วันศุกร์ที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2556

↯ผู้ชายจังไรขอแต้บไข่เพื่อเธอ (2) : chapter 3 บวชนี้อีกนาน



Chapter 3 : บวชนี้อีกนาน






แทบจะดริฟท์รถเข้ามาจอดในลานวัด หลังจากที่แวะปั้มจอดรออิแบคขี้อยู่นานสองนาน ผมได้แต่เดินวนรอบรถตัวเองประหนึ่งมาร์แชลการ์ดเพราะกลัวไปงานบวชเพื่อนไม่ทัน การคลอดลูกของคุณแฟนเป็นไปอย่างยากลำบาก ผมเดินเข้าๆออกๆห้องน้ำอยู่หลายรอบเพราะอิแบคแม่งเอาแต่เรียก แถมยังต้องวิ่งเข้ามินิมาร์ทไปซื้อทิชชู่ให้มันอีกต่างหาก คราวหลังบอกเลยว่าจะไม่มีการกินไข่ลวกเกิดขึ้นอีกในตลอดช่วงชีวิตคู่ของเรา



“ทำไมมันเงียบๆวะ “



เปิดประตูลงจากรถด้วยท่าในตำนาน ก่อนจะ ถอดแว่นดำออกแล้วมองออกไปท่ามกลางทุ่งโล้นหน้าเมรุโล่งๆเตียนๆ มีหมานอนตายอยู่สี่ห้าตัวตรงตีนบันไดโบสถ์ แสงแดดจ้าทีร้อนระอุแผดเผาจนผิวไหม้เกรียม ผมยกมือขึ้นบังหัวตัวเองไว้ เกรงว่าถ้ายืนนานๆหัวอาจจะโล้นได้



“แปปนึง “ ผมหันไปทำปางห้ามญาติใส่ไอ้แบค ก่อนจะกดโทรศัพท์โทรหาเพื่อนในทันที



“ฮัลเหล .. ไอเฉิน กูถึงวัดละเนี่ย ตกลงมึงบวชวัดไหนวะไอสั้ช กูยืนรออยู่นานละไม่เห็นมีหมาโผล่มาสักตัว นี่ร้อนนะนี่ร้อน ตกลงมึงจะบวชไหม มึงหนีไปบวชอยู่กุฎิไหนเนี่ย  “



“(ฮัลโหลไอยอล เบาๆดิ้)“



“อ่าวสัดนรุ้งเทา นี่ไม่ใช่เบอร์มึงนี่ ขอสายไอเฉินหน่อย ตกลงมึงจะบวชกันไหม แฟนกูรอนานจนจะกลายเป็นหมาหอบแดดละเนี่ย “



ผมตะโกนอัดใส่ปลายสาย เมื่อเห็นว่าเสียงที่ตอบกลับมากลับไม่ใช่คนที่ผมต้องการจะคุยด้วย ถึงแม้ว่าเสียงปลายสายจะเบาจนแทบจะกระซิบ แต่ผมก็ได้ยินชัดว่าสำเนียงแบบนี้เป็นเสียงไอ้เทา หันไปมองไอ้แบคที่หนีร้อนไปยืนหลบอยู่ใต้ต้นมะขามแล้วเรียบร้อย คนตัวเล็กเตะหินที่พื้นเล่นเป็นเด็กๆ สงสัยคงไม่ได้ยินที่กูด่าเมื่อกี้  เพราะถ้าเป็นงั้นจริง หินที่มันเตะคงจะเปลี่ยนเป็นหน้ากูแทน



“(พระเฉินกำลังโกนหัวอยู่  ไม่ว่าง มึงสำรวมนิดนึง สุภาพหน่อยวันนี้วันมงคลของเพื่อน .. เนี่ยมากันครบละเหลือมึงสองคน เมื่อไหร่จะมาวะเค้าจะเริ่มกันแล้ว หรือมึงจะมาอีกทีตอนมันสึกเลยไหม )“



“กูอยู่ใต้ต้นมะขามเนี่ยอิเหี้ย เดี๋ยวจะย้ายไปต้นตะขบละ .. ทำไมไม่มีคนเลยวะ ตกลงพวกมึงบวชกันตรงไหนเนี่ย “



“(พวกกูไม่ได้บวช ไอ้เฉินบวชคนเดียว ..เนี่ยเข้าวัดมาก็เจอเลย มึงจะไม่เห็นได้ไงวะ มึงอยู่วัดไหนเนี่ย) “ ไอ้เทาตอบ เสียงแม่งเบามาก กูไม่ได้ยิน



“ก็เนี่ยที่มึงบอกเลี้ยวขวาหน้าเซเว่นก็เจอเลยอะ กูยืนอยู่หน้าเมรุเลยเนี่ย “ ผมยืนเท้าเอวปาดเหงื่อ ร้อนก็ร้อน นี่ยังจะมากวนตีนกันอีกเหรอ



“(ไอยอล วัดนี้ไม่มีเมรุ..)”  ไอ้เทาตอบ ได้ยินเสียงถอนหายใจลอดมาจากปลายสาย



“เอ้าไอสั้ช! แล้วนี่เมรุใคร “



 “(กูจะไปรู้ไหม )”



“เอามานี่ กูคุยเอง“



หลังจากที่ยืนคุยกันอยู่นานเป็นสิบนาทีแต่ไม่ได้ใจความ ไอ้แบคแย่งโทรศัพท์ออกไปจากมือผมแล้วเอาไปคุยเอง คนตัวเล็กเดินวนใต้ต้นมะขาม ผมได้แต่เข้าไปรอในรถด้วยความมึนงง จนในที่สุดก็ได้เรื่อง



“ควาย มาผิดวัด “



ได้ยินเสียงเพี้ยะแรงๆพร้อมกับสัมผัสละมุนบนหนังศีรษะ ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน การตบหัวปาร์คชานยอลก็ยังเป็นสิ่งที่บยอนแบคฮยอนชื่นชอบเสมอ หัวผมสั่นไปตามแรงตบจนเกือบจะกระแทกกับพวงมาลัยรถ ไอ้แบคสอดตัวเข้ามานั่งที่ฝั่งข้างคนขับก่อนจะปิดประตูดังปัง ผมกลั้นหายใจ คนน่ารักของผมเริ่มจะตกมันเข้าซะแล้ว



“หง่า ก็เค้าไม่ยู้นี่นา ._.



“ไม่ต้องมาทำเสียงแบ้วอะ มันไม่เข้ากับสันดานมึง ขับๆไปเลย นี่ถ้ากูขับเป็นกูขับเองแล้ว “



“ครับๆๆ “



ไอ้แบคหันมาแหว จนผมต้องหุบปากเงียบไว้อย่างเดิมแล้วก้มหน้าก้มตาขับรถให้คุณแฟนนั่งอย่างเจี๋ยมเจี้ยม จนในที่สุดก็ถึงวัดเป้าหมาย ผมเลี้ยวรถเข้ามาจอด ภายในวัดดูครึกครื้น คนเยอะมากเป็นพิเศษ มองจากในรถก็เห็นเลยว่าไอ้เฉินกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้พลาสติกสีแดง สองมือพนมถือใบบัวไว้อยู่ โดยมีใครสักคนหนึ่งกำลังโกนหัวให้





“งายสราด!



โบกมือเซย์ไฮกับเพื่อนที่นั่งสำรวมอยู่ตรงหน้า ไอ้เฉินโกนหัวจนเกือบจะโล้นหมดหัวแล้ว ผมส่งยิ้มละมุนไปให้มันด้วยฟามคิดถึง หลังจากปิดเทอมปีหนึ่งไปก็ไม่ค่อยได้เจอเลย แต่เพื่อนรักก็ไม่แม้แต่จะตอบอะไรผมสักคำ แหน่ะมีหยิ่ง ชำเลืองมองผมด้วยสายตาที่ยากจะคาดเดาพร้อมกับคิ้วโล้นๆสองข้าง



“กูบอกให้สำรวม นี่วัด และเพื่อนมึงกำลังจะเป็นพระนะ จะมาเล่นงี้ไม่ได้ “



ไอ้แบคดึงหูผมให้ลงไปใกล้ๆแล้วกระซิบด้วยเสียงอันดัง (นี่ก็ไม่รู้ว่ามึงจะกระซิบทำไม) ผมได้แต่หลับตาปี๋แล้วโน้มตัวไปตามแรงดึงเพื่อบรรเทาความเจ็บ ก่อนแรงดึงนั้นจะลากหูของผมผ่านฝูงชนไปหาที่นั่ง เดินผ่านไอ้ไคกับไอ้ฮุนที่นั่งเถียงอะไรกันอยู่แถวตู้กดน้ำ



“เอ่าไงมึง บวชเหมือนกันหรอวะ “



ผมเดินไปนั่งข้างๆไอ้สองคนนั้นพร้อมกับเอ่ยทักไอ้ไคทันที เห็นมันโกนคิ้วรอเตรียมบวชแล้วก็อดทึ่งไม่ได้  ไหนวันนั้นมึงบอกว่าจะไม่บวชๆไง เจอกันทุกวันยังไม่เคยเห็นมึงเอ่ยถึงเรื่องนี้เลย หรือสงสัยจะสัมผัสได้ถึงรสพระธรรรมรึเปล่าไม่รู้



“บวชห่าไร ไม่ได้บวช” ไอ้ไคตอบ หันมาทำหน้าง่วงใส่ผม



“เอ่าแล้วมึงโกนคิ้วทำไม “



“มันไม่ได้เขียนคิ้วมา “ ไอ้ฮุนหันมาตอบแทนผัวมัน



“ขอบใจ”



“มึงมานี่มา กูเขียนคิ้วให้ วันนี้เห็นคนทักมึงหลายรอบละ อายแทน “



“อุ้ย น้องเซของพรี่น่ารวั้คจัง”



สิ้นเสียง ใบหน้าดำๆก็ถูกฝ่ามือขาวของไอ้ฮุนจับให้หันไปหา ก่อนเพื่อนตุ้ดจะก้มหน้าก้มตาค้นอะไรสักอย่างในกระเป๋าของตัวเอง หยิบดินสอเขียนคิ้วออกมาหนึ่งแท่งแล้วบรรจงวาดคิ้วใหม่ให้ผัวมันอย่างตั้งใจ ผมชะโงกหน้าไปเสือกอย่างยินดี ใบหน้าของมันทั้งคู่อยู่ห่างกันไม่ถึงคืบ




มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ผมว่าอิดำแม่งต้องแกล้งโกนคิ้วมาอ่อยเมียมันแน่ๆ ..








มงๆๆ มงเท่งมงเท่งมงเท่งมง มงเท่งมงเท่งมงเท่งมง



“โหยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย หี้ โหยยยยยยยยยยยยยหี้ โหยหี้โหยหี้โหยหี้โหยๆๆๆๆๆ.. “



“ฮิ้ววววววว “



      ตอนนี้ผมกำลังเดินอยู่หน้าสุดของขบวนแห่ ป้องปากตะโกนออกไปด้วยเสียงอันแตกพร่าและทรงพลัง ก่อนเสียงฮิ้วจะขานรับกลับมาเรียกเอาอดรีนารีนในตัวพุ่งพล่านจนฉุดไม่อยู่ ยิ้มปากฉีกถึงหูแล้วตะโกนออกไปอีกครั้งอย่างเมามันส์



“โหยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย หี้ โหยยยยยยยยยยยยยหี้ โหยหี้โหยหี้โหยหี้โหยๆๆๆๆๆ.. “



“ฮิ้ววววววววววววววววว “ มันส์จริมๆ



“โหยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย หี้ โหยยยยยยยยยยยยยหี้ โหยหี้โหยหี้โหยหี้โหยๆๆๆๆๆ.. “




“หะ .. ฮิ้ววววววววววววว “ ยัง .. ยังไม่พอ



“โหยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย หี้ โหยยยยยยยยยยยยยหี้ โหยหี้โหยหี้โหยหี้โหยๆๆๆๆๆ.. “



“หะ .. หิ่ววว “ มันต้องเอาอีก




“โหหหหยยย หี้.. อั้ก! ..แค่กๆ “




“จะโหเหี้ยอะไรนักหนา ตกลงมึงจะให้มันบวชไหม หรือจะไม่ให้บวช กูจะได้กลับไปนอนบ้าน ปวดขี้ก็ปวด แดดก็ร้อน ละยังต้องมาฟังเสียงเหมือนหมาเยี่ยวรดสังกะสีของมึงอีก นี่ถ้ารู้ว่ามาละมันน่าเบื่อกูอยู่ดูการ์ตูนอยู่บ้านดีกว่าไอสัด “



เป็นคุณแฟนบังเกิดเกล้าที่บรรจงส่งฝ่ามืออรหันต์สับเข้าที่กลางหลังคอจนสำลักลูกกระเดือกตัวเอง  ไอ้แบคยืนพ้อยเท้ากอดอกมองผมอย่างเอาเรื่อง ดวงตาเล็กเท่าเม็ดก๋วยจี๊ของมันส่งสายตาพิฆาตอันน่าเกรงขามบวกกับแสงแดดที่ส่องเปรี้ยงลงมานั้นทำให้ผมต้องหยีตาหลบโดยพลัน เสียงโหหี้ของผมยุติลงเพียงเท่านั้น ก่อนจะหันไปส่งยิ้มเบาบางอย่างอ่อนโยนให้แล้วก้มหน้าก้มตาอยู่อย่างสงบสเงี่ยมเจียมตัวสุดชีวิต  สองมือประสานกันไว้ข้างหน้า เบิกตาให้กว้างๆ แบ๊วเข้าไว้เพื่อความปลอดภัยของชีวิต ใครว่าผมกลัวเมีย เปล้า ผมไม่ได้กลัว .. เพราะมันยังไม่ได้เป็นเมียผมซะหน่อย



แต่เอาจริงๆผมก็เกรงใจมันอะแหละ .. รัก .. รักเหมือนแม่







“แท่แดแดแด่แด่ดแท่ดแท่ดๆๆแทแดๆๆแดดแท่ด โป๊ะตรึ่งๆ โป๊ะตรึ่งๆ โป๊ะตรึ่งๆๆโป๊ะตรึ่งๆ “




และแล้วเสียงแตรวงก็บรรเลงขึ้น ตามด้วยเสียงกลอง ตะโพน แคน พิณ ฉิ่ง ฉาบ ไวโอลิน วิโอล่า เปียโน คีย์บอร์ด เบส กีต้าร์ไฟฟ้า กีต้าร์โปร่ง เปิงมาง จะเข้ ระนาดทุ้ม ระนาดเอก ระนาดเอกเหล็ก ฆ้องวงใหญ่ ฆ้องวงเล็ก ซอด้วง ซออู้ ซอสามสาย ปี่พาทย์ ขลุ่ยเพียงออ ขลุ่ยเรคอร์ดเดอร์ ขลุ่ยบวมตวย.. พอแล้วแหละ กูนึกออกแค่นี้ เรียนดนตรีนาฏศิลป์มาเท่านี้ ครูไม่ค่อยเข้าสอนเลย เครื่องดนตรีดีหมดทุกชิ้นนะครับ ทุกชิ้นจริงๆ ยกเว้นชิ้นสุดท้าย อย่าไปใส่ใจมันเลย แต่เอาจริงๆผมเล่นชิ้นนี้บ่อยที่สุดและ 55+



เหล่าป้าๆลุงๆและสิ่งมีชีวิตโดยรอบขบวนต่างเซิ้งกระติ้บกันอย่างเมามันส์ เต้นกันลืมตายกันเลยทีเดียว ส่วนอิคนฟอร์มจัดข้างๆผมก็เอาแต่เดินกอดอกสะบัดบ๊อบนำไปล่วงหน้า ผมหันไปมองข้างหลัง ไอ้เฉินนั่งอยู่บนเก้าอี้พลาสติกบนหลังรถกระบะพร้อมกับไอ้เทาที่ยืนพยุงร่มแม่ค้าบังแดดให้อยู่ข้างหลัง ไอ้ไคกับไอ้ฮุนก็กำลังหลับหูหลับตาเซิ้งประหนึ่งเก็บกดมานานแล้วเพิ่งจะได้ปลดปล่อย



“ม่วนบ่หล้า .. “



ไอ้ฮุนเดินเซิ้งด้วยสองนิ้วกรีดกรายมาทางนี้พลางตะโกนแซวผมที่กำลังร่ายรำสีนวลอยู่อย่างสุขุม อ่อใช่ซี้ .. คนมีคู่อย่างพวกมึงไม่เข้าใจกูหรอก



“ม่วนอีหลีเด้ออ้าย “



ตอบมันไปอย่างงั้น ไม่รู้กูขำตัวเองหรือขำไอ้ฮุนที่กำลังส่ายตูดอยู่อย่างเมามันส์กันแน่ ซอยเท้ากรีดนิ้วร่ายรำตามตูดไอ้ไคไปตามจังหวะอย่างม่วนซื่นสุดชีวิต ถือซะว่าวันนี้มาปลดปล่อยละกัน บุญกุศลไม่ได้เผื่อถึงเพื่อนกูที่นั่งเอาหนังหัวตากแดดอยู่หลังกระบะรถเลย เอาจริงๆวันนี้แค่จะมาแดกฟรีแล้วดีพริตตี้ตอนกลางคืนเฉยๆ กิเลสล้วน อาเมน



“กรู้ววววววววววววววววว .. “





“เอี้ยดดดด!!!!!!!!!! .. “



แต่แล้วความม่วนซื่นที่กำลังปะทุถึงขีดสุดนั้นก็ถูกขึ้นด้วยเสียงล้อเบียดถนนดังลั่นไปทั่วบริเวณ  ผมจีบปรกหน้าค้างพร้อมกับดวงตาที่เบิกกว้าง คลาสนาฏศิลป์นอกสถานที่ถูกสต็อปชั่วคราว  หัวขบวนหยุดกึก ไม่สามารถจะไปต่อได้ เอาจริงๆมึงอ้อมไปก็ได้แหละ แต่แบบกูสตั้นอยู่ไง





“พี่อี้ชิง ? ... “







ผมหันไปตามเสียงเรียกของไอ้ฮุน ก่อนจะหันกลับมามองบุรุษชุดดำบนแมงกะไซที่จอดขวางขบวนอยู่ตรงหน้าอีกครั้ง ใครกันพี่อี้ชิง พี่อี้ชิงคือใคร เค้ามีปัญหาอะไรไหม แล้วเราสามารถช่วยอะไรเค้าได้บ้าง รัฐบาลจะเข้ามาช่วยแก้ไขและรับผิดชอบปัญหาที่เกิดขึ้นนี้อย่างไร ใครเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ซับซ้อนที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้ และผม ปาร์คชานยอล จะเป็นผู้หาคำตอบในปริศนานี้ให้ท่านผู้ชมได้ทราบกัน (ตัดเข้าโฆษณา)




“ใครวะ “ ไอ้ไคหันมาถาม ไม่ได้หันกลับไปมองคู่สนทนา



“พี่อี้ชิง เพื่อนพี่ไอเทา คนที่เคยเช็ครถให้กูตอนแข่งรถเอาเงินให้ไอยอล “ ไอ้ฮุนกระซิบตอบ



“ชิงไหนวะ ชิงช้ารึปะ “ ผมยื่นสะเบ้าหน้าเข้าไปด้วยความอยากรู้



“เค้าจะชิงช้าหรือเร็วแล้วมึงเสือกไรเนี่ย “



“โทษๆ “






“เฉินฉี่ของพี่จะบวชไม่ได้นะ !!!!!!!!!



ทันทีที่ถอดหมวกกันน็อคสีรุ้งลายโปเกม่อนออก ใบหน้าที่ไม่แน่ใจว่าสวยหรือหล่อก็จ้องเขม็งมาทางนี้ นิ้วเรียวภายใต้ถุงมือชี้มายังขบวนพร้อมกับเอ่ยเรียกชื่อเฉินฉี่ดังกึกก้องไปทั่วทั้งถนน(แตรวงหยุดชั่วคราวด้วยความเงิบ) ใครกันเฉินฉี่ ใช่เพื่อนกูไหม แล้วมันไปฉี่ตอนไหน เมื่อกี้กูยังเห็นมันเดินอยู่เลยอะ จะให้เดินไปฉี่ไปท่าก็ไม่น่าจะสวยอะ ผมยืนงง ไม่ได้หันมองคนอื่นๆเพราะคิดว่าพวกมันก็คงงงไม่ต่างจากผม



ตกลงว่าลุงนี่ใคร แล้วเฉินฉี่ ใช่ไอ้เฉินเพื่อนผมหรือไม่..
ปริศนานี้ยากจะคาดเดาเหลือเกิน




“... “



ทั้งขบวนกริบอยู่ประมาณสิบห้านาที ทั้งฝั่งผม และลุงเสื้อดำคนนั้น ไม่มีใครแม้แต่จะพูดหรือไอออกมา จนกระทั่งเสียงซุบซิบเซ็งแซ่ดังขึ้นอีกระลอก หันกลับไปเห็นนาคเฉินที่กำลังเดินหัวโล้นท้าแดดแหวกฝูงชนมาตรงหน้าสุดของขบวน แห่



“ชิงเกอ.. “ ไอ้เฉินครางเรียกด้วยน้ำเสียงสั่นคลอน ก่อนแหวกพวกผมออกแล้วเดินเข้าไปหา สัด เหยียบตีนกูด้วย



“เฉินฉี่ .. “



ลุงเสื้อดำที่ชื่ออี้ชิงขานรับพร้อมกับดำเดินเข้ามาหาด้วยภาพสโลวโมชั่น นึกภาพละครเวทีทวิภพนะครับ พระนางโผเข้าหากันช้าๆ อ้าแขนออกสองข้าง โชว์บนรักแร้ปลิวสไว ลมพัดเอื่อยๆ เส้นผมสยายปลิวไปตามลมนิดๆ ดูเป็นธรรมชาติ แต่สำหรับไอ้เฉินคงไม่มีผมจะให้ปลิวแล้ว ณ ขณะนี้



“ชิงเกอ .. “



“เฉินฉี่ .. “



“ชิงเกอ.. “



“เฉินฉี่ .. “



“ชิง .. “




“โว้ยยยยหยุด!!! มึงจะเรียกกันอีกนานไหม จะอะไรก็อะไร เร็วๆกูร้อน!!!



ไอ้แบคนั่นเองที่เป็นคนยุติละครอุบาทว์นี้ ก่อนที่ผม ปาร์คชานยอลพระเอกผู้มากจินตนาการจะคิดเลยเถิดเกินไปกว่านั้น ก่อนที่ใครสักคนจะคิดเลยเถิด จะคิดให้มันมากกว่านี้ มันคงไม่ดี้ เท่าไหร่.. อะไรอกุศลกูคิดได้ตลอดเวลาแม้กระทั่งตอนกำลังหลับ ลุงเสื้อดำที่ชื่ออี้ชิงกระชากแขนของนาคเฉินเข้าไปหา ก่อนเขย่าแรงๆ จนหัวโล้นๆสั่นด้อกแด้กไปตามแรง



“เฉินฉี่ของพี่จะบวชไม่ได้นะ!! “เขย่ารัว



“เอ่อ พี่ครับ ประโยคนี้พี่พูดไปแล้ว “ ไอ้ฮุนท้วง



“อ่าวหรอ .. งั้นเอาใหม่ เฉินฉี่ของพี่จะทิ้งพี่ไปบวชหรอ “เขย่ารัวขึ้นอีก



“ โอย ให้ตายเถอะแฮรี่ รอน และเฮอร์ไมโอนี่ กูควรจะปูเสื่อนั่งรอก่อนไหม “



ไอ้ไคถอนหายใจก่อนจะพูดออกมาเนือยๆ ในขณะที่พี่อี้ชิงที่ว่านั่นกำลังเขย่าแขนเพื่อนผมอย่างบ้าคลั่ง อะไรกัน นี่จะเป็นพระอยู่แล้วนะ นี่นาคที่ชั้นปลูกเองเลยนะ รุนแรงกับนาคงี้ได้ไง ไม่น่ารักเลยเอาะ มารศาสนาชัดๆ (ได้ข่าวว่ามึงอะคนแรก)



“มันเป็นอะไรกันวะ “



ผมกระซิบถามไอ้เทาที่ตอนนี้เดินลงจากหลังกระบะมาประทับ ณ จุดเกิดเหตุเรียบร้อยแล้ว ไอ้เทาจ้องหน้าผม ไม่ได้พูดอะไรออกมา มันอมยิ้มอย่างมีเลศนัย ก่อนจะยกสองมือขึ้น มือนึงกำไว้หลวมๆ อีกมือชูนิ้วชี้แล้วแหย่เข้าออกรัวๆ ผมพยักหน้าเข้าใจ สั้ด ทุเรศ บอกกูดีๆก็ได้



“พี่ไม่ให้บวชนะ ไม่เอานะ เค้าอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีตัวเอง “



“โถ่ฮยอง แค่ไม่กี่เดือนเอง “



“เฉินฉี่ห้ามนอกใจพี่นะ ต้องมีพี่คนเดียวนะครับ “



“โถ่ฮยอง ผมบวชนะ มีแต่พระ แล้วจะให้ผมไปรักใครที่ไหนล่ะ “



“ไม่รู้ล่ะ ชีก็ห้ามรัก เณรก็ห้ามรัก หมาวัดหรือไก่หรือแมวก็ห้ามรักเด็ดขาดเลยนะ “



=_=



ผมกลอกตาขึ้นด้านบนอย่างเอือมระอา เหนือกูยังมีลุงเสื้อดำ ปัญญาอ่อนกว่านี้จะมีอีกไหม นี่พี่จะบ้าไปแล้วหรือ อะไรคือเณรก็ห้ามรัก ชีก็ห้ามรัก นี่มันมารศาสนาระดับซูเปอร์ไซย่าจริงๆ คิดได้ยังไง นี่วัดนะว่อยไม่ใช่เลิฟแลนด์แดนมหัศจรรย์ บ้าจริง



“ครับ รักชิงเกอคนเดียวครับ “



“น่ารักจริงๆเลย “



=_=!!!!!!!!!!!!!!



ว่าแล้วก็โผเข้ากอดกันอีกครั้ง ทำนองเพลงแต่เราก็หากันจนเจอเปิดดังก้องในสมอง พวกผมสี่ห้าคนที่อยู่หน้าสุดของขบวนพากันถอนหายใจเฮือกใหญ่จนถุงลมปอดอักเสบ พี่อี้ชิงกอดไอ้เฉินไว้แล้วกดหัวโล้นๆนั้นแนบกับอกของตัวเอง ส่งมือบรรจงลูบเกรียนนั้นเบาๆด้วยความรักใคร่อย่างเพลินมือ สัด พอดีอะ จะบวชไม่บวชมึงคงไม่ได้บุญละ วินาทีนี้เต็มไปด้วยราคะและกามาล้วนๆ น่ารักตรงไหน  หัวกระบาลแม่งสว่างกว่าหลอดไฟนีออนบ้านกูอีก




“นาคครับ ตกลงว่า ..นาคเฉินจะบวชไหมครับ นาคเฉินจะบวชมั้ยคร้าบ นาคเฉินจะบอกคุณครู แล้วคุณครูจะบวชมั้ยคร้าบ คุณครูจะบวชมั้ยคร้าบ คุณครูจะบวชมั้ยคร้าบ “



แทบสำลักน้ำลายตัวเองเมื่อเสียงไอ้เทาแทรกขึ้นมาเป็นทำนองเพลงน้องพลับ ตั้งแต่สมัยพระเจ้าเหาที่สิบแปด แต่เสือกเปลี่ยนเนื้อเพลงใหม่ ไอห่า เพลงเค้าเสียหมด



“ นาคเฉินๆ อาตมาว่าโยมอะ รีบขึ้นกระบะแล้วแห่ให้เสร็จเถอะ แฟนกูหิวข้าวใหญ่แล้ว “



ผมยื่นมือไปสะกิดมัน ก่อนที่จะเอ่ยปากโดยไม่ลืมพนมมือพูดด้วยความเคารพนับถือเพราะเห็นไอ้แบคที่ทำหน้าเซ็งกะตายเริ่มจะทรุดตัวลงนั่งแล้วขุดหาอะไรกินแถวนั้นแล้ว เป็นไงล่ะมึง หม่ามี๊สอนมาดี



“มึงจะเรียกตัวเองว่าอาตมาทำไม มึงอะโยม นาคเฉินอะพระ ต้องเรียกตัวเองว่าอาตมา “



“เอ่าเหรอ ก็กูไม่รู้นิ 555555555555555 “



ไอ้แบคหันมาแก้ให้ กำ รู้สึกว่าได้ยินเสียงหน้าตัวเองแตกดังเบ๊ะ ก่อนเศษหน้าจะทำการร่วงกราวโรยตัวสู่พื้นอย่างแช่มช้า ผมก้มหน้าลงต่ำ ทางที่ดีควรสงบปากสงบคำไว้ดีกว่า ก่อนจะเหี้ยไปมากกว่านี้





หลังจากพิธีบวชดำเนินผ่านพ้นไปได้ด้วยดี พี่อี้ชิงที่ทำหน้าที่ถือหมอนก็ไปส่งน้องเฉินฉี่ที่กุฏิก่อนจะแยกย้ายกันออกไป ไอ้เฉินจำพรรษาอยู่ที่วัด ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันจะบวชอยู่ที่นั่นนานแค่ไหน สงสัยมันจะเจ็บช้ำจากการโดนรีไทร์ที่มหาลัย แต่ที่รู้ๆ ผมรู้สึกสงสารวัดนั้นเหลือเกิน




“เตี้ย พรุ่งนี้เปิดเรียนแล้ว ยังขาดเหลืออะไรอีกไหม กูจะได้พาไปซื้อ พรุ่งนี้จะได้ไม่ต้องรีบ “



ผมหันไปถามอิเตี้ยที่นั่งเบาะข้างคนขับในขณะที่เราเพิ่งจะขึ้นรถกันมา เอื้อมมือไปคาดเข็มขัดให้มันก่อนจะเปิดเพลงคลอเบาๆ เหนื่อยมาทั้งวันแล้ววันนี้



“ขาด .. ชุดนักศึกษาว่ะ “ คนตัวเล็กกรอกตาไปมาอย่างน่ารัก ก่อนจะหันกลับมาบอกผม



“ไอสัด ขาดอะไรไม่ขาด มึงไม่มีชุดเนี่ยนะ ทำไมตั้งนานไม่บอก”



ผมดีดเหม่งมันไปหนึ่งทีเพื่อเป็นรางวัลให้กับความซื่อบื้อนั้น (แอบระแวงว่ามันจะถีบไซด์คิกกลับ แต่คงไม่ได้ ในรถมันแคบ) ไอ้แบคทำหน้าหมาบึ้งใส่ผม จากปกติที่เหมือนหมาอยู่แล้ว ตอนนี้กลับยิ่งเหมือนหมามากขึ้นไปอีก



“โอ้ยเจ็บนะ! ก็ลืมอะ “



“มึงนี่จริงๆเลย “



ผมพูดเท่านั้น ไม่กล้าด่าอะไรมันมาก เดี๋ยวตกมันอีกแล้วกูจะซวย ส่ายหัวเบาๆก่อนจะออกรถไปยังห้างสรรพสินค้าแถวๆคอนโด



ผมจอดรถไว้ที่ลานจอดก่อนจะรีบวิ่งมาเปิดประตูรถอีกด้านให้คุณแฟน โดนมันด่าพ่อไปหนึ่งทีเพราะเจ้าตัวบอกว่ามันเปิดเองได้ ไม่ได้เป็นง่อย ผมเดินจูงมือมันเข้าไปข้างใน (อยากจูงจมูกแต่วันนี้ไม่ได้เอาเชือกมา (ล้อเล่น)) พาอิเตี้ยไปแดกข้าวก่อนแล้วกันแล้วค่อยไปซื้อชุดด้วยเหตุผลที่ว่า ถ้าซื้อชุดก่อนไปแดกมันอาจจะใส่ชุดที่ซื้อมาไม่ได้นั่นเอง ผ่าง (เปล่านะกูไม่ได้ว่าแฟนอ้วน )



เราทั้งคู่เดินเข้ามาด้านในสุดของร้านสเต็ก ตามที่เจ้าตัวอยากกิน เราไม่เคยมีปัญหากันเรื่องนี้ครับ ว่าตกลงจะกินอะไรดี เพราะผมตามใจมันตลอดอยู่แล้ว



“มองหน้าทำไม จะแดกอะไรก็สั่ง สั่งเผื่อกูด้วย “



ก้มหน้าก้มตาปลูกผักในโฟนต่อไป อิเฮย์เดย์นี่มันระยำจริงๆ เกมเหี้ยอะไรทำกูติดได้ถึงขนาดนี้ ไอ้แบคเงยหน้าขึ้นจากเมนูแล้วมองหน้าผม ก่อนจะหันไปสั่งอาการกับพนักงานที่ยืนรออยู่ก่อนแล้ว เหี้ย วันๆแดกแต่เนื้อ กูจะขี้ไม่ออกก็เพราะมึงนิแหละ (แต่ไม่กล้าเถียงมัน เพราะไงกูก็แพ้ )




“เดี๋ยวแดกเสร็จแล้วไปซื้อขนมได้ไหม “



หลังจากได้กินแล้วก็หายหงุดหงิด (อินี่เห็นแก่กินจริง) ไอ้แบคพูดในขณะที่กำลังเคี้ยวเนื้อจนแก้มตุ่ย มันเคี้ยวคำใหญ่มากจนพูดไม่ชัด ผมเงยหน้ามอง ปากอิเตี้ยแม่งเลอะเป็นตูด ซอสสีน้ำตาลเปื้อนอยู่รอบๆริมฝีปากแดงฉ่ำนั้น ภาพเนื้อเละๆคลุกเคล้ากับน้ำลายในปากมันทำให้ผมที่กำลังตัดเนื้อในจานตัวเองถึงกับอ้วกตีขึ้นมายันกระบังลม



“เออ “ ผมตอบส่งๆพลางยัดผักเข้าปาก



“ซื้อขนมเสร็จแล้วไปกินไอติมด้วยนะ “



“เออ “



“แล้วเดี๋ยวซื้อป็อปคอร์นไปกินตอนดูหนังคืนนี้ด้วยนะ “



“เออ “ ไม่แปลกใจเลยทำไมมึงอ้วน



“เย่ หูบินน่ารัก “



“หูบินพ่อง “



ทำท่าปัญญาอ่อนไม่พอ เสือกเอาส้อมที่เลอะซอสมาเขี่ยหูกูด้วยนะ ลำบากกูต้องเอาทิชชู่มาเช็ดหูตัวเองอีก สัด มันใช่ของเล่นไหมเนี่ย ผมแย่งส้อมคืนมาจากมือเล็กก่อนจะเอามีดตัวเองตัดเนื้อในจานของมันให้ แล้วลงมือแดกอาหารในจานของตัวเองต่อ



“นี่มึงกินหรือมึงดูด “



เรออัดกลางโต๊ะหลังจากที่จัดการอาหารในจานของตัวเองเสร็จ ในขณะที่คนตรงหน้าแดกเป็นจานที่สองแล้ว สเต็กเนื้อชิ้นควายๆพร้อมกับมันฝรั่งอันตรธานหายไปในพริบตา ไปอยู่นอกแม่งอดอยากอะไรถึงขนาดนั้นเลยหรอวะ บอกกูหน่อยซิว่าไปอยู่ที่นู่นโฮสท์คงไม่ได้ให้มึงขุดหาแย้หาแมลงกินเองหรอกใช่ไหม กูจำได้ว่าก่อนมันจะไปยังไม่แดกเหมือนห่าลงขนาดนี้




ไอ้แบคไม่ได้ตอบอะไร คนตัวเล็กเรอเบาๆอย่างน่ารัก เทียบกับเสียงเรอสะท้านปฐพีของผม(แบบว่าโต๊ะสั่น)แล้วเสียงเรอมันคิขุแอ๊บแบ้วมากๆ แน่กลิ่นนี่ เอ่อะเห่ออิห่า!!!! อย่าบอกใคร เปรี้ยวเหี้ยๆ เหมือนแดกหมาตายที่ศพเน่ามาแล้วสิบแปดวัน บวกกับแมลงวันที่ไปตอมขี้ไดโนเสาร์ที่ไปแดกซากหมามาอีกที เอาเป็นว่ากลิ่นเหี้ย มันจะไม่เหี้ยมากหรอกถ้าผมไม่ได้บังเอิญหายใจเข้าตอนนั้นพอดี กูถึงกับคัดจมูก



“พอเถอะแบค วันหลังไม่ต้องแดกเนื้อแล้วนะ กูว่าเราไปแดกอะไรที่เป็นแนวๆชีวจิตกันบ้างเถอะ กูสงสารระบบนิเวศ เปรี้ยวเหี้ยๆ กูนึกว่าแก๊สน้ำตา “



ผมปาดน้ำตาที่คลอเบ้าออกก่อนจะยกมือปัดๆให้กลิ่นมันหายไป  รีบคว้ากระเป๋าตังแล้วลุกหนีมัน ก่อนที่ปอดของผมจะเน่าไปเสียก่อน เดินไปคิดตังที่เคาท์เตอร์ ก่อนจะเดินออกมา ในใจสวดแผ่เมตตาให้พนักงานที่กำลังเก็บจานอยู่ที่โต๊ะที่พวกผมนั่งอยู่ก่อนหน้านี้ให้มีชีวิตรอดอยู่ต่อไป ขอพระเจ้าสถิตกับท่าน เอเมน



“มึงหยุดกินก่อนได้ไหม “



ผมยืนเท้าเอวบอกมันในขณะที่พี่เจ้าของร้านกำลังวัดเอวและทาบขนาดเสื้อนักศึกษาให้ไอ้แบคอยู่ คนตัวเล็กยังถือถุงขนมจกเอาๆอย่างไม่ลดละ แก้มตุ่ยๆเคี้ยวขนมอยู่ตลอดเวลาจนทำให้พี่คนสวยวัดเอวให้มันได้อย่างยากลำบาก ผมแย่งถุงขนมมาถือไว้แล้วจกแดกเองสักชิ้นสองชิ้น มันอร่อยอะไรขนาดนั้น



“อา.. นูน่าครับ กางเกงเอาไซส์เผื่ออินี่มันอ้วนด้วยนะครับ เอาพอดีแล้วพอดึกๆมันใส่ไม่ได้ “



ผมเหน็บถุงขนมไว้กับรักแร้แล้วชี้ไปที่กางกางสแล็คสีดำที่พี่สาวกำลังพับใส่ถุงอยู่ ก่อนจะจกขนมเข้าปากอีกชิ้น รู้ละทำไมอิเตี้ยมันถึงกินเอาๆ อิแบคมองค้อน ตะปู กรรไกรใส่ผมวงใหญ่ ก่อนมือเล็กๆจะซัดเข้าที่กลางหลังของผมดังบรั้ก ผมหัวเราะก่อนจะเดินหนี ถามว่าเจ็บไหมก็เจ็บ แต่ขำมากกว่า




ซื้อเสร็จก็เดินเหวี่ยงถุงเสื้อผ้าไปยังแผนกของกิน รถเข็นหนึ่งคันใหญ่ๆ ถูกเจ้าตัวเข็นมาตรงหน้า ผมวางถุงเสื้อผ้าใส่รถเข็นแล้วเข็นตามตูดอิแบคที่กำลังเดินร่ายรำสีนวลอยู่ท่ามกลางของกินอย่างมีฟามสุข ตอนนี้ยังแค่อวบ แต่ในอนาคตถ้ามึงยังแดกอยู่อย่างงี้ บางทีผมสามคนมัดรวมกันอาจจะได้เท่าขามันขานึง



ขนมห่อแล้วห่อเล่าถูกโยนลงบนรถเข็นอย่างไม่มีความเกรงอกเกรงใจ ผมที่เดินเข็นรถเข็นอยู่ข้างหลังเริ่มหน้าซีดขึ้นเรื่อยๆ มือไม้ชา แขนขาเริ่มเย็น ต้องเดินไปทางสว่าง ถึงแม้จะแอบเอาบางอย่างออกโดยที่ไม่ให้มันเห็นก็ตาม แต่ผมยังรู้สึกว่ามันก็เอาใส่เข้ามาเรื่อยๆ



“นี่มึงจะเผื่อน้ำท่วมหรอ หรือมึงจะไปติดเกาะที่ไหน“ ผมหยุดเข็นแล้วเอ่ยถามมัน กะราคาดูแล้วกระเป๋าแทบฉีก



“นี่คืออาหารของมวลมนุษยชาตินะ มึงพูดจาแบบนี้ได้ไง “



มันหันมาตอบ ชูบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปห่อใหญ่แล้วปาใส่หน้าผม กูไม่น่าหลวมตัวพามันมาเลย นี่มึงจะอ้วนกว่าเสาหน้าคอนโดกูแล้วนะพูดจริงๆ



“เหนียงมึงจะถึงพื้นแล้วนะแบค =_=



“เหนียงก็เหนียงกู พุงก็พุงกูปะเนี่ย เสือกเลย “



“โถ่ นี่ถ้าไม่รักไม่ต้องมาแคร์ไม่ต้องมาดีกับชั้น ไม่รักไม่ต้องมาหวงไม่ต้องมาห่วงใยชั้น ไม่รักไม่ต้องมาทำอะไรๆทั้งนั้น เพราะใจชั้นยังอ่อนแอเลยนะ “



“เออ รักก็อย่าบ่นดิ “



“คับ T_T



ก็ไม่ไงอะ กูก็ทำได้แค่เข็นรถเข็นตามมันไปอะแหละ นี่กูแอบร้องไห้อยู่ในใจ ค่าเหล้าเดือนนี้ไม่เหลือแน่ๆ ซื้อขนมให้แฟนหมดเลย อิด๊อกกกกกกกกกก ขอให้มึงเป็นเบาหวาน (ล้อเล่น)




กว่าจะขึ้นมาถึงห้องได้ก็ทำเอาหมดแรง ถุงข้าวของมากมายถูกโยนกระจายลงบนโต๊ะ รู้สึกเหนียวไข่และซอกรักแร้มากจนต้องรีบแก้ผ้าอาบน้ำมานอนแผ่บนเตียงด้วยความเหนื่อย ไหนพรุ่งนี้จะต้องรับน้องอีก ไม่ลืมแดกน้ำผึ้งผสมนะมาว เอ้ย มะนาวโด้ปคอหอยไว้เลย หน้าที่พี่ว้ากนี่แม่งเหนื่อยจริงๆนะ ให้คนอื่นทำก็ไม่ได้ สายเถื่อนอย่างเราจึงต้องรับหน้าที่นี้ไปโดยปริยาย



กรึ่มๆจะหลับแหล่ไม่หลับแหล่  จู่ๆก็รู้สึกได้ถึงแรงยวบบนเตียงเบาๆ รู้สึกเหมือนมีอะไรมายุ่มย่ามบนร่างกายแต่ก็ไม่ได้สนใจ ผมเกาพุงพลางข่มตาหลับอย่างรำคาญ



“ขอบคุณสำหรับวันนี้นะ “



จนกระทั่งสัมผัสนุ่มนิ่มบริเวณริมฝีปากนั่นแหละ ผมถึงได้ตื่นเต็มตา แต่กูไม่ลืมตาหรอก ผมอมยิ้มน้อยๆก่อนจะคว้าเอวของคนตัวเล็กเข้ามากอดแน่น อิแบคดิ้นขลุกขลักอยู่ในอ้อมแขน ทำเสียงฮึดฮัดไม่พอใจ แต่ใครสนล่ะวะ มึงพลาดเองนะ  



“สัดชานยอล ปล่อยกู !!! หายใจไม่ออก !!



“คร่อก .. “




แกล้งทำเสียงกรนดังๆให้มันรู้ว่าหลับแล้ว ไอ้แบคดิ้นได้อีกไม่นานก็ยอมแพ้ แต่ก็ยังมีเสียงสบถด่าพ่อผมคลออยู่เบาๆ แต่กูไม่สนละไอสัด หลับละเหนื่อย ฟันดีนะจ๊ะbye






“ครืด “



เสียงรูดผ้าม่านดังครืดปลุกผมให้ตื่นจากฝันกามๆอย่างช้าๆ ผมพลิกตัวหนีแสงสว่างนั้น ก่อนจะเอาหมอนปิดหัวตัวเองไว้ หลับตาควานมือสะเปะสะปะหาเจี๊ยบแต่ก็ไม่เจอ ไม่เป็นไร กูไม่กอดก็ได้ แต่ตอนนี้กูง่วงมากๆจนไม่สามารถจะกระพือเปลือกตาให้เปิดขึ้นได้จริงๆ



wake up!!!!!!



เสียงเล็กๆแต่ดังปลุกผม แต่กูไม่สนใจเสียงนั้นเลยแม้แต่น้อย แม้แต่เจี๊ยบกูยังไม่สนเลยคิดดู แล้วมึงเป็นใครจะมาปลุกกู



wake up!!!!!!!!!!



อิแบคตะโกนอีกครั้งพร้อมกับเสียงแปดหลอดที่ดังสะท้อนก้องไปทั่วทั้งห้อง ก่อนร่างอ้วนๆจะโดดโถมตัวลงมาใส่ผมที่กำลังนอนอืดอยู่อย่างเต็มที่  ตูดบานๆทิ้งตัวลงบนหน้าท้องของผมเต็มที่จนได้ยินเสียงลิ้นปี่ตัวเองปลิ้นดังอั้ก จุกร้าวไปถึงราวนม



“ตื่นเร็วหู วันนี้ปฐมนิเทศ “



“งืม.. มึงปฐมคนเดียว กูไม่ได้ปฐมด้วยนี่ “



ผมครางตอบมัน ยังคงไม่ลืมตา เพราะถ้าลืมตาแล้วกูต้องตื่นแน่ๆ แม่เจ้า นี่มันเพิ่งจะกี่โมงเอง มึงจะตื่นไปปลุกพระบิณฑบาตรึไงเนี่ย



“แต่มึงก็มีเรียนอะ ลุกเดี๋ยวนี้ “



“อั้ก .. “



อิแบคพูดด้วยน้ำเสียงยานคางก่อนจะออกแรงขย่มพุงผมด้วยตูดใหญ่ๆของมัน เบาหน่อยเบาๆ กูจุกจนจะอ้วกออกมาเป็นเซเลอร์มูนละนะเนี่ย



“ชานยอลลลลลลลลลลลล ลุก “



“เออ “ ผมเออตอบมันไปก่อนจะหลับต่อ กูยังไม่อยากลุกอะ กูง่วง ใครจะทำม้าย เอาตูดมึงออกไปจากสะดือกูเดี๋ยวนี้



“มึงไม่ลุกใช่ไหม ได้ “



มันพูดทิ้งท้ายไว้แค่นั้น ก่อนจะยกตูดมันออกไปจากร่างของผม คนตัวเล็กเดินสะบัดตูดออกไปจากห้องนอน ผมเกาพุงตัวเองก่อนจะตะแคงตัวนอนหันข้าง หลับๆไปสักพักก็นึกขึ้นได้ ผมเบิกตากว้าง กูรู้แล้วว่ามันจะไปไหน จะเอาน้ำแข็งมาสาดกูอีกละสิ เฮอะ ไม่ได้แดกกูหร่อก!



“ไหนๆก็เอาน้ำแข็งมาละก็เอาเหล้าโซดาในตู้เย็นมาให้ด้วยนะแฟนนะ “



ตะโกนบอกอิแบคที่ยืนทำอะไรกุกกักๆอยู่ในห้องครัว สงสัยกำลังจกน้ำแข็งใส่กระติกอยู่ โถ่ พี่รู้ทันหมดแล้วน้อง เลิกใช้ไม้เดิมเถอะจริง มันไม่เกร๋ ว่าแล้วก็คลานไปหยิบร่มที่หลังตู้เสื้อผ้ามาถือไว้แล้วนอนต่อ



“ไม่ตื่นใช่ไหม.. “



“ซ่า!!



น้ำพร้อมน้ำแข็งในกระติกนี่มาเต็ม พร้อมกับจังหวะที่ผมกางร่มบังไว้พอดิบพอดี ไงละมึง กูเทพ



“มึงเป็นบ้าอะไรเนี่ย =_=



“มึงอะเป็นบ้าอะไร เตียงกูเปียกหมดแล้ว “



ผมลุกพรวดทันทีที่สัมผัสได้ถึงความเย็นของมวลน้ำและก้อนน้ำแข็งบริเวณไข่ ลืมไปว่ากูนอนอยู่บนเตียง ถึงจะมีร่มบังอยู่แต่ยังไงเตียงมันก็เปียกอยู่ดี ควายจริงๆ



“ลุกไปอาบน้ำเลยเร็วๆ กูสายแล้วนะ “



“ไม่เป็นไรกูสายเป็นเพื่อนนี่ไง มานอนเร็ว นอนกอดกันนะ “



ไอ้แบคยืนเท้าเอวด่าแว้ดๆๆๆใส่ผมอยู่ไม่ห่าง แต่ก็ใช่ว่ากูจะสนใจ ผมเอื้อมมือไปดึงแขนมันให้เขยิบเข้ามาก่อนจะรวบเอว(ที่ไม่ค่อยจะ)คอด(แล้ว)เข้ามากอดไว้อย่างแรงจนคนตัวเล็กเซลงมานอนทับอก



“โว้ยยย ปล่อย “ กำปั้นเล็กทุบไหล่ผมรัวๆ ผมจึงหลบด้วยการเอาหน้ามุดนมมัน



“นอนกอดกันนะๆๆๆๆๆๆๆๆๆ “



“กูบอกให้ไปอาบน้ำเดี๋ยวนี้”



“ไม่อาบ อาบให้น้องหน่อยนะๆๆๆๆ “ ผมตอบพลางบีบเสียงเล็กให้เหมือนเด็ก เอาหน้าถูนมมันรัวๆ



“ไม่อาบโว้ย “



“น้าๆๆๆ นะคร้าบ อาบน้ำแล้วก็ถูน้องหนูให้ผมด้วยน้า “ ผมพูดเสียงอู้อี้ กอดเอวเล็กไว้แน่นแล้วซุกหน้าลงกับแผ่นอกบาง ก่อนจะยื่นริมฝีปากเข้าไปกัดยอดอกเล็กภายใต้เสื้อเชิ้ตสีขาวตัวบางเบาๆด้วยความมันเขี้ยว



“นะ ..น้องหนูเหี้ยไร สัด ปล่อยกูนะ !



“พี่แบคถูจู่จู๋ให้น้องยอลหน่อยน้า “



“ไม่โว้ย ปล่อยกู!!!!!!!! แง “



“ถ้าพี่แบคไม่อาบน้ำให้น้องยอลน้องยอลจากัดนมให้ขาดเยยนะ “



ว่าไม่ว่าเปล่า ผมอมยิ้มน้อยๆอย่างผู้ที่เหนือกว่า ก่อนจะบรรจงจรดริมฝีปากลงบนยอดอกเล็ก แลบลิ้นออกมาแตะและไล้เลียมันเบาๆจนเนื้อผ้าสีขาวบางเบาบริเวณนั้นเปียกชุ่ม ถึงน้ำเสียงกูอนุบาลแต่สันดานกูโจรใต้มากๆ นี่ถ้าไม่ติดว่ามีเรียนกูจะขย่มมันบัดเดี๋ยวนี้!!!



“... “ ไอ้แบคเงียบ นอนเกร็งเขม็งไม่ขยับใดๆ ตัวมันสั่นจนผมรู้สึกได้



“ว่าไง จะอาบให้ไหม “



กลับมาพูดเสียงปกติ รู้สึกว่าอิเสียงเด็กนี่มันจะลำบากคอหอยกูเอามากๆ เพราะเสียงกูก็ไม่ใช่ว่าจะแบ้วอะไรนักหนา นี่ถ้ามาแต่เสียงไม่เจอหน้านี่ รู้เรื่องเลยนะ เหมือนควายตัวผู้เจ็บคอกำลังคลอดลูกที่ผ่านสงครามโลกมาแล้วสองครั้ง อุมาก



“อะ .. เออ “



ผมละใบหน้าออกจากแผ่นอกบางแล้วเงยหน้ามองไอ้แบค ใบหน้าน่ารักนั่นกำลังแดงจัด แบบนี้มันน่าจัดสักดอกเอาให้ลุกไม่ขึ้นเสียจริงๆ



มองตามอีกคนที่บัดนี้ลุกนำออกไปที่ห้องน้ำเรียบร้อยแล้ว ผมหัวเราะสะใจก่อนจะถอดเสื้อผ้าแล้วเดินตามมันไป แน่นอน กูไม่ได้ใส่เสื้อผ้าเลยสักชิ้น ไม่ต้องคิดว่าจะเหลือเกงในไว้หรือไรไม่ต๊องงงง ของอย่างงี้มันเคยๆกันอยู่ แต่ก็นานมากและ ตั้งแต่กูหกขวบ แต่ตอนนี้มันโตละแหละ เดินผ่านกระจกทีต้องร้องอู้ว นี่มันช้างรึมังกร



“เชี่ยย มะ .. มึงใส่กางเกงหน่อยได้ไหม “



“อะไรน้อง อาบน้ำใครเค้าใส่เสื้อผ้ากัน บ้ารึปะ “



“ทุเรศสัด “ ไอ้แบคหันหน้าหนีผมก่อนจะหันไปจัดการกับฝักบัว เจ้าของริมฝีปากเล็กบ่นเหี้ยไรไม่รู้งุ้งงิ้งๆอยู่ในลำคอ



“อะไร กูได้ยินนะ เขินงวงพี่ล่ะสิ “



ผมพูดแซวมัน บีบยาสีฟันใส่แปรง ยัดเข้าปากแล้วกระซวกเข้าออกรัวๆ นี่แหละคือเคล็ดลับของเศรษฐีฟัน(ไม่ใช่ฟันแบบน้านอย่าเข้าใจผิด) อยากฟันสวยเหมือนผมก็ลองแปรงแบบนี้ดูนะครับ เอาให้ถึงลิ้นไก่ จะได้สะอาดหมดจดทั่วทั้งปาก หอมจริงๆ ห้า .พ่นลม



“เชี่ยแม่งไม่อายบ้างรึไงวะ “



ไอ้แบคบ่นงึมงำในลำคอ สงสัยนึกว่ากูไม่ได้ยินมั้ง มันลากผมเข้าไปใต้ฝักบัวที่กำลังเปิดน้ำอยู่ กูแอ่นหลังซ้อมรับน้ำเย็นเลย แต่พอดีมันไม่เย็น ก็อุ่นกำลังดี จนกระทั่งตัวผมเปียกชุ่มไปด้วยน้ำ(จากฝักบัวนะ)  มือเล็กจึงเอื้อมไปปิดมัน ก่อนจะหันไปหยิบสบู่ก้อนควายๆมาก้อนนึงแล้วถูเบาๆจนเกิดฟอง บรรจงป้ายฟองนุ่มๆนั้นลงบนแผ่นหลังของผม ไม่มีฟามโรแมนติกเอาซะเลยอะ ปกติในฟิคมันต้องใช้สบู่เหลวสิ! บ้าจริง



“อายทำไม แฟนกัน “



“ก็แฟนกันนี่แหละที่ควรจะอาย “



“อายทำไมอะ ก็ใหญ่อะ “



ผมหันไปพูดกะมัน ยักไหล่ยักคอให้พอเปรี้ยวตีน นี่จะถูคอกูถึงไหมเนี่ย แขนก็สั้นเหลือเกิ้นน แล้วถูสบู่ให้กูเสือกไม่มองกู ไปมองชักโครก อยากจะรู้นักว่าโถส้วมมันดีกว่ากูตรงไหน หน้าตาดีกว่าหรอ ก็ไม่ กลิ่นกูหอมกว่ามันตั้งเยอะนะ



“มึงแม่งทุเรศจริงๆอะ กูคบกะคนอย่างมึงไปได้ยังไง “



“คนอย่างกูมันทำไมหลอ “



“คนอย่างมึงมัน .. “



“แน่ะ พูดดีๆน้า “



ผมพูดดักคอ ก่อนจะยื่นแขนเปียกๆไปรวบเอวอีกคนเข้ามาจนชิด ทำให้ลูกหมาตัวน้อยต้องเปียกไปด้วย ไอ้แบคยืนตัวเกร็งแข็งทื่ออยู่ภายในอ้อมกอด ผมก้มลงไปจ้องหน้าว่ามันจะพูดอะไรต่อ แต่กลับไม่มีคำพูดใดๆออกมาจากริมฝีปากสวย เสื้อเชิ้ตสีขาวเปียกลู่แนบไปกับลำตัวดูเซ็กซี่เร้าอารมณ์เป็นที่สุด เดี๋ยวกูว่า เช้านี้คงได้มีการสบู่หล่นกันเกิดขึ้นอย่างแน่นอน






มันอ่อยกู๊ !!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!





“ ยะ .. อย่านะโว้ย “



“หึ “






 _________________________

100แล้วจ้า เน็ตทรูยังคงความสับปะรังเค เข้มข้น
ติดตามตอนหน้า(ในชาติหน้า)นะครับ ตอนที่ทุกคนลอยคอ เอ้ย รอคอย
ใครที่รู้ก็เงียบไว้เนอะ ใครไม่รู้ก็ปล่อยแม่งฟายต่อไป (เค้าล้อเล่น)
เด็กๆของกูสอบเสร็จกันทุกคนรึยัง ใครที่พึ่งจะสอบกลางภาค
ตั้งใจสอบนะครับ เพื่อนพร้อม โพยพร้อม เราทำได้ (แดกไวตามิลค์)
ล้อเล่น ตอนสอบนี่ ไม่มีใครช่วยเราได้นอกจากตัวเราเองนะรู้ไหม
พวกมึงต้องตั้งใจให้มากๆนะ ขอแค่ทำเลดี เพื่อนดี ไงก็รอด
55555555555555555555555555555555
ตกลงคือ เอาไงก็ได้แหละให้มึงรอดอะ เพราะเกรดมันสำคัญ
กำทำไมกูสอนเด็กๆไม่ดีเลย อย่าเอาเป็นแบบอย่างนะ
กูอยู่มอหกแล้ว อนาคตรุ่งริ่งมากๆ ไม่อยากให้เด็กๆเป็นแบบพี่นะครับ
แน่ะ กูบ่นคนเดียวอีกละ ชักจะเหมือนคนบ้าไปทุกวัน

ก็ไม่มีไรละ สุดท้าย ฝากฟิคเรื่องนี้ด้วยนะ แต่อันนี้คริสยอล
[FIC EXO] KRISYEOL☞ WHITE ROULETTE งี้มั้ง
http://my.dek-d.com/dek-d/writer/view.php?id=1075406
ก็จังไรพอกัน สาระไม่มี หน้าตาดีไปวันๆ
ไปและ รักนะครับเด็กๆ เด้ารัว






14 ความคิดเห็น:

  1. อิลเห้เพ่บุ๋ล ชอบบบบบบบบบบ T^T มาต่อไวๆๆๆๆ กูล่ะชอบละเกิน "โหยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย หี้ โหยยยยยยยยยยยยยหี้ โหยหี้โหยหี้โหยหี้โหยๆๆๆๆๆ.." หี้ หี้ หี้ หี้ หี้ เนี่ย...

    ตอบลบ
  2. ไม่ระบุชื่อ20 ธันวาคม 2556 เวลา 11:01

    ฮาชานยอลลลลมากอ่า มาต่อเร็วๆนะคะ อิอิ

    ตอบลบ
  3. อิเหี้ยยยยย อย่างฮา อ่านไปหัวเราะไปจนแสดดี่มล้ะสัสสสส 5555

    ตอบลบ
  4. ว่าแล้วอิเฉินมันต้องบวช55555+

    ตอบลบ
  5. คิดถึงเรื่องนี้มาก ตลกสุด มุกมาเต็มเลย

    ตอบลบ
  6. อิเหี๊ยยยยยยยย แม่งฮาสราดดดดดดดอ่ะ กรุว่าแล้ววววว ว่ามหาเฉินแม่งต้องบวช!! สุดท้ายแม่งก็บวชจริงๆ ว่าแต่อี้เป็นใครว่ะ (กรุก็ถามแปลก) นางทำไมมาหยุดขบวนนี้ได้ รีบๆมาต่อด่วนพี่ รออ่าน ฮ่าๆๆๆ

    ตอบลบ
  7. ชอบๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ สุชาติ ฮ่าๆ

    ตอบลบ
  8. อีเหี้ยเลย์เฉินป้ะ สาดดด อีปาร์คแม่งแดกไข่ลวกมากไปนะ
    คืออยากให้พี่ปาร์คคนจังไรงดแดกไข่สักสองเดือน
    เพ่บุ๋ลมาต่อไวๆนะคร๊

    ตอบลบ
  9. ไม่มีใครฮาเท่าพี่ปาร์คของเราอีกแล้วกร้ากกกกกกกกกก
    รอนะคะไรท์รีบมาต่อนะ <3

    ตอบลบ
  10. รู้จะว่าไงดีนี้ขำตั้งแต่ตัวอักษรแรกยันคำว่าพี้อี้ชิงจุดจุดจุด ถ้ากรามค้างนี้ส่งบิลค่าหมอไปหาไรท์ที่บ้านอะจริมๆ เหย้

    ตอบลบ
  11. พี่บุ๋นตอนหน้าขอ NC555555555555555555555555555555555555555555555555555555

    ตอบลบ
  12. ตอนหน้าNCเลยเพ่ . 5555555555555555555555555555

    ตอบลบ
  13. กรีสวววววสสสสส เพร่บุ๋นบี้ขอเอ็นซีรัวๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
    ใจน้องเปลี่ยวอยากได้อยากโดนมากบอกตรงๆๆๆ กรีส

    ตอบลบ
  14. ฮิ้วๆๆๆๆ เค้าหวานกันล่ะคุณ~~~~ฟินลื๊มกันเลยทีเดียวววว

    ตอบลบ