลงมาที่กลางวง พวกไอ้คริสโดดหลบกันจ้าละหวั่น ไหนมึงบอกกลิ่นเหมือนหน่อไม้ดองไง มึงชอบแดกหน่อไม้ดองไม่ใช่หรอวะ 555555555555555555555555555



“หนีกันทำไมวะ นี่ให้ด้วยความจริงใจ หายากนะโว้ย มีชิ้นเดียวในโลก ไอ้คริสมานี่ มาเอาของขวัญไปเร็ว “



ผมกวักมือเรียกไอ้คริสที่ตอนนี้ปีนขึ้นไปอยู่หลังตู้เสื้อผ้าไอ้เฉินเรียบร้อยแล้ว มันหันมามองผมหวาดๆก่อนจะส่ายหัวรัวๆด้วยความกลัว ผมลุกขึ้นยืน ถือสายสะดือตัวเองไปแหย่มัน



“ไอ้เหี้ยเอาออกป๊ายยยยยยย กางเกงในกูตัวหลายพันนะโว้ย มึงตอบแทนกูอย่างงี้หรอ “



“เฮ้ยๆๆๆ “



เมื่อไอ้คริสไม่สนใจ ผมเดินถือสายสะดือวนไปรอบห้อง อิพวกนั้นตัวลีบติดผนังจนผมต้องขำออกมา อะไรวะ แค่นี้กลัว นี่ไม่มีใครสนใจหน่อไม้ดองกูหน่อยหรอ



“เชี่ยยอลมึงอย่าเล่นพิเรนทร์ดิ เอาเก็บเดี๋ยวนี้ “



ไอ้แบคตะโกนออกมาจากหลังโคมไฟ แต่ไม่กล้าเดินเข้ามา อะไร นี่ขนาดแฟนตัวเองยังรังเกียจกันขนาดนี้เลยหรอ โห เสียใจว่ะ ผิดหวังจริงๆ



“มึงจะเก็บหรือไม่เก็บ ไม่เก็บกูจะไม่หายโกรธมึงตลอดชีวิตเลยนะ ! “มันขู่



“ครับๆ เก็บก็เก็บ โถ่ ไรวะ “



จนกระทั่งผมเก็บมันใส่กล่องไว้อย่างดีแล้วทุกคนถึงจะกลับเข้าสู่สภาวะปกติ ของกินและเหล้าถูกนำมาตั้งไว้ในห้องแล้วจกแดกกันอย่างเมามันส์ เสียงเพลงลูกทุ่งที่เปิดดังกระหึ่มอยู่ภายในห้องเก็บเสียงนั้นดูไม่เข้ากับเทศกาลคริสมาสต์เอาเสียเลย ถ้าจะให้ดีควรมีแซนตี้มาเต้นรูดเสาอยู่ตรงนี้สักสามสี่นาง เด็กเชียร์เบียร์ เด็กเชียร์แขก พนักงานเสิร์ฟ(นมโบ้มๆ) และอีกพริตตี้มากมายหลายนางให้มันส์กันแบบนี้สิถึงจะถูก (กามจริง)



“ตึ้งดึ่ง “



ได้ยินเหมือนเสียงกริ่งแว่วๆแทรกเสียงเพลงเข้ามา ผมดีดตัวขึ้นแล้วรีบวิ่งไปดูที่หน้าต่าง ของมาส่งแล้ว .. กูบอกแล้วของมันจะมา




“เอ้าไอ้ยอลไปไหน “



“กูบอกแล้วของมันจะมา “



ตอบเท่านั้นแล้ววิ่งแจ้นลงไปข้างล่างอย่างรวดเร็ว เปิดประตูรับกล่องใบใหญ่ที่มาส่งด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะมองมันแล้วสูดหายใจเข้าลึกๆ เรียกขวัญกำลังใจให้ตัวเอง







.
ย้อนกลับไปเมื่อวานตอนเย็น 



“ชานยอล อยากได้ “



“หืม”



มือเล็กสะกิดผมเบาๆในขณะที่เราทั้งคู่กำลังเดินหาของกินกันในย่านฮงแดที่กำลังครึกครื้นในช่วงเย็นของวันคริสมาสอีฟ ผมละความสนใจจากร้านเกมฝั่งตรงข้ามแล้วหันไปหา



“อยากได้ “



“อะไร ? “



“แมว “ 



คนตัวเล็กบอก ผมมองตามนิ้วเรียวที่กำลังชี้ไปที่ตู้กระจก ข้างในเป็นร้านขายลูกสัตว์น่ารักๆ เจ้าแมวตัวเล็กกำลังจ้องมองผมด้วยสายตาบ้องแบ้ว ลิ้นเล็กสีชมพูแลบเลียมือไอ้แบคผ่านกระจกอย่างน่าเอ็นดู แต่น่าขนลุกมากสำหรับผม  



“แมวห่าไร คอนโดไม่ให้เลี้ยงสัตว์ “



ผมตอบไปเท่านั้นก่อนจะเดินแยกออกไปที่ร้านเกม นึกว่ามันจะตามมาด้วย จนกระทั่งเวลาผ่านไปกว่าครึ่งชั่วโมง ผมเดินเหวี่ยงถุงใส่แผ่นเกมที่ซื้อมาเดินออกมาจากร้าน ไอ้แบคยังคงยืนอยู่ที่หน้าร้านขายสัตว์ที่เดิมไม่ไปไหน



“จะไปแดกข้าวยัง หิวแล้วเนี่ย “



“อยากได้ “



“ไม่เอาน่าแบค ไม่งี่เง่าดิ มันเลี้ยงไม่ได้จริงๆ “ ผมตอบ เด็กดื้อกำลังทำหน้างอ



“ทีมึงยังเลี้ยงยุงได้เลยอะ “



“กูไม่ได้เลี้ยง =_= มันมาเอง “ ผมขมวดคิ้ว อินี่คิดว่าผมเลี้ยงยุงได้ยังไงเนี่ย แค่กูเปิดประตูมันก็บินเข้ามาแล้ว



“ถ้ามึงเลี้ยงยุงได้กูก็เลี้ยงแมวได้ “ มันตอบ ทำท่าจะผลักประตูเข้าไปในร้าน ผมคว้าแขนเล็กไว้



“ไม่เอาหน่า เลี้ยงมึงตัวเดียวกูก็เหนื่อยแล้วนะ “ ผมถอนหายใจ ดูยังไงไอ้แบคก็คงจะไม่ยอมผมท่าเดียว(แต่ยอมหลายท่า(หยอก))



“อ่อนี่กูเป็นภาระมึงใช่ปะ แล้วมึงเอากูมาอยู่ด้วยทำไมแต่แรกล่ะสัด “ มันสะบัดแขนออกจากมือผม




“เฮ้ยไม่ได้หมายความว่าอย่างงั้นไง “



“แล้วทำไมต้องถอนหายใจอะ “



“แบคมึงตกมันแล้วนะ ใจเย็นๆก่อน กูไม่ได้อยากจะขัดใจมึง แต่มันเลี้ยงไม่ได้จริงๆ ..“ ผมพูดเสียงอ่อน



“เลี้ยงไม่ได้จริงๆอะ ..“ คนตัวเล็กเงยหน้ามอง ริมฝีปากเบะคว่ำเหมือนจะร้องไห้อยู่รอมร่อ



“เลี้ยงไม่ได้จริงๆ เอางี้นะ เราไปหาอะไรอร่อยๆแดกกัน กูเลี้ยงเนื้อย่างมึงเอาไหม จะกินเท่าไหร่กูตามใจเลย “



“เอางั้นก็ได้ “



“น่ารักจริงๆ “



เจ้าของเรือนผมสีทองตอบเสียงค่อย ไอ้แบคเดินนำไป ผมถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกก่อนจะยื่นมือไปยีหัวมันเบาๆก่อนจะเดินตามมันไป








เรื่องมันก็ประมาณนี้แหละ ถึงมันจะไม่อะไรแล้ว แต่ดูก็รู้ว่ามันยังงอนผมอยู่ วันนี้ไอ้แบคเงียบกว่าปกติ จนผมเองก็ไม่สบายใจ เอาวะ ช่างมันเถอะไม่เป็นไร ถ้าเจ้าของคอนโดจะไล่ผมออกก็ค่อยเอาเรื่องเลี้ยงยุงมาอ้างละกัน



“พร้อมรึยังสุชาติ  “



ผมพูดกับเจ้าแมวตัวน่ารักที่อยู่ในกล่อง ชื่อเพราะล่ะสิ กูตั้งเองเมื่อกี้สดๆ นี่ขนลุกถึงขนาดไม่กล้าใช้มือจับเลยนะเนี่ย เลยได้แต่เอามันใส่ไว้ในกล่องที่เจาะรูแล้ว ผมยืนมองตัวเองหน้ากระจก ชุดซานต้าคลอสที่ใส่อยู่นั้นดูทุเรศลูกตาชอบกล แต่ไม่เป็นไรหรอก เวลาง้อแฟนต้องทำอะไรทุเรศๆแบบนี้แหละ มันถึงจะสนใจ



“เมี๊ยว “



สุชาติตอบลอดกล่องออกมา ให้แปลคงประมาณว่ากูพร้อมนานแล้วไอควาย งี้มั้ง ผมยิ้มให้แมว รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคนบ้า ก่อนจะปิดฝากล่องแล้วค่อยๆถือกล่องนั้นอย่างระมัดระวัง เดินขึ้นบันไดบ้านไอ้เฉินไป



“ก๊อกๆ “



เอาตีนเคาะประตูห้องไอ้เฉินแรงๆแล้วยืนรอ พยายามถือกล่องให้ไกลจากตัวเองมากที่สุด อยู่ๆถ้ามันเกิดคึกอะไรขึ้นมาแล้วโดดออกนอกกล่องมาข่วนหน้าผมจะทำยังไง หน้าตาใช้หากินนะจอร์จ



ไม่นานนักประตูก็ถูกเปิดออกมาโดยเจ้าของห้อง เหง้าหน้าที่ประดับด้วยโหนกแก้มเหลี่ยมคล้ายไดโนเสาร์ยื่นออกมา ผมส่งซิกให้มันปิดเพลง ปิดไฟ ทั้งห้องเกือบจะเงียบกริบ ถ้าไม่ได้ยินเสียงไอ้ฮุนกำลังเมาโวยวายอยู่เป็นแบคกราวน์



“ไอ้แบค ซานต้าของมึงมาละว่ะ “



เดินพยุงกล่องไปหาคนตัวเล็กที่นั่งอยู่ตรงมุมห้อง คนตัวเล็กเงยหน้าขึ้นตามเสียงเรียกของไอ้คริส ก่อนจะป๊ะกับผมที่เดินเข้าไปหาพอดี ผมส่งยิ้มกว้างที่ดูทุเรศแต่จริงใจไปให้ ไอ้แบคทำหน้างง



“เอาล่ะสุชาติลูกพ่อ อย่าให้เสียเชิงชายนะมึง “



พูดกับเจ้ากล่องใบใหญ่นั้นเบาๆ ก่อนฝากล่องจะถูกเปิดขึ้น เจ้าแมวตัวน่ารักที่มีโบว์แดงผูกคออยู่กำลังเกาะขอบกล่องพลางส่งสายตาบ้องแบ้วไปให้คนตรงหน้า ไอ้แบคยิ้มกว้าง ก่อนจะอุ้มมันขึ้นมาแล้วเอาหน้าถูไถด้วยความชอบใจ



“เมอรี่คริสต์มาส อย่างอนกูเลยนะ  “



“ ...  “



“ชอบไหม “



“เออ ชอบดิ “ ไอ้แบคตอบ แต่ไม่ยักกะมองหน้าผม เจ้าตัวยังคงสนใจแต่อิแมวนรกนั่น (เอ่าไหนเมื่อกี้มึงยังเรียกสุชาติลูกพ่ออยู่เลย =_= ) โถ่ รู้งี้ไม่ซื้อให้ก็ดีอะ



“ชอบแมวหรือชอบคนให้ “



“ชอบแมว.. “



“เออ จำไว้ “




“ แต่รักคนให้ “



ไอ้แบคพูดเสียงเบา ผมฉีกยิ้มกว้าง ได้ยินเสียงโห่แซวของเดอะแก๊งค์เป็นแบคกราวน์



“เมอรี่คริสต์มาสผู้ชายจังไร “  จบประโยคที่อิเตี้ยพูดผมก็ขำออกมา ก่อนจะคว้าร่างเล็กๆนั้นเข้ามากอด






“ ...เมอรี่คริสต์มาสครับ “




Merry christmash ya
-END-