วันศุกร์ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ผู้ชายจังไร ขอแต้บไข่เพื่อเธอ : chapter 10








Baekhyun part
 
หลังจากที่ผมนอนคิดมากมาตลอดคืนจนเผลอหลับไป ผมลุกขึ้นจากเตียงช้าๆ ปวดหัวเหมือนมีหมาสองสามตัววิ่งอยู่ในหัวจนมึนตึ้บไปหมด เอื้อมหยิบโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่บนหัวเตียงดูก็พบว่ายังเช้าอยู่ แต่ผมไม่มีอารมณ์จะนอนต่อแล้ว ฮือออออออ ผมคิดมากทั้งคืนเลย เมื่อคืนไอหยอยมันพูดอะไรของมันก็ไม่รู้ มันทำให้ผมรู้สึกไม่เป็นตัวเองเอาซะเลย ผมทำตัวไม่ถูก
 
เดินลากขาสั้นๆของตัวเองไปที่ห้องน้ำที่อยู่ไม่ไกลนัก รู้สึกเพลียจนอยากจะหลับอีกรอบแต่ก็เกรงใจ เกิดไอ้ยอลมันพูดอะไรบ้าๆออกมาอีกคำผมคงสติแตกแน่
 
!!!!!! “
 
“อ้าว ไง “
 
เปิดประตูผลั้วะเข้าไปก็เจอร่างสูงโปร่งของเพื่อนสนิทยืนหันข้างฉี่ใส่ชักโครก ใบหน้ากวนโอ้ยของมันหันมายิ้มกว้างเซย์ไฮและโบกมือให้ในขณะที่มืออีกข้างกำลังประคอง เอ่อ .. นั่นแหละ ถ้าเป็นวันธรรมดาปกติผมคงไปยืนแปรงฟันอยู่กะมันในห้องน้ำแล้ว แต่ครั้งนี้ใจผมอยู่ไม่ไหว ผมรีบปิดประตูแล้ววิ่งออกมาจากตรงนั้นทันที
 
“เหี้ย แงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง T_T “
 
ครางยาวออกมาประหนึ่งอังศุมาลินที่กำลังจะสูญเสียคุณชายพุฒิภัทรไป รู้สึกอึดอัดเหมือนตัวจะแตกลงใส่ทุ่งข้าวสาลีแล้วบู้ม เกิดเป็นโกโกครั้นช์ ยิ่งมันทำเหมือนโลกเป็นสีรุ้งแล้วผมยิ่งรู้สึกแย่เข้าไปใหญ่ ผมทิ้งตัวลงบนเตียงแล้วคว่ำหน้าอยู่กับอิเจี๊ยบ สองแขนกอดมันไว้แน่นแล้วซุกหน้าอยู่อย่างนั้น รู้สึกว่าใบหน้าของผมร้อนจัดจนแทบจะเอาปลาสลิดมาทอดบนหน้าได้ อร่อยเลยไอสัดแง
 
“เอ่าไอสัด ฟัดกะเมียกูอยู่นั่นอะ ผัวมาแล้วชู้หลบไป! “
 
และในขณะที่ผมกำลังกอดรัดฟัดเหวี่ยงอิเจี๊ยบ ทั้งทุบตีจิกตบทึ้งดึงกระทืบจูบไซร้ไล้ลูบ(เพราะนึกว่าเป็นชานยอล)อยู่นั้นเอง หมอนข้างใบใหญ่รูปร่างเอ็กซ์ผิดธรรมชาติก็โดนกระชากออกไปจากอ้อมแขน ผมเงยหน้าขึ้นมอง ชานยอลกำลังกอดอิเจี๊ยบไว้แนบอกแล้วมองผมด้วยสายตาแปลกประหลาด ผมก้มหลบ ยังคงทำตัวไม่ถูก ยิ่งเห็นมันนุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียวแล้วยิ่งทำให้ผมรู้สึกร้อนหน้าเข้าไปใหญ่ ชานยอลเหลือกตาใส่ผมแล้วกอดอิเจี๊ยบไว้แน่นทั้งๆที่ตัวมันก็เปียก อิเจี๊ยบก็เลยเปียกไปด้วย
 
“เอ้า ยังมานอนเป็นแรดเกยตื้นอยู่นั่นอะ ไปอาบน้ำ เร็วๆ ไปซ้อมดนตรีที่โรงเรียนเป็นเพื่อนกูเลย “
 
มันว่า หนีบอิเจี๊ยบไว้ใต้รักแร้ก่อนจะทำท่าจะเดินเข้ามาอุ้มผม ทันทีที่หัวเข่าของชานยอลสัมผัสกับฟูกเตียง ผมรีบลุกขึ้นทันที ผมไม่พร้อมจะเข้าใกล้มันจริงๆ T_T
 
“เร็วๆเลยแฟน หิวข้าว “
 
“ใครแฟนมึงไอสัด!
 
ผมสวนกลับไปทันควัน ใจกระตุกวูบจนแทบจะหล่นไปกองอยู่ที่ตีน ในขณะที่ชานยอลทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นและกำลังจะหันหลังเดินไปที่ตู้เสื้อผ้า มันหันกลับมา ก่อนที่หมอนข้างอิเจี๊ยบในมือมันจะถูกยกขึ้นมาชี้หน้าผม ผมถอยผงะ
 
“อะไรมึง กูพูดกับเจี๊ยบมั้ง เนอะที่รัก ม้วฟ มั้วะ! “
 
ผมนึ่ง(นิ่ง+อึ้ง)ไปแปดวิ เก็บเศษหน้าตัวเองแทบไม่ทัน ผมได้แต่ยืนนิ่งๆมองคนตรงหน้าที่ตอนนี้ดึงอิเจี๊ยบกลับไปกอดรัดฟัดเหวี่ยงอย่างรักใคร่ต่อหน้าผมแล้วโชว์จูบอีกสองสามชุดตบท้าย ผมรีบก้มหน้าแล้วเดินหนีเข้าไปในห้องน้ำ

 
ประตูห้องน้ำปิดลง ผมแยกเขี้ยวใส่ตัวเองในกระจก


 
ไอ้สัดชานยอล ไอเหี้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย ไอบ้าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
อ้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

 

ไม่รู้นะ แต่ตอนนี้ผมเริ่มรู้สึกไม่ชอบอิเจี๊ยบตงิดๆละ อ้ากกกกกกกกกกกกกกก
ไอ้บ้าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

T_T


 
ออกมาก็พบว่าอิตัวหูบานสะท้านปฐพีกำลังนอนกกอิเจี๊ยบอยู่บนเตียง ตัวแม่งควายมากจนกินพื้นที่ทั้งเตียงไว้หมดเลย ท่านอนตะแคงตูด พร้อมกับมือหนาที่ถือรีโมทเกร๋ๆเปลี่ยนช่องไปมานั้นทำให้ผมรู้สึกหมั่นไส้ อยากจะตบให้กรดไหลย้อนเหลือเกิน
 
“ก้ากกกกกกกกกกกกก “
 
เบะปากใส่แม่งด้วยความหมั่นไส้ ขำไรนักไอสัดกะอิแค่ดูรายการทีวีนี่ขำอย่างกะญาติเสีย ผมเหล่มองชานยอลที่นอนคุยกับอิเจี๊ยบไปดูทีวีไป ก่อนจะเดินไปที่ตู้เสื้อผ้า เปิดประตูตู้ออกมาก็พบว่าเสื้อผ้าของผม ซึ่งกินพื้นที่ในตู้ฝั่งซ้ายไม่มีเหลืออยู่เลยสักตัว
 
หันไปตรงมุมห้องก็ถึงบางอ้อ ตะกร้าผ้าใบเท่าควายบรรจุเสื้อผ้าที่ยังไม่ได้ซักเต็มจนล้นออกมา ถุงเท้าที่ถอดกลับด้านและกางเกงในที่ม้วนเป็นเลขแปดวางกองๆอยู่ที่พื้นใกล้ๆ
 
“เชี่ยยอล กูบอกให้ซักผ้าไงสาด กูไม่มีเสื้อใส่ละเนี่ย “
 
ด้วยความที่ไม่ใช่บ้านตัวเอง เสื้อผ้าที่ผมขนมาเลยไม่ได้เยอะเท่าไหร่นัก ผมเดินไปยืนหน้าทีวีแล้วพูดกะมัน แต่เหมือนอิหูกางขาโก่งนี่จะไม่ได้สนใจผมสักนิด ใบหน้าคมชะเง้อหนีนิดหน่อย ตายังคงจับจ้องอยู่ที่จอทีวี ผมเดินไปยืนบังอีก แต่แม่งเสือกเอามือข้างที่ถือรีโมทมาโบกไล่ผมซะงั้น !!!!!!!!!
 
“มึงหลบดิ =_= อ้วนขึ้นปะเนี่ย บังทีวีมิดเลย “
 
!!!!!!!!!!!!!!!!! “



ประโยคที่มันตอบกลับมาทำให้ผมต้องก้มมองหุ่นตัวเองในทันที ผมอ้วนหรอ ไอสัดผมไม่ได้อ้วน ไอเหี้ยผมไม่ได้อ้วนอะ T_T หุ่นยังเฟิร์มสาวยังกริ้ดอยู่นะ มึงพูดงี้กะเพื่อนมึงได้ไงไอ้เลวๆๆๆๆๆๆแง
 
“กูบอกให้มึงซักผ้าตั้งแต่วันไหนละ ?“ ผมถามย้ำ จำได้ว่าผมย้ำเรื่องนี้กะแม่งหลายรอบมาก
 
“วันพุธ “
 
มันตอบ ยังคงจ้องที่จอทีวี ผมกอดอกจ้องหน้ามัน
 
“.... “
 
“เอ้าละมึงจะมายืนแก้ผ้าบังทีวีกูทำมะเขืออะไรวะเนี่ย ยั่วกูหรือไง นมก็ไม่มี “
 
!!!!!!! “

 
อ้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
 

อิเหี้ยแม่งกวนประสาทได้อีก รู้สึกว่าฮับคิโดที่เรียนมานั้นไม่ศูนย์เปล่าแล้ว ผมว่ามันใกล้จะได้ใช้ละ อีกไม่กี่นาทีข้างหน้านี้แหละไอสัด ตีนพี่แบคนี่คงจะได้ฤกษ์สะบัดใส่หูน้องยอลเป็นคนแรก ถ้าผมเป็นชะนีคงกริ้ดไปแล้วสามล้านยี่สิบห้าเดซิเบลแบบสี่ชุดรวดแถมด้วยสเตอริโอพาโนราม่าเวอร์ชั่นออดิโอ้ซาวด์ แต่ผมเป็นผู้ชายทั้งแท่งไง สิ่งที่ผมพอจะทำได้ก็คือยืนถลึงตาใส่มันด้วยความคาดไม่ถึงว่าหมาในปากมันจะอัพสกิลเพิ่มขึ้นขนาดนี้
 
“... “ ผมเงียบ พูดอะไรไม่ออก เหมือนมีก้อนอะไรสักอย่างจุกอยู่ที่คอ ไฝว้กับมันไม่ทันจริงๆ
 
“อืมแต่หัวนมน้องแบคก็ใช้ได้อยู่อะชมพูดีจ้า พี่ยอลชอบๆ “
 
!!!!!!!!!!!!! “
 
สิ่งที่ผมอยากจะทำมากที่สุดตอนนี้คือเอาตีนไปลูบหน้ามันแล้วยัดนิ้วหัวแม่โป้งตีนเข้าไปในปากหมาๆของคนตรงหน้า แต่จิตใต้สำนึกกลับสะกดให้ผมได้แต่ยืนอึ้งอยู่เฉยๆ สองมือยกขึ้นปิดหน้าอกที่เปลือยเปล่าของตัวเองโดยอัติโนมัติ ความรู้สึกที่เหมือนแมนยูแพ้ลิเวอร์พูลกลับมาเล่นงานผมอีกครั้ง ผมแพ้แล้ว กูแพ้ สาดดดดดดด (คำว่าแพ้ตัวใหญ่ๆพุ่งใส่หน้า)
 
เอาหัวนมมึงออกไปจากจอทีวีกูได้ละ ไปแต่งตัว เร็วๆ กูรีบนะ “
 
คำพูดทุเรศๆถูกพ่นออกจากริมฝีปากของอิหูบาน ชานยอลหันมามองผมแว้บหนึ่งก่อนที่มันจะหันกลับไปสนใจทีวีต่อ ผมที่ทำอะไรไม่ได้ก็ได้แต่ทำท่าฮึดฮัดเดินกลับไปที่ตู้เสื้อผ้าอีกครั้ง หยิบเสื้อของชานยอลตัวที่ผมพอจะใส่ได้มาใส่แก้ขัดไปก่อน ตอนนี้กูจะยอมไปก่อนละกัน แต่ในใจกูด่าไปยันโคตรเหง้าศักราชมึงละเรียบร้อย



สงสัยผมต้องอัพเกรดตัวเองซะแล้ว ก่อนที่จะแพ้อิสิ่งมีชีวิตหูกระพือที่นอนเกาตูดอยู่ตรงหน้าทีวีนั้น
 
แม่ .. แบคจะสู้ แบคจะไม่แพ้ แม่เชื่อแบคนะ !

 





Chanyeol part
 
ในที่สุด แม่นางหงส์หยกก็แต่งตัวเสร็จซักทีหลังจากลีลามานานสิบแปดชั่วโคตร ผมขึ้นคร่อมจักรยานคิตตี้ขันสีชมพูโนเนะกรุบกริบคันเดิม รออิเตี้ยล็อคประตูบ้าน ก่อนที่มันจะเดินขึ้นมาคร่อมซ้อนท้ายทำหน้าที่สก๊อยที่ดี วันนี้พี่แว๊นซ์ครับ เนื่องจากกูรีบ


ขี่เลยซอยบ้านไปได้หน่อยเดียว อยู่ๆตาคมประดุจเหยี่ยวของผม(ให้มันอวดไปเหอะปล่อยมัน)ก็ไปสะดุดกับอะไรเข้า รู้สึกได้ถึงรังสีบางอย่างที่ครอบคลุมทั่วพื้นที่3Gประเทศไทย ล้อเล่น รู้สึกเหมือนมีเงาดำอำมหิตทาบทับลงมาทั้งๆที่แดดร้อนเปรี้ยง ผมหักเลี้ยว เสียงเบรกดังเอี้ยดลั่นท้องถนน
 
ล้อเล่นอีกแงะ มึงบ้าไง้ จักรยานจะเบรกดังขนาดนั้นได้ไง กูบอกแล้วอย่าดูการ์ตูนมาก
 

นี้เมื่อกี้พูดถึงสามจีใช่ไหม ขอกูบ่นหน่อยเหอะไอสัด แม่งสับปะรังเคมาก ไม่รู้นะที่ใช้อยู่ทุกวันนี้สามจีหรืออะไร แต่แม่งช้าสัดละชอบไม่ขึ้นเว้ยไม่รู้เป็นอะไร แล้วแบบ ค่าบริการก็แพงใช่ปะ คือต่างประเทศเขายังไม่เก็บแพงเท่านี้ แถมเร็วด้วยนะมึง ปรวดปร๊าดโหลดบิทโหลดโป๊ไรนี่ ไม่ถึงนาที แล้วมีการมาประมูลสามจงสามจี คือไม่รู้จะประมูลไปทำมะเขือมะพร้าวมะนาวลำไยปลาบึกปลาไหลปลาเค็มไข่ไก่อะไรเหมือนกันนะครับ เพราะทุกค่ายแม่งก็เหี้ยพอกัน แล้วจะมี4จี คือมึงควรเอาสามจีให้รอดก่อนอะก่อนจะไปทำไรอย่างอื่น อันนี้ไม่อยากจะบ่น แต่ร่ายเป็นพารากราฟละ
 
อืมบ่นจบละ เข้าเรื่องดีกว่าโน้ะ ผมเบรกจักรยานใช่ปะเมื่อกี้ จำได้ แฮนด์จักรยานยังคามือกูอยู่เลยไอเหี้ย 55555555555555555555555555555555555555555555555555555
 
ผมตวัดตาไปมองอิก้อนดำๆที่นั่งอยู่ตรงโต๊ะแรกสุดหน้าร้าน รังสีเข้มข้นประหนึ่งราหูอมจันทร์ที่แผ่ออกมาทำให้ผมรู้ว่าไม่ผิดตัวแน่ ผมจอดจักรยานไว้ที่ข้างร้านก่อนจะเดินนำอิเตี้ยไปที่โต๊ะแรก ลากเก้าอี้พลาสติกมานั่งเสียงดังครืด ตะโกนสั่งเล็กน้ำสองชามอย่างที่ทำประจำ
 
“ลุงเอา เล็กน้ำแห้ง ไม่ผัก ใส่ถั่วงอกเยอะๆ ต้มยำแต่ไม่เผ็ด ใส่เป็ดแต่แดกเตี๋ยวไก่ ไม่ถั่ว ไม่ชิ้น ไม่งอก ไม่เปื่อย ไม่ต้องใส่เหี้ยไรเลย เอามาแต่ชามเปล่าๆ เดี๋ยวแย่งอิคนข้างๆกินละกัน ประหยัด “
 
แรพรัวเป็นชุดก่อนจะก้มหลบตะหลิวที่ลอยมาจากมืออิลุงขายก๋วยเตี๋ยวด้วยสัญชาตญาณ ถ้าไม่ติดว่ารู้จักกันนี่ผมอาจจะตายห่าไปแล้วแหละ
 
“เส้นเล็กน้ำสองชามครับลุง อย่าไปถือสาไอ้ยอลมันเลย “
 
แบคฮยอนที่เดินตามมาหันไปสั่งก๋วยเตี๋ยวเผื่อผม ก่อนจะนั่งลงข้างๆกัน ผมลุกเก็บตะหลิวเอาไปคืนให้ลุงคนขาย ก่อนจะกลับมานั่งที่เดิม แย่งแก้วโอเลี้ยงจากมือไอ้ไคไปดูดจนเหลือแต่น้ำแข็งแล้วคืนให้
 
“เป็นห่วง กลัวมึงดำ “
 
“อืมขอบใจนะกูรักเลย “
 
อิดำตอบกลับมา ก่อนจะหันไปคีบผักในชามของเซฮุนมาใส่ปากตัวเอง ผมหัวเราะ ไม่ได้พูดตอบอะไรกลับไป จะว่าไปกูไม่รีบละ ในเมื่ออิเพื่อนร่วมวงยังมานั่งจกเส้นเล็กน้ำตกอยู่นี่อยู่เลย
 
ไม่นานนักเส้นเล็กน้ำสองชามก็ถูกวางกระแทกลงบนโต๊ะ ผมหันไปยิ้มแหยให้ลุงแกทีหนึ่งด้วยความเกรงใจ สงสัยแกจะโมโหที่เขวี้ยงตะหลิวมาไม่โดน แต่ขอทอด แบบว่าปาร์คระดับไหนแล้วอะนะ ก็แบบมุมิ ครุคริ กริกริ อุอิ งุงิ
 
พอเหอะแดกเหอะ หิวไม่ไหวละ =_= มัวแต่เล่นไรไร้สาระอยู่นั่นอะ โอ้ยหล่อเพลีย
 
หลังจากที่แดกกันเสร็จจนอิ่มหมีพลีมันกันแล้ว อืมโปรดอย่าเข้าใจไปว่ากูแดกหมีนะ หมายถึงแบบ อิ่มมาก อิ่มไม่ไหวแล้ว แบบนี้อะชะนีเข้าใจทั่วกันนะโอเคไหม .. ผมซิ่งจักรยานตามไอ้ไคกับไอ้ฮุนที่ขี่มอไซค์คันเบ้อเร่อด้วยความเร่งรีบ เอาจริงๆคนที่รีบอะมันสองคน ส่วนพวกผมเจียมตัว มีจักรยานก็ขี่จักรยาน เราประหยัดครับช่วยโลกๆ  แต่โลกไม่เคยช่วยกูเลยนะ ออกจากบ้านทีนี้หัวจะแตก แดดมันแรงครับแดดมันแรง
 
จอดจักรยานก่อนจะไหว้หมาหน้าโรงเรียนแล้วเดินเข้าไปข้างใน วันนี้คนน้อยครับ จะมีพวกที่มาทำซุ้มกีฬาสี กับพวกที่ซ้อมดนตรีอย่างพวกผมเนี่ยแหละ อิพวกคนอื่นๆก็นอนเกาไข่สบายกันอยู่บ้าน แอบอิจฉานิดๆ แต่แบบ เราเป็นนักดนตรีโรงเรียนนะฮร้า เราเท่ห์ฮร่า เราเป็นมือเบสของวงโรงเรียนนะฮร้า (ผายมือทำหน้าฟิน)
 
ก็อะไรประมาณนี้แหละครับที่มันพอจะทำให้ผมมีกะจิตกะใจจะซ้อมได้บ้าง เวลาสาวๆมาดูเยอะๆหรือแบบเวลาอยู่บนเวทีแม่งจะมีพาวครับ และถึงผมจะหล่ออยู่แล้ว แต่เมื่ออยู่บนเวทีแล้วโดนชะนีกริ้ดอัดเยอะๆนี่มันเป็นความรู้สึกพี่บรรยายไม่ได้ มันฟิน มันหล่อ มันเท่ห์ และมันเข้าถึงที่สุดแห่งอารมณ์แล้วสำหรับผม
 

“ตั้งใจทำงานนะครับทุกคน “
 
เสร่อไปสั่งเค้าก่อนจะโบกมือสวยๆขณะเดินผ่านซุ้มตรงแสตนเชียร์กลางแดดเปรี้ยง ไม่รู้ทำไมพวกพี่ๆเค้าชูนิ้วกลางให้ผมเหมือนกันนะ มันอาจจะเป็นการทักทายแบบใหม่ของชาวร็อค ผมยิ้มรับอย่างร่าเริง แน่นอนว่าผมเองก็เป็นชาวร็อคพอตัวอยู่เหมือนกัน ว่างๆไปดูพี่ออยลอวเบรคเกอร์นะ หรือไม่ก็ ฮาร์ดร็อคเกอร์เนี่ยแหละไอดอลกูเลย
 
“สู้ๆนะครับน้อง “
 
ยกกำปั้นชูขึ้นแล้วพยักหน้า ในขณะที่เดินเข้าไปในตัวตึก เห็นกลุ่มรุ่นน้องกำลังนั่งทาสีป้ายเชียร์ขนาดยักษ์กันอย่างขะมักเขม้น วันนี้ผมอารมณ์ดีเป็นพิเศษ ไม่ใช่เพราะก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็ก หรือเพราะรายการทีวีที่ดูเมื่อเช้า แต่เป็นเพราะคนที่กำลังเดินอยู่ข้างๆผมตอนนี้ต่างหาก
 
“... “
 
ผมหันกลับไปมองไอ้แบคในขณะที่เรากำลังเดินไปด้วยกัน ใบหน้าน่ารักนั่นยิ้มให้กับทุกคน ทำให้ผมต้องยิ้มไปด้วยอย่างลืมตัว และถึงแม้ว่าเราจะทำเป็นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็ตาม แต่ผมจะหาโอกาสเหมาะๆบอกมันอีกครั้งให้ได้ ผมจะไม่ปอดเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา
 


คิดได้ดังนั้น ผมค่อยๆเนียนเอื้อมมือไปจับมือมันไว้แล้วพาเดินขึ้นตึกไปด้วยกัน
และถึงแม้แบคฮยอนจะถลึงตาใส่แล้วสะบัดมันทิ้งเท่าไหร่
แต่ผมจะไม่ปล่อยเด็ดขาดเลย



หม่ามี๊ พี่ปาร์คจะสู้ พี่ปาร์คจะไม่แพ้ หม่ามี๊เชื่อพี่ปาร์คนะ!!!!!!















Kim jongin part
 

ผมเดินนำขึ้นบันไดมา ก่อนจะตามด้วยไอฮุนที่เดินง่วงอยู่ข้างหลัง แล้วตามด้วยไอ้ยอลกับอิแรดเดินรั้งท้าย ไม่รู้มันมุ้งมิ้งอะฮริ้งอะไรกันอยู่สองคน หันกลับไปมองไอฮุนก็เห็นแม่งเอาโทรศัพท์ขึ้นมากดๆเล่นอีกละ ก็ว่าทำไมเดินช้าๆ นี่เดินขึ้นบันไดนะไอสัดเดี๋ยวก็ได้ลงไปนอนกันพอดี ผมส่ายหัว(เราก็เป็นชาวร็อคครับ) ก่อนจะหยุดยืนรอที่บันไดขึ้นหนึ่งแล้วเอื้อมมือไปจับข้อมือไอ้ฮุนไว้ ยืนรอให้มันเดินขึ้นไปก่อนแล้วผมก็ค่อยเดินช้อนหลังตามมันไปอีกที
 
จะด่าแม่งเดี๋ยวก็โกรธกันอีก ผมไม่มีสิทธิ์ไปด่าอะไรแม่งอยู่ละครับ มึงอยากจะแชทกับใครอะไรยังไงก็เรื่องของมึง เพราะเรื่องนี้เราคุยกันกี่ทีมันก็ไม่จบ ไอ้ฮุนไม่ยอมบอกเหตุผลที่ไม่พอใจผม หรือตอนที่มันจะบอกก็ต้องมีเรื่องไรมาขัดทุกที แต่ตราบใดที่มันยังคุยกับผมอยู่ผมก็จะไม่อะไร
 
“อ้าว มากันแล้ว “
 
เสียงนุ่มดังขึ้นข้างหน้า ผมชะเง้อหน้าออกจากแผ่นหลังของไอ้ฮุนดูก็พบว่าเป็นพี่ลู่หาน นักเรียนมอปลายปีสุดท้ายที่ทำหน้าที่เป็นนักร้องนำของวงโรงเรียนนั่นเอง พี่เขายิ้มละมุนมาให้ผม ผมยิ้มตอบ และถึงแม้ใบเนียนใสนั้นจะประดับไปด้วยรอยตีนกาแบบอันลิมิตก็ตาม ผมก็ยังคิดว่าพี่เขาน่ารักเสมอ
 
“มาๆผมช่วย “
 
เห็นพี่ลู่กำลังขนกลองชุดตัวสำรองที่ย้ายมาจากห้องเก็บเครื่องดนตรีข้างๆแล้วผมก็รีบปรี่เข้าไปช่วยทันที ถือวิสาสะช้อนมือไว้ใต้มือเล็กแล้วค่อยๆประคองกลองตัวใหญ่เข้าไปในห้องซ้อมด้วยกัน โดยที่ผมเดินหันหลัง สัมผัสที่สปาร์คอย่างแรงเข้าที่ฝ่ามือมันแล่นเข้าไปที่หัวใจอย่างรวดเร็วจนผมใจเต้นไม่เป็นส่ำ
 


แม่เจ้าหน้าเหี่ยวแต่มือไม่เหี่ยวนะครับ
 

“แฮ่ก ขอบใจ “
 
คนน่ารักว่า หลังจากที่วางกลองตัวใหญ่ไว้ที่มุมห้อง พี่ลู่หานหันมายิ้มหน้ายับให้ผมอีกครั้ง มือเล็กยกขึ้นปาดเหงื่อ ท่าทางการขนกลองชุดใหญ่จะเป็นงานหนักสำหรับรุ่นพี่ที่ชราแล้วอย่างเสี่ยวลู่หานเป็นอย่างมาก
 
“ยังเหลืออีกบานอะ โอย “
 
“เอ่าหรอครับ เดี๋ยวผมช่วยยก ไปดิๆ แก่ละหลังจะหักเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ “
 
ผมเอ่ยแซว ยกหลังมือตบเบาๆที่กลางหลังของพี่ลู่หานพลางหัวเราะน้อยๆอย่างชอบใจ ก่อนจะเดินดันหลังอีกคนให้ออกไปจากห้องเพื่อไปยังห้องเก็บอุปกรณ์ เหมือนว่าเครื่องดนตรีที่พวกเราใช้ซ้อมเป็นประจำจะถูกย้ายมากองไว้ที่ห้องนี้ทั้งหมด รวมถึงกีต้าร์ไฟฟ้าลูกรักของไอ้ยอลที่เอามาดองทิ้งไว้ที่โรงเรียนด้วย
 
“พี่มาถึงเมื่อไหร่ครับเนี่ย “
 
ผมถาม ในขณะที่หิ้วกีต้าร์ไอ้ยอลสะพายบ่าไว้ แล้วยกอุปกรณ์อื่นๆขึ้นมาแบกไว้ เดินกลับไปที่ห้องนั้นอีกรอบ
 
“ตั้งแต่เช้าละครับ ไปช่วยพวกนั้นทำแสตนมา เดี๋ยวซ้อมเสร็จก็ต้องไปทาสีต่อ “
 
“โห งานหนักนะครับ แลกกะผมปะ “ ผมตอบ ใช้หลังดันประตูห้องให้เปิดออกแล้วให้พี่ลู่เดินขนเครื่องดนตรีเข้าไปก่อน
 
“หืม ยังไงครับ ? “
 
“พี่มาวิ่งในหัวใจผมละกัน เดี๋ยวนอกนั้นผมทำเอง “

หยอดเข้าให้หนึ่งมุขก่อนจะวางกีต้าร์ลงที่มุมห้อง เห็นพี่ลู่หานหัวเราะแล้วแทบจะร้องเยสออกมา แต่ก็ทำได้แค่ในใจ ผมกลอกตาไปรอบๆ พยายามคิดมุขต่อๆไปเอามาเต๊าะอีก
 
“แค่ก!
 

หันไปเห็นไอ้ฮุนที่นั่งถือถุงดูดเปปซี่อยู่กำลังสำลักหน้าดำหน้าแดง คนตัวขาวไอโขลกจนตัวงอ ผมรีบปรี่เข้าไปหาทันทีแล้วตบหลังมันแรงๆด้วยความเป็นห่วง
 
“อั๊ก! ไอสัดพอ กูจะตายเพราะมึงนิแหละ “
 
“อ่าวโทษๆ ค่อยๆกินดิวะ “  
 
นั่งลงข้างๆแล้วลูบหลังมันเบาๆ ไอ้ฮุนหันหน้าแดงๆที่ดูอิดโรยมาหาผม น้ำตาแม่งเล็ดเลย ไม่รู้ผมตีแรงไปปะนะแต่กูอัดเข้าเต็มฝ่ามือเลยอะฮิ กลัวเปปซี่ติดคอเพื่อน
 
“แค่กๆ .. “
 
“ไหนแดกมั่งดิ “ ไอ้ฮุนยื่นถุงเปปซี่มาให้ ผมก้มลงดูดอึกใหญ่จนเหลือแต่น้ำแข็ง
 
=_= .. “
 
“เออ อร่อยดีว่ะ ซื้อร้านไหนวะเปปซี่ถุงนี้ “
 
ผมหัวเราะ กวนตีนมันเล่นๆเป็นงานอดิเรก เปปซี่ร้านไหนแม่งก็เหมือนกันแหละไอสัด แต่รู้สึกว่ามันหวานแปลกๆ หวานกว่าปกติ


ร้านไหนไม่รู้ว่ะ แต่กูไปจิ๊กไอ้พวกทำแสตนข้างล่างมาอะ ขี้ฟันทั้งนั้นสิบกว่าคนดูดมาหมดละ มึงอร่อยปะละ เอาอีกปะ ? “

 


.......................................

 

วินาทีนั้นเหมือนโลกทั้งใบทลายลงกับตา ผมได้แต่นึ่งอยู่อย่างนั้น ไอ้ฮุนยื่นถุงเปปซี่เข้ามาใกล้จนหลอดจ่อติดกับปากผม ดูท่าทางมันจะขำกับหน้าช็อคโลกของผมมาก .. ผมห่อลิ้น รู้สึกว่าอ้วกกำลังตีขึ้นมาถึงกระบังลม
 
ผ่านหลอดอาหาร ..
 
คอหอย..
 
และริมฝีปาก..

 
“อ่อก .. “
 
อ้าปากห่อลิ้นแล้วทำท่าจะอ้วก แต่แม่งเสือกไม่ออกมาให้กูนี่ดิ ลีลาจังนะไอสัด ทีเมาๆนี่ไม่อยากให้ออกมึงพรวดเป็นก๊อกอย่างกะกรมประปา ไอ้เหี้ยออกเถอะ อยากทำดีท็อกซ์มากครับจุดนี้ ใครก็ได้สวนตูดให้กูที ขี้ฟัน.. คนเป็นสิบ.. โหอยากจะคราย นี่ไม่รู้ใครกินเข้าไปบ้าง ละถ้าแม่งมีคนเล่นพิเรนท์เอาหลอดแคะขี้ฟันนี่ผมจะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ยังไง ผมเคยเห็นนะวันนั้นตอนเลิกเรียน มีผู้ปกครองมารอรับนักเรียน ลุงแกก็ดูดเปปซี่นั่งรอลูกอยู่ใต้ตึก แล้วสักพัก .. สักพักลุงแกก็ทำสิ่งที่โหดร้ายที่สุดสำหรับมนุษย์โลก!!!!!!!! ลุงยกถุงเปปซี่ขึ้นมา!!!!!!!! ลุงจับหลอด!!!!!!! จากนั้นลุงก็ทำการจรดปลายหลอดลงบนผิวฟันหน้าเหลืองๆของลุงแก จากนั้น!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
 


ขูดขึ้นลง ..


 


“อ่อก .. อิเหี้ย “
 

ผมเท้ามือลงกับโต๊ะแล้วรูดๆคอตัวเองแรงๆ น้ำตาไหลรื้นขึ้นมาที่ขอบตา ยังจำภาพนั้นได้ติดตา พอลุงแกขูดขี้ฟันด้วยหลอดเปปซี่เสร็จจนสะอาดเอี่ยมเลี่ยมแร้แล้ว ลุงแกก็ ดูดต่อ!!!!!!!!!!!!!!!!! อิเหี้ย แดกขี้ฟันตัวเอง ไม่นะไม่ ผมนั่งดูอยู่นี่น้ำตาเล็ด โอย จะร้องไห้ครับ แม่งซึ้งชิบหาย T_T ใครก็ได้ล้วงคอทีได้ไหม แค่คิดผมก็ดำรงชีวิตอยู่ต่อไปไม่ไหว
 
“ก๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกก กูหยอก น้ำกูเอง เพิ่งไปซื้อมาไอสัด “
 
=_= เหี้ย เดี๋ยวจูบซะดีไหมปากหาเรื่องนะมึงอะ “
 
ผมลุกขึ้นแล้วชี้หน้าคาดโทษ ไอ้ฮุนขำแรงจนจมูกกระพือ จมูกก็โด่งนะแต่เวลายิ้มเสือกกินพื้นที่หน้าอีกนะมึง ดูท่ามันจะสะใจกับท่าทางของผมมาก อ่อมึงสนุกมากใช่ปะ แต่ผมนอยด์แดก หน้าตาตลกๆของมันยังไม่สามารถลบภาพลุงแกออกไปได้ และนี่เป็นเหตุผลที่ผมไม่กินน้ำใส่หลอดร่วมกับใคร กระดกปากกูยอม แต่หลอดบอกเลยกูไม่เอา
 

“ซ้อมได้ละไอเหี้ย มัวแต่นั่งบ้วนขี้ฟันกันอยู่นั่นอะ โลกสีชมพูมากแมะ เร็วๆอิดำ คนอื่นเขารอนานละ แหมได้พอถึงพาร์ทมึงได้พากษ์ทีนี่แย่งซีนกูใหญ่เลยนะไอสัด ได้ข่าวว่ากูพระเอกปะ แต่มึงแย่งกูตลอดเรื่องเลยปะ มึงจะเอายังไง ไปเปิดเรื่องใหม่เลยปะ น้องไคxหลอดเปปซี่เลยปะ เอ็นซี20บวก“
 

หันไปเห็นไอ้ชานยอลยืนถือกีต้าร์แรปใส่ผมอยู่ตรงกลางห้อง ผมได้แต่นั่งกระพริบตามองปริบๆด้วยความที่เถียงไม่ออก อิเหี้ยนี่แม่ค้าปากตลาดมาเองปะนิ ช่างพูดนะเรา พูดเป็นต่อยหอยเลย ผมไม่สู้หรอกครับ ผมสุภาพบุรุษพอ เราจะไม่ต่อยหอย แต่เราจะทำอย่างอื่นกับหอยแทน แค่คิดก็แข็ง
 

“ยัง .. ยังจะนั่งเป็นควายเอ๋ออยู่อีก มึงจะลุกมาซ้อมหรือจะให้กูไปลากถึงที่ อย่า! อย่าคิดว่ากูจะกลัว มึงดำกูก็ดำได้ แค่กูไปยืนตากแดดนานๆเท่านั้นแหละ แต่กูไม่ทำไง “
 

“กะ .. “ ผมอ้าปากพูด แต่ไม่ทัน
 
“หยุด!!!!!! อึ้บ!!!!! อย่าเถียง มึงลุก ลุกเดี๋ยวนี้ มาซ้อม มึงเห็นหน้าพี่ลู่ไหม รอนานจนหน้าเหี่ยวละเนี่ย มึงไม่สงสารคนแก่หรือไง “
 
ไอ้ยอลชี้หน้าผม ก่อนจะชี้ไปที่พี่ลู่ที่ยืนประจำอยู่ที่ขาไมค์เรียบร้อยแล้ว ผมเกร็งจนปวดไปทั้งหน้า อยากจะขำให้เหงือกระเบิดแต่ติดที่ว่าเกรงใจพี่ลู่ และมันกำลังด่าผมอยู่
 
“จ้าๆ “
 
ได้แต่พูดเท่านั้นก่อนจะเดินฝ่าวงเข้าไปนั่งตรงเก้าอี้หลังกลอง เช็คอะไรนิดหน่อย ก่อนจะชี้หน้าไอ้ฮุนที่นั่งดูพวกผมอยู่ข้างๆไอ้แบค เห็นแม่งยักไหล่กวนตีนกลับมาแล้วอยากจะเขวี้ยงไม้กล้องใส่
 

“สาวบางโพธิ์ สามสี่ “

 
แต๊ก ๆ

 
พี่ลู่พูดพลางคว้าไมค์ขึ้นมาถือ ผมเหลือกตาขึ้นไปข้างบนแล้วถอนหายใจเนือยๆ ชูไม้กลองแล้วเคาะสองทีเพื่อเป็นการให้จังหวะ ก่อนที่ไอ้ยอลจะรีดกีต้าร์ขึ้นมา เราเริ่มบรรเลงบทเพลงอันเมามันส์ รัวกลองเร็วๆ เริ่มรู้สึกมันส์ไปด้วย แต่ก็ขำ อิห่า เพลงมีเยอะแยะ ไม่เล่น เล่นเพลงไรไม่รู้เนี่ย เข้ากับเหง้าหน้ามาก
 

“คิ้วโก้ ! “
 
“หน้ากลม!
 
“ผมงาม!
 



“ต้องตาโอ้โห สาวบางโพธิ์นั้นโก้ขิงๆ !!!!!

 

=_= .............................................


ผมรัวกลองไปตามจังหวะเพลง ไม่รู้จะกูเถียงไม่ได้เพราะกูเป็นแค่มือกลอง เห็นก้นพี่ลู่ส่ายไปมา ดูท่าพี่เขาจะเมามันส์กับเพลงนี้เหลือเกิน ผมเหยียบกลองเป็นจังหวะ ใครๆก็ว่าผมตีกลองมันส์ ถึงแม้ตอนนี้สีหน้าผมจะไม่ให้ความร่วมมือเลยก็ตาม
 
“ขวัญสะทก อกเจ้าเอ๋ย ..ไม่น่าเลย มาหลงรักสาวบางโพธิ์
 
พี่ลู่รวบสายไมค์มาม้วนๆแล้วเดินไปหาไอ้แบคกับไอ้ฮุนที่นั่งขำน้ำตาเล็ดอยู่ตรงโต๊ะข้างหน้า ผมยังคงตีกลองรัวๆ มองไปรอบๆ ทั้งมือเบส มือกีต้าร์ และมือคีย์บอร์ด ตอนนี้หลุดโลกไปแล้ว ทุกคนพร้อมใจกันสาวบางโพธิ์มากอิเหี้ย ผมผงกหัวตามแบบฉบับชาวร็อค แบบนี้ต้องเอามั่ง  
 

“ยิ้มมีเสน่ห์ เก๋เกินมองข้าม ถามใครดูได้สวยไปทุกสิ่ง ตะแด่ดแตแต้แตแตแดแด่ด "
 

พี่ลู่หานเดินเข้าไปหยุดอยู่ตรงหน้าสองคนนั้น มือเรียวเชยคางไอ้ฮุนขึ้น จากตรงนี้เห็นเต็มๆว่าพี่ลู่ยิ้มเอ็นดูมัน แถมแม่งยังยิ้มเขินใส่พี่ลู่อีก ผมตีกลองแรงๆจนเสียงดังก้องหูไปหมด ไม่รู้ว่ามันส์หรือเพราะอะไร
 

“รูปทรงสง่า หน้าตางามยิ่งหญิงใดมาเปรียบ เทียบสาว.. “
 
 

“แกร๊บ โครม!!!!!!!!

 
ตีอยู่ดีๆไม้กลองก็หักจนอีกครึ่งลอยกระเด็นออกไปข้างหน้า กลองที่ผมเหยียบอยู่ที่เท้าถูกผมถีบออกไปจนหล่นกลิ้งออกไปมุมห้อง.. ผมไม่ได้ตั้งใจถีบ มันไปเอง
 

“เฮ้ย เชี่ยไค เป็นไรปะวะ “
 

“กู .. กูไม่มีสมาธิอะ ขอโทษที“
 

ทุกคนหยุดเล่นก่อนจะหันมามองผมเป็นตาเดียว แม้แต่พี่ลู่ก็หันกลับมาด้วยพลางมองผมด้วยสายตาหวาดๆ ผมหันไปตอบไอ้ยอลก่อนจะลุกขึ้นไปเก็บไม้กลองอีกครึ่งที่เหลือ แบกกลองชุดที่หล่นกลิ้งกระจายกลับมาไว้ที่เดิม ผมรู้สึกหงุดหงิดมากเลยตอนนี้
 

“งั้นนายพักก่อนก็ได้ อย่าซีเรียส ไปๆพักก่อน “
 

พี่ลู่เดินมาหาผมแล้วตบบ่าเบาๆ เอาไมค์มาตั้งที่ขาไมค์เหมือนเดิม ส่วนไอ้ยอลก็พิงกีต้าร์ไว้ตรงกำแพงริมห้องแล้วเดินไปหาไอ้แบค พวกพี่ๆในวงแยกย้ายกันออกไปหาอะไรกินแล้ว ผมก้มหน้า

 
แม่งเอ้ย กูเป็นไรวะเนี่ย




 





Chanyeol part
 
“สาวบางโพธิ์นั้นโก้ชริงๆ  yeah “
 
ผมร้องออกมาแล้วชูไม้ชูมือไปข้างหน้า ขำจนเหงือกระเบิดเมื่อเห็นไอ้แบคลุกขึ้นไปเต้นกับพี่ลู่ แม่งแอ่นนมส่ายตูดเหมือนชะนีเปี๊ยบ ผมรีดกีต้าร์อยู่บนตักอย่างเมามันส์ นั่งอยู่ผมก็ทำได้ครับเมพขิงๆละ เราเต้นสาวบางโพธิ์เวอร์ชั่นรีมิกซ์กันรอคนอื่นในวงที่ลงไปหาอะไรกิน ชิวครับ เราชิว
 
“ผมมีสเน่ห์เกร๋เกินมองข้าม ว่างๆกูกาม ชอบแดกข้าวหลามฟรี แตแด่ดแตแตแดแดแดแด่ด ๆ “
 
ดีดกีต้าร์แล้วร้องเพลงไปด้วยโดยเปลี่ยนเนื้อให้เสร็จสรรพ ไม่จังไรเราไม่นอนครับ บางทีผมควรจะแดกวีต้าแล้วไปตายซะ
 
“มึงถ่ายคลิปมันที 555555 “
 
หันไปบอกไอ้ไคที่นั่งเนือยอยู่ข้างๆให้ถ่ายวิดิโอแบล็คเมล์ไอ้แบคกับไอ้ฮุนไว้ ตอนแรกแม่งก็เก๊ก ไปๆมาๆลุกเต้นละไอสัด เกิดมาเพื่อสิ่งนี้เลยจริงๆ
 
“โซโล่หน่อยน้องๆๆ “
 
พี่ลู่พูดแล้วเปิดทางให้แบคฮยอน คนตัวเล็กก้าวออกมาข้างหน้า ในขณะที่เราก็ร้องไปเต้นกันไปด้วย ก่อนที่มันจะเดินไปที่มุมห้องแล้วเต้นตบสวิตช์ไฟอย่างบ้าคลั่งเหมือนที่มันชอบทำเมื่อตอนมอต้น ผมปล่อยก๊าก วางกีต้าร์ไว้ข้างตัว ไม่ลงไม่เล่นแม่งละไอสัด กลัวพัง
 
คือก็ไม่รู้ผมเป็นอะไร แต่เวลาหัวเราะผมต้องตบมือหรือตบตักหรือตบอะไรสักอย่างครับ ถึงสาถานการณ์จะไม่เอื้อแต่ถ้ามันฮาผมก็ตบหมด ไม่ว่าจะเป็นหัวเด็กนักเรียนเกรียนๆบนรถเมล์ก็ตบมาแล้ว ถึงกับหน้าสั่นกันเลยทีเดียว
 
“แบคบางโพธิ์นั้นโก้ขิงๆ แตแด่ดแตแตแดแดแดแด่ด ๆ“
 
ผมชะโงกดูภาพที่ไอ้ไคกำลังเอามือถือผมถ่ายอยู่แล้วหัวเราะชอบใจ หยิบขวดน้ำจับเป็นไมค์แล้วลุกขึ้นแรป
 
“แรดไปซะหมด ชอบละเมอตด น่าสลดจริงๆ แตแด่ดแตแตแดแดแดแด่ด ๆ yeah “
 
“เอิ้ว เอิ้ว ๆๆ “
 



“โครมมม!!!!! “
 

และในขณะที่กำลังจะอ้าปากร้องท่อนต่อไป ตัวผมแอ่นไปข้างหน้า รู้สึกเจ็บที่ง่ามตูดจนร้าวไปถึงซิลิเบลลัมที่ขั้วกระดูกเชิงกราน จะว่าไปแล้วซิลิเบลลัมไม่ได้อยู่ที่กระดูกเชิงกรานหรอกครับ มันอยู่ในสมอง ใช่ปะ เหมือนจะเคยเรียนสุขศึกษามาก่อน แต่ก็มู้ดิจำไม่ค่อยได้ เรื่องพวกนี้เราไม่ค่อยจำครับ ไม่อยากจะควยว่าเราจำแต่เพศศึกษาเท่านั้น ผมเสียหลักเซไปข้างหน้าไอ้แบคถีบผมเข้าเต็มแรงจนล้มลงไปใส่กองเก้าอี้พลาสติกตรงมุมห้อง ขวดน้ำที่ถือแทนไมค์อยู่ก็เป็นอันกระเด็นลอยออกไปตกที่ดาวพุธ ผมลูบตูดตัวเองป้อยๆด้วยความเจ็บ อิห่าล้อเล่นหน่อยเดียวเองT_T
 

“เพื่อนเล่นมึงหรอไอสัด ไม่เล่นละ “
 
มันพูดแล้วแยกเขี้ยวใส่ ก่อนจะหันไปเต้นกับพี่ลู่ต่อ เอ้าอิห่า ไหนบอกไม่เล่นไงโอ้ยหล่อไม่เข้าใจๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
 

“มึงน่าจะเพลาๆปากมึงมั่งนะ “
 
เดินพยุงตูดตัวเองกลับมานั่งข้างๆไอ้ไค มันคงจะเริ่มอารมณ์ดีแล้ว มือดำๆของมันเลื่อนมาตบหลังผมเบาๆเป็นเชิงให้กำลังใจ แหม่ดีจัง
 


ไม่นานนักสมาชิกในวงก็กลับขึ้นมาครับหลังจากที่แดกอะไรกันจนอิ่มหนำสำราญแล้ว ดูจากหนังพุงและท่าทางของพี่ๆคงจะกินเข้าไปเยอะพอสมควรชนิดที่ว่าขี้ออกมาถมบ้านได้ พี่ลู่เรียกรวมอีกครั้ง ก่นอที่เราจะซ้อมสาวบางโพธิ์กันต่อ
 

ล้อเล่นไอฟาย เพลงอื่นมั่งซิ เราวงรว็อคนะครับ จะให้มาเล่นแบบนี้ตลอดไม่ได้หรอก อะฮิ
 
พอละ บ่นเยอะจัง ซ้อมละ ๆ บ้าย



 

 
Sehun part


กราบสวัสดี มิตรรักแฟนเพลง บรรดาแขกเหรื่อเครือญาติ และผู้มีเกียรติ รวมทั้งผู้อ่านทุกท่าน ขอกราบอารธนาศีลห้า พระรัตนตรัยอันประกอบด้วย พระพุทธ พระธรรม พระสงค์ พระไตรปิฎก พระศิวะ พระนายรายน์ พระโล้ โหไอสัด พูดแล้วอยากกินพะโล้เลยครับ ชอบของดำๆ
 
ก็ไม่มีไรหรอก ผมก็ไม่ค่อยได้พากษ์นี่ ถูกไหม ทุกคนได้พากษ์กันหมด ยกเว้นผมคนเดียว ที่บทน้อยเหลือเกินแหม่ ตอนนี้ถึงเวลาแล้วครับที่พระเอกจะได้ออกโรงเสียที ก็ขอเล่นตัวนิดนึงได้ปะละ
 
ก็ไม่ต้องกลัวนะครับว่ามันจะไร้สาระ แน่นอนว่าผมไร้สาระที่สุดในเดอะแก๊งค์อยู่แล้ว ดังนั้นทำใจได้เลยครับ แต่ถึงยังไง ผมก็เป็นคนที่มีจิตปกติที่สุดในบรรดาสี่คนนี้นะ ไม่เชื่อคุณผู้อ่านลองสังเกตดูดิ แม่งมีใครปกติที่ไหนอะ
 
ครับสำหรับใครที่คิดว่า เอ้ย มึงมีกันแค่สี่คนหรอวะทำไมเพื่อนน้อยจังโลกแคบ หล่อขอตอบตรงนี้เลยว่าไม่มีใครคบเราครับ ไม่ใช่เราหยิ่งหรืออะไร แต่คนอื่นไม่คบล้วนๆ อันนี้ก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไรนะ แต่ตั้งแต่ผมรู้จักไอ้ชานยอลตอนห้าขวบ โลกผมก็แคบลงทันทีเลยครับ
 
“แดกไรดีวะ “
 
ไอ้แบคหันมาถาม ในขณะที่เรากำลังเดินลงตึกไปด้วยกัน หลังจากที่ไอสองตัวนั้นซ้อม เราก็ออกมาหาไรแดกกันครับ เพราะมันหิวมาก อิก๋วยเตี๋ยวร้านลุงนั้นไม่พอยาไส้ผมเลย ไม่รู้ดิ คือก๋วยเตี๋ยวนี่ถ้ามึงไม่แดกผักมันก็ไม่เหลือไรให้มึงแดกละ อิลุงนั่นแม่งไม่รู้จะงกไปไหนนะ มึงเอาเส้นเล็กกระหยุ่มเล็กๆมาลวก แล้วใส่ลูกชิ้นโง่ๆให้กูสองลูก เม็ดเท่าจิ๋มมด อิห่าคงจะอิ่มหรอก
 
“แดกไรก็ได้ที่ไม่ใช่ก๋วยเตี๋ยวอะ กูยังไงก็ได้ “
 
“อืม กินต๊อกปะ ตรงร้านหัวมุมเนี้ย “ ไอ้แบคเสนอความคิด
 
“ไม่เอาอะเบื่อ “
 
“งั้นก๋วยจั๊บ ปากซอย “
 
“มันต่างกะก๋วยเตี๋ยวตรงไหนวะ =_= “ ผมหันไปถาม อิห่านี่ไม่มีตรรกกะความคิดเอาซะเลย
 
“งั้นข้าวราดแกงปะ ข้างโรงเรียนเนี่ย ง่ายๆ ไม่ต้องเดินไกลด้วย “
 
“เคยแดกละ “
 
“.. งั้นตีนปะ มึงอาจจะเคยแดกละแหละ แต่ปากมึงน่าเอาตีนกระซวกมากเลย “
 
ผมหันไปมองหน้าไอ้แบคที่ยืนกอดอกมองผมด้วยสายตาเอือมระอา ผมได้แต่ส่งสายตาที่คิดว่าเซ็กซี่ที่สุดในชีวิตไปให้ แต่เหมือนไอ้แบคจะมองไม่เห็นความเซ็กซี่สุดคูลของผมเอาเสียเลย แม่งสะบัดมือตบกระบาลผมจนหน้าสั่น
 
“ปากบอกอะไรก็ได้ แต่มึงปิเสธกูหมดเลยนะแหม แดกข้าวแกงเนี่ยแหละไอสัด ไม่งั้นก็ไม่ต้องแดก เอานิ้วโป้งตีนมานั่งอมเล่นรอกูกินละกัน “
 
มันพูดแล้วเดินนำไปเลย ผมได้แต่เดินตาม ไอ้เชี่ยยอลแม่งทนอิแรดนี่ไปได้ยังไงวะเนี่ย โคตรเก่งอะผมแบบชาบูมึงเลย (พูดละอยากกินชาบู) คือตอนเด็กๆไอ้แบคไม่ใช่คนแบบนี้นะ แต่ไม่รู้ดิ มันอาจจะแบบแตกเนื้อหนุ่มปะ ไม่อะไอสัด ระดับนี้น่าจะแตกเนื้อสาวมากกว่า เริ่มมีเมนส์ หัวนมแตกพาน นมตั้งเต้าละ เริ่มทำตัวเป็นสาว ฮอมงฮอร์โมนมาหมด อิห่า
 
“กูว่า เอาใส่กล่องดีกว่าว่ะ ซื้อไปให้ไอ้สองตัวนั้นด้วย แล้วก็เผื่อพี่ลู่ด้วย ดีปะ “
 
“ละมึงจะมาถามกูทำไมอะถ้ามึงจะทำงั้นอยู่แล้ว =_= “
 
ยืนเกาะตู้กันอยู่หน้าร้าน ผมหลบฝ่ามืออรหันต์ของแบคฮยอนแล้วยืนกอดอกพิงเสาหน้าร้าน รอแม่งสั่งข้าว มองรอบๆไปเพลินๆ แดดแม่งร้อนจนคิดว่าอยู่ขั้วโลกเหนือ ตอนนี้เหนียวรักแร้และร่องตูดมากขอบอก เสือกฮิปฮอปไง เสื้อแขนยาวกางเกงยีนส์มาเต็มครับ คือหล่อที่สุดในซอยแล้ว
 
“....”
 
ผมขมวดคิ้ว รู้สึกเหมือนแสงอะไรบางอย่างกระแทกเข้าที่ตาเต็มๆจนต้องหยีตาหลบด้วยความแสบขั้นแอดวานซ์ เหมือนผมจะเห็นไอ้คริสยืนอยู่ตรงริมถนนฟากนู้น แสงแดดจ้าที่สะท้อนเงิงวาววับนี่เองที่ทำร้ายลูกกะตาผมเมื่อกี้ ไอ้คริสใส่เสื้อกล้ามสีขาวและทับด้วยเสื้อยีนส์ กางเกงขายาวที่มันใส่มาทำให้ผมรู้ว่าอิเงือกนี่ก็ฮิปฮอปพอกัน
 
“เฮ้! “
 
และในจังหวะที่ไอ้แบคหันมาหาผมพอดี  ไอ้คริสร้องออกมาพลางโบกมือใบลานของมันไปมา ทำท่าเหมือนจะข้ามมาฝั่งนี้ รถเก๋งคันสีแดงวิ่งผ่านไป ตามด้วยรถบรรทุกและมอเตอร์ไซค์ ไอ้คริสก้าวขามาข้างหน้า ผมลุ้น ภาวนาให้รถสักคันมาคาบมันไปแดก
 
“ได้แล้วไอหนุ่ม “
 
คุณป้าร้านขายข้าวบอก ผมที่เป็นคนถือตังอยู่จึงหันไปจ่ายตังแล้วรับกล่องข้าวมา หันกลับมาอีกที ไอ้คริสมายืนอยู่ข้างๆเรียบร้อยแล้ว โห ยืมเงิงหน่อย บังแดดได้พอดีเลย
 
“แบค กูแวะไปที่บ้านมึงแล้วก็ไม่อยู่ ที่แท้มาอยู่โรงเรียนนี่เอง“
 
“มึงเห็นมันอยู่ฟาร์มหมาหรือไงวะ ก็เนี่ย โรงเรียน มึงอ่านป้ายออกแมะ “
 
หิ้วถุงข้าวไว้แล้วหันไปตอบแทนไอ้แบคพลางชี้ป้ายหน้าโรงเรียนให้มันดู เห็นอิเตี้ยอึกๆอักๆไม่อยากตอบ ผมรู้ว่าอิเงิงบานนี่จีบไอ้แบค ผมไม่อะไรหรอก แต่ผมหมั่นไส้ล้วนๆ
 
“ไปห้างxxกันมึง ไปดูหนังกัน ปะ นี่กะมาชวนมึงเลย “  ไอ้คริสพูดแล้วคว้าข้อมือไอ้แบคทันที หน้าไอ้แบคเหวอไปเลย
 
“แต่กูยังไม่ได้กินข้าวเลย “
 
“ไปดิ กูเลี้ยง “


“แต่กูต้องเอาข้าวไปให้เพื่อนกูก่อนไง “
 
ไอ้แบคตอบ แหงนหน้าจนท้ายทอยติดหลัง ถ้าแม่งจะเตี้ยขนาดนี้แนะนำว่ามึงปีนเก้าอี้คุยเหอะ ผมในฐานะคนหน้าตาดีที่ไร้บทพูดชั่วคราวอยากวิ่งไปยกเก้าอี้พลาสติกในร้านมาให้อิแบคยืนมาก สงสารกระดูกคอมัน
 
“แล้วอิตุ้ดเนี่ยมีไว้ทำไม ก็ให้แม่งเอาไปให้ดิ “
 
มันโบ้ยมาหาผม อ่าวอิเหี้ย กูแมนกว่าพ่อมึงอีกมั้งเผลอๆ เรียกกูตุ้ดนี่มีเคลียร์นะ ไอ้ไคเรียกได้คนเดียวก็พอ
 
“อ่าวไอสัดเดี๋ยวมึงรู้ๆ “
 
ผมถกแขนเสื้อพลางเงยหน้ามองอย่างหาเรื่อง ก็ใครใช้ให้แม่งสูงร้อยเก้าสิบวะไอห่า ไม่รู้ตอนเด็กๆแม่มันต้มเสาไฟฟ้าให้แดกหรือยังไง แต่ตอนนี้อยากตบมันด้วยถุงใส่กล่องข้าวมากๆ แต่เสียดายเงินร้อยยี่สิบบาท
 
“เอาเป็นว่ามึงไปเที่ยวกะกูเคปะแบคฮยอน ปะ ป๋าเอารถมาละไม่ต้องปั่นจักรยานให้น่องบาน “
 
“แต่กู.. “
 
เหมือนอิแบคจะบ่นงุ้งงิ้งๆเหี้ยไรของมันก็ไม่รู้นะ ฟังไม่รู้เรื่องเท่าไหร่ มันโดนไอ้คริสลากข้ามถนนไปฝั่งนู้นละ ผมหันไปเอาตังทอนจากป้าคนขายแปปเดียวแม่งโดนยัดเข้าไปนั่งในรถเรียบร้อยแล้ว เห็นไอ้แบคที่นั่งตรงที่นั่งข้างคนขับมองออกมาทางผม ผมโบกมือหยอยๆ
 
“กำ มีแฟนละทิ้งกูซะงั้นเลย แล้วข้าวอีกกล่องทำไงวะเนี่ย “
 
ผมชูกล่องถุงใส่กล่องข้าวขึ้นมาดู ของอิแบคคงต้องให้หมาแดกละ แม่งไปแล้ว รถออดี้สีเขม่าคันนั้นขับออกไปแล้ว ผมส่ายหัว(เราก็เป็นชาวร็อคอีกหนึ่ง)ไปมาเบาๆ ก่อนจะเดินกลับเข้าไปในโรงเรียน

 







“ไอ้แบคอะ ? “ ไอ้ชานยอลถามผมในขณะที่วางกล่องข้าวลงบนโต๊ะ ผมยักไหล่
 
“ไอ้คริสมันมาลากไปละ “
 
“เฮ้ย! ลากไปไหน“
 
ไอ้ยอลทิ้งกีต้าร์แล้วลุกพรวดเข้ามาหาผม ผมแกะกล่องข้าวออกแล้วใช้ช้อนพลาสติกตักข้าวเข้าปากคำโตๆ
 
“ไปไหนก็เรื่องของมันปะวะ แฟนกันมึงไปยุ่งอะไรเค้านิ “
 
“ไอเหี้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย มันไปเป็นแฟนกันตอนไหน !! “

ไอ้ชานยอลตบโต๊ะดังปังจนข้าวกระเด้ง ผมตักกุ้งเข้าปากอีกคำแล้วเงยหน้าขึ้นมองหน้ามันเนือยๆ
 
“กูจะไปรู้หรอวะ กูก็เดาๆเอา เห็นแม่งมุ้งมิ้งดี “
 
“เหี้ยยยยยมึง! มึงรู้ไหมมันไปไหนกัน “
 
“ห้างxxอะมั้ง เห็นแม่งบอกจะไปกินข้าวดูหนังเข้าวัดเข้าป่าช้าเข้าโรงแรมปี้ๆกันอะไรเนี่ยแหละ ..ไอ้ไคมากินข้าวดิ ซื้อมาเผื่อ “
 
ผมตอบไอ้ยอลแล้วหยิบข้าวอีกกล่องออกมาจากถุง ก่อนจะหันไปกวักมือเรียกไอ้ไคที่ยืนอยู่ริมหน้าต่างให้มากินด้วยกัน
 
“เหี้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย มึง! กูยืมรถนะ !
 
ไอ้ยอลตาถลนจนแทบจะหลุดออกมานอกเบ้า มันพูดๆแล้วแม่งก็วิ่งลงไปเลย ผมกลอกตา เขี่ยผักใส่กล่องข้าวไอ้ไคไปพลางๆ เชื่อผมปะว่าอีกห้านาทีมันต้องกลับมา
 




5นาทีผ่านไป
 
“อิเหี้ยตุ้ด กุญแจรถ กูลืม ทำไมมึงไม่บอก ไอสัด แฮ่ก “
 
“ก็มึงไม่ขออะ “
 
ห้านาทีเป๊ะๆไม่ขาดไม่เกิน ไอ้ยอลวิ่งกลับมาอีกครั้ง หอบแฮ่กเหมือนหมาหอบแดด มันเกาะประตูไว้แล้วชี้หน้าผมอย่างคาดโทษ ไอสัดขำจัง
 
“ขอบใจ เดี๋ยวกูมา !
 
ผมโยนกุญแจรถไปให้มันที่หน้าประตู ไอ้ยอลรับไว้แล้วใส่เกียร์หมาออกไปอีกครั้ง
 




Chanyeol part
 
หลังจากที่ได้กุญแจรถมา ผมก็รีบวิ่งลงบันไดมาอย่างเร็ว แล้วก็ลงมาหอบอยู่ตรงชั้นล่างสุด ไม่รู้ทำไมกูไม่ใช้ลิฟต์นะเมื่อกี้ แต่คนมันรีบครับ ผมไม่ถือกีต้าร์มาด้วยก็บุญแค่ไหนละ
 
“ไอ้เหี้ยเอ้ย “
 
สบถแล้ววิ่งไปที่รถไอ้ฮุนที่จอดอยู่ตรงมุมตึกไกลๆนู้น ไม่รู้มึงจะจอดไกลๆทำเตี่ยไร กูเหนื่อย ผมพุ่งเข้าหามอไซค์ก่อนจะขึ้นคร่อมมันแล้วสตาร์ทออกไปทันที
 
ไอเชี่ยคริส มึงเป็นใครมาคาบเพื่อนกูไปอย่างงี้อะ กูเป็นเพื่อนมันมาสิบกว่าปีกูยังไม่ได้จีบมันเลยนะไอสัด ไปเที่ยวกันไกลสุดแค่เซเว่นหน้าปากซอยเอง แล้วมึงเป็นใครจะมาลากมันไปห้างอะ ไอ้แบคต้องไม่ได้ยอมไปกับมันแน่ๆ ไอ้แบคต้องโดนบังคับแน่ๆ ดูก็รู้ มันจะไปไหนกับใครได้ถ้าไม่ใช่ผม ดังนั้นแบคต้องโดนไอ้คริสบังคับแน่เลยๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ไอ้เลว
 

“บรื้นนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน “
 

ผมบิดคันเร่งอย่างแรงจนมันดั่งก้องไปทั่วทั้งโรงเรียน แต่มอไซค์กลับไม่ขยับไปไหนเลย ผมหันไปมองท่อ มันก็ไม่ได้แตกนี่ ยางก็ไม่ได้แบน แต่ทำไมบิดแล้วมันไม่ไปวะ รถมึงเสียปะเนี่ย ทำไมไม่รู้จักซ่อม เสียตอนไหนไม่เสียไอสัดมาเสียตอนรีบๆ มันใช่เรื่องปะ มอไซค์นี่ควรมีกาลเทศะหน่อยปะ คือกูก็รีบไง เพื่อนกูมันโดนลักพาตัวไปแล้วๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ โอ้ยพระเอกจะต้องไปช่วยเดี๋ยวนี้ ใครก็ได้ซ่อมมอไซค์ด่วนๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

 



“อ่อ ลืมเข้าเกียร์ “
 

อิเหี้ย หนึบเลยมึง หันมองหน้าปัดหน้ารถแล้วรู้เลย แต่นั่นไม่ใช่เวลามาโชว์โง่ ผมรีบเข้าเกียร์แล้วรีบบิดจนตัวรถกระชากออกไปในทันที

 

รอกูก่อนนะแบค เดี๋ยวพระเอกจะไปช่วยเดี๋ยวเน้แหละ ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ





________________________

100ละจ้าาาาาาาาาา อัพถี่นะตอนนี้กูเครียดเลยมาระบายใส่ฟิคเลย
ก็ไม่มีไรครับมันก็ออกมาเป็นเศษวรรณกรรมเหมือนเดิม
เพื่อความสะใจของตัวกูเอง ตอนนี้การบ้านเยอะใช่ปะ อืม กูลอกเสร็จแล้ว
เด็กๆก็ อย่าลืม ลอกการบ้านกันอย่างสม่ำเสมอนะครับ ส่งให้ครบ
ทำเองได้มึงก็ทำเอง แต่หมายถึงถ้ามึงทำไม่เป็นก็ลอกๆส่งไปเหอะ กูก็ทำ
555555555555555555555555555555555555555555
จบละไม่มีไร รักๆนะครับ คิดถึงรีดเดอร์ที่น่ารักและจังไรทุกคน จูบๆ

4 ความคิดเห็น:

  1. อิหยอน เลิกเอ๋อแค่ตอนncช้ะแกอะ อีกอย่างไง๋ว่าเสี่ยวลู่เค้าจังอะงื้อออออ

    ตอบลบ
  2. ตลกตอนคริสจะข้ามถนนแล้วฮุนบอกให้รถคาบไปแดกอ่านๆขำก๊ากกเลย

    ตอบลบ